[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]
15.06 น.ผมก็มาถึงสถานีฮาโกดาเตะโดยรถบัสจากสวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ(Hakodate Tropical Botanical Garden) รถใช้เวลาประมาณ 20 นาทีครับ
ไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหลบหนาวในอาคารสถานีรถไฟฮาโกดาเตะเลยครับ เพราะหนาวจริงๆ แต่สังเกตว่าช่วงนี้หิมะละลายแล้วนะครับ ก็นั่นไง ช่วงน้ำแข็งละลายจะหนาวมากกว่าช่วงที่น้ำเริ่มเป็นน้ำแข็งนะครับ อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์คือ ช่วงละลายมันจะต้องดึงความร้อนจากสิ่งแวดล้อมในที่นี้คืออากาศโดยรอบ และตัวเรา ไปทำให้ตัวเองมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพื่อไปละลายนั่นเอง
ที่สถานีนี้สะดวกที่มีร้าน 7-11 นี่หล่ะครับ มีร้านนี้ก็จบเรื่องไปได้ทุกสิ่ง เพราะมีทุกอย่าง สั่งกาแฟสดร้อน 1 แก้ว กับไก่ทอดชั้นกลางด้านซ้ายมือรองท้องไปก่อนครับ
นั่งจิบกาแฟไปกินไก่ทอดไป นึกไปนึกมา ไปจุดที่ขึ้นกระเช้าด้วยรถบัสได้นี่หน่า ในสมองมีแต่ไปโดยรถรางตลอด เลยออกมาด้านนอกเพื่อสำรวจสายที่จะไป นี่ครับ ไปเจอป้ายหมายเลข 4 เขียนว่าไป Mt. Hakodate Ropeway Shuttle Bus งั้นรอที่ป้ายนี้เลย
พอรถมาจอดที่ป้ายก็สอบถามคนขับซึ่งเป็นผู้หญิงครับ แกก็บอกไป พอถึงแล้วจะบอก รถขับวนไปที่อาคารอิฐแดง ขับไปเรื่อยๆ จนขึ้นเขาและก็ถึงป้ายนี้ครับ Mt. Hakodate Ropeway แตะบัตรพาสโม่ลงรถ แล้วข้ามไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเจอกับทางเข้าไปขึ้นกระเช้าเลย
ก่อนอื่น ต่อคิวซื้อตั๋วแบบไปกลับจากตู้อัตโนมัติก่อนครับ สนนราคา 1280 เยนสำหรับผู้ใหญ่ ผมแปลกใจตรงที่ว่า มีคนซื้อตั๋วเที่ยวเดียวด้วยเหรอ เออ...หรือว่าขากลับอาจเดินลงมา เพิ่งมาเห็นข้อมูลว่า มีเส้นทางรถยนต์และรถบัสขึ้นไปถึงยอดด้วยนะครับ แต่เปิดเส้นทางช่วงหน้าร้อนเท่านั้น
ได้ตั๋วเสร็จก็ขึ้นชั้นบนไปอีกชั้น ไปต่อแถวขึ้นกระเช้าอีกที
ไม่นานครับ ก็ได้ขึ้นกระเช้าแล้ว ประมาณ 16.10 น. กระเช้า หรือที่เขาเรียกว่า กอนโดล่า ก็จุคนได้เยอะมากๆนะครับ
====================รอแก้ไข====================
มาชมคลิปวิดีโอระหว่างขึ้นกระเช้าไปครับ
5-7 นาทีเองมั้งครับก็มาถึงที่ชั้นสังเกตการณ์แล้ว รีบเดินไปถ่ายวิวผ่านกระจกโดยไว แสงยังมีอยู่ครับ ถือว่ามาทันพอดี
แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนดีกว่า มุมนี้มองลงมาที่ลานอะไรสักอย่างครับ เหมือนกับต้องเสียเงินเพื่อออกไปข้างนอกเลย ไม่แน่ใจครับ
นี่ไงครับ ชั้นบนสุดที่ให้ชมวิวแบบโอเพ่นแอร์ คราคร่ำไปด้วยฝูงชน ไม่สามารถฝ่าฝูงชนไปแถวหน้าสุดได้เลยครับ แม้จะเพียง 1 shot ของการถ่ายรูปก็ยังไม่ได้ หรือจะยืนบนขั้นบันไดก็ยังมองไม่เห็นวิวครับ เลยรีบตัดสินใจกลับไปชั้นล่าง ชั้นที่เพิ่งถ่ายรูปวิวไปเพียงรูปเดียว กลัวจะเต็มซะก่อน เพราะดูแล้ว บนนี้ทั้งหนาวจากลมและไม่สามารถเข้าไปแถวหน้าได้แน่ๆ กลัวพลาดวินาทีสำคัญๆ
กลับลงมาชั้น indoor แล้วครับ ชมวิวกระเข้าตอนกำลังลงไปก่อน ที่ขาลงเพราะในกระเช้านี่โล่งมากๆ เนื่องจากเวลานี้ไม่มีใครเขาลงครับ
16.35 น. ณ เวลานี้ เริ่มมีแสงไฟมาบ้างแล้วครับ
16.38 น. เริ่มมืดลงไปอีก แสงไฟจากด้านล่างเริ่มทะยอยกันเปิดมากขึ้น
16.42 น. น่าจะเป็นเวลาที่วิวดูดีที่สุดแล้วนะครับ เพราะพระอาทิตย์เพิ่งหายไปหมาดๆ
17.02 น. ซูมไปนิดนึง แสงเยอะไปแล้ว เสียดายไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปด้วย เลยแบบเบลอนิดๆ
17.12 น. รูปวิวอ่าวฮาโกดาเตะรูปสุดท้ายแล้ว เสียดายมีแสงสะท้อนจากกระจกด้านบนที่เป็นขาวๆ หลังจากช่วงนี้ไป วิวก็เป็นแบบนี้หมดแล้วครับ เป็นอันเสร็จสิ้นการชมวิว 2 อ่าวฮาโกดาเตะด้านซ้ายมือ และขวามือคือมหาสมุทรแปซิฟิค
จะบอกว่า พอจะลงกระเช้า ปรากฎว่า ทำไม่ได้ครับ คนต่อคิวลงกันเยอะมากๆ ผมนี้ไม่สามารถยืนต่อคิวได้เลยเพราะเริ่มปวดขาอีกแล้ว ก็เลยต้องนั่งรอที่ที่นั่งชมวิวบริเวณนี้ไปเรื่อยๆครับ จนกว่าคนจะซาไป ถึงจะลงได้ พอลงจากกระเช้ามาด้านสถานีล่างแล้ว ก็เดินครับ เพราะรถบัสไม่วิ่งแล้ว เดินกลับอย่างเดียว โดยหาทางเดินลงไปที่ถนนด้านล่างเพื่อไปหาสถานีรถรางที่ใกล้ที่สุดครับ ขอบอก....ทางชันมากๆ ต้องค่อยๆเดินครับ เข่าพังกันพอดี ชั่วโมงนี้
ใช้ Google Map หาสถานีรถราง นั่นคือสถานี Jujigai Station ที่อยู่ใกล้ที่สุด
เดินข้ามฝั่งไปขึ้นรถราง ขึ้นได้ทั้ง 2 สายที่เขียนว่า For Yunokawa (ขึ้นให้ถูกฝั่งนะครับ) รถรางมาแล้ว
ประมาณ 10 นาทีก็มาลงสถานี Hakodate Ekimae Station ลงรถรางแล้วก็เดินต่อมาที่สถานีรถไฟฮาโกดาเตะอีกครั้ง จะเดินลอดซุ้มไฟ 3 เหลี่ยมทางด้านซ้ายก็เลือกได้ตามสบายครับ ตกแต่งสวยงามดี
มาถึงหน้าสัญลักษณ์ของสถานีฮาโกดาเตะ คนละเวลา คนละมุม แปลกไปอีกแบบ
ผมแวะร้าน 7-11 ที่สถานีฮาโกดาเตะอีกเช่นเคยครับ แวะซื้ออาหารไปทานที่ล็อบบี้โรงแรม ได้บะหมี่ชามนี้มา อร่อยจริงๆนะ ของเซเว่นเนี่ย
ก็เป็นอันจบสำหรับวันนี้ วันสุดท้ายในฮาโกดาเตะแล้ว เพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับโตเกียวด้วยรถไฟหัวกระสุน ชินคันเซ็น ไว้มาติดตามกันต่อในวันรุ่งขึ้นนะครับ
[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น