วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

15 วัน อินเจแปน ตอน 4.5 ไปชมวิวเมืองซัปโปโรจากมุมสูงในยามค่ำคืน บนเขาโมอิวะ(Moiwa) 1 ใน 3 ของวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น


หลังจากชาร์จแบ็ตมือถือและพักผ่อนอีกสักเล็กน้อยในห้องพักของโรงแรม Toyoko-Inn สาขาซัปโปโรแล้ว ประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆก็ต้องออกมาข้างนอกอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่ได้ทานอะไรเลย อีกทั้งเหลืออีก 1 ภาระกิจที่แพลนไว้คือ ไปชมวิวเมืองซัปโปโรจากมุมสูงบนเขาโมอิวะ(Moiwa) ในยามค่ำคืน ว่ากันว่าเป็น 1 ใน 3 ของวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น(อีก 2 ที่คือ นางาซากิ และโกเบ: ตุลาคม 2015) แถมด้วยด้านบนมีระฆังรัก(Love Bell) ให้สั่นอีกด้วย เขาว่าถ้ามากับคนพิเศษก็ให้มาลั่นระฆังที่นี่ แล้วเขียนลงในกุญแจแล้วล็อกไว้ที่ราวรอบระฆังครับไม่ได้บอกนะว่าจะสมหวังมั้ย...อิอิ  สุดท้าย ที่เขาโมอิวะนี้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ในญี่ปุ่นที่ชมวิวพระจันทร์เต็มดวงที่ดีที่สุดด้วยครับ  สาธยายมาเยอะ ตามมาด้วยกันครับ


18.21 น. กำลังเดินออกไปสถานีซัปโปโร ยามนี้ ความมืดเข้ามาเยือนเต็มที่


จะเป็นครั้งแรกที่ใช้บริการรถไฟใต้ดินในซัปโปโร เดินตามป้ายในสถานีซัปโปโรไปครับ ตัวสถานีรถไฟใต้ดินซัปโปโรอยู่ไกลพอควรเลย ใหม่ๆนี่มีหลงนะครับ บอกเลย


มาเจอร้านนี้ระหว่างทางครับ เป็นร้านราเม็ง คนยืนทานกับเพียบเลย น่าจะถูกและอร่อยครับ เห็นภาพแล้วอยากไปสั่งด้วยแต่เวลาไม่มี งั้นผ่านไปก่อน


เลือกใช้รถไฟใต้ดินสาย Toho Line  for FUKUZUMI จากสถานี Sapporo(subway) ไปลงสถานี Odori เพียง 1 สถานีเท่านั้น ใช้บัตรพาสโม่ครับ แล้วหาทางออกที่บอกว่าไปสถานีรถราง(Streetcar) NishiYon Chome แล้วโผล่มาบนดินที่สี่แยกนี้ครับ จากในรูป ข้ามถนนไป 1 เลนก็จะเจอกับสถานีรถราง NishiYon Chome ด้านขวามือแล้ว


โน่นไง แล่นมาแล้ว รถรางกำลังแล่นมาพอดี แต่รถที่จะขึ้นอยู่ขวามือ หลังสุดครับ


คันนี้ครับ ขึ้นหลังลงหน้า ใช้บัตรไม่ได้นะครับ รับเงินสดอย่างเดียว ค่าตั๋ว 200 เยน


ภายในรถ นั่งสักพักจะอุ่นขึ้นมานะครับ heater อยู่ใต้เบาะออกมาตรงขา


ใช้เวลา 35 นาทีทีเดียว แล้วก็มาถึงสถานี ROPEWAY IRIGUCHI  สงสัยผมจะนั่งผิดฝั่ง เลยอ้อม


ลงมาจากรถรางก็ข้ามถนน 1 เลน ฝั่งเดิมนะครับ เดินไปในซอยเล็กน้อย จะเห็นป้ายรถเมลที่เขียนว่า Mt. Moiwa Shuttle Bus Stop ทางซ้ายมือเข้าไปข้างในนิดนึง ไม่ได้อยู่ติดถนนเลย แต่เห็นจากทางเข้าซอยนะครับ ขึ้นฟรีไม่เสียเงินแต่อย่างใด


กำลังเดินต่อแถวอยู่ รถก็แล่นเข้ามาเลย ดีครับได้ขึ้นรถด้วย ไม่ต้องยืนรอนาน ภาพเบลอไปนิดนะครับ


3 นาทีเองก็ถึงหน้าทางเข้าอาคารแล้วแล้ว รถจะขึ้นเขามาเรื่อยๆไม่ไกล แต่ถ้าเดินก็อ๊วกหล่ะครับ


ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 เพื่อมาเข้าแถวซ์้อตั๋วก่อนขึ้นกระเช้าครับ ผู้ใหญ่ไป-กลับ ราคา 1700 เยน จัดไป


แล้วมารอเข้าคิวขึ้นกระเช้าตรงนี้อีกครั้ง ผมเป็นคนที่ 5 จากหัวแถวครับ


นี่ไง 1700 เยน ไปกลับ ถึงสถานีบนสุด


ตรงกระจกจะมีป้ายติดไว้ว่า ห้ามใส่ตัวสตั๊ดกันลื่นที่รองเท้าเดินไปมานะครับ เพราะคงกลัวพื้นทางเดินปกติจะเสียหาย เอาไว้ไปใส่บนพื้นหิมะละกัน พอดีตอนนี้ไม่ได้ใส่มาด้วย ไม่เป็นไร


ได้คิวเดินไปขึ้นกระเช้าช่วงแรกแล้วครับ กระเช้าช่วงนี้จะใหญ่ และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง เพราะไม่มีจริงๆ ยืนครับยืน แป๊ปเดียวเอง


ประมาณ 10 นาที ลงจากกระเช้าช่วงแรก เดินนิดนึงมาขึ้นกระเช้าช่วงที่ 2 อันนี้จะเล็กกระทัดรัดกว่าช่วงแรกครับ


กระเช้าช่วงที่ 2 ใช้เวลาสั้นกว่าอันแรกเพราะระยะสั้นกว่า ในที่สุดก็ถึง ลงจากกระเช้าก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอีกนะครับ 2 ชั้นด้วยกัน แล้วออกไปด้านนอกก็จะเจอกับวิวแบบนี้ คนเยอะมากๆ ไม่สามารถถ่ายแบบโล่งๆได้เลย เพราะแต่ละคนก็อยากจะขึ้นไปลั่นระฆังที่อยู่ด้านบนกัน บอกเลยทริปนี้ถ่ายภาพกลางคืนแย่มากๆ


ถ่ายวิวเมืองซัปโปโรยามค่ำคืนครับ แสงเยอะมาก เปิดไฟกันพรึบเลย


กลับมาถ่ายเจ้าระฆังอันเดิม ก็ยังมีคนเยอะอยู่


วิวตัวเมืองบ้าง จริงๆสวยนะครับ แต่ลมแรง+ไม่มีขาตั้งกล้อง+มือสั่น ภาพเลยออกมาแบบนี้ นี่ขนาดวางบนราวจับแล้วนะเนี่ย แต่เห็นอะไรไกลๆ


ซูมเข้าไปหน่อย อยากเห็นว่าใช่ตามที่คิดมั้ย ใช่จริงๆด้วย Sapporo TV Tower นั่นเอง โทษทีที่ภาพสั่นเอามากๆ


พลิกมามุมทางขวาบ้าง ตรงกับเส้นทางกระเช้าเลย


อีกรูป


ก่อนจะกลับ ขอชักภาพคนอื่นที่กำลังลั่นระฆังอีกครั้ง ก็ยังเบลอเช่นเดิม ฮือๆ จะบอกว่า ข้างนอกนี่หนาวใช้ได้เลยนะครับ เพราะลมแรงมากๆ หนาวเพราะลมนี่แหล่ะ


นั่งรถบัสลงมาจากด้านหน้า ต่อรถรางเช่นเดิมแต่เป็นทิศเดิม เพราะรู้แล้วว่าตอนขามามันอ้อม เลยเปลี่ยนมาทิศเดิมซึ่งจะถึงสถานี NishiYon Chome สถานีเดิมเร็วขึ้น ซึ่งก็จริงๆด้วยครับ เพราะรถรางมันวิ่งเป็นลูปวงกลม ขึ้นอยู่ว่าเราจะขึ้นฝั่งไหนที่จะเร็วกว่ากัน คล้ายๆรถไฟ JR สายยามาโนเตะครับ จากรถรางก็เดิมลงใต้ดินมาขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Odori กลับสถานี Sapporo(Subway) แล้วก็หาอาหารทานแถวนี้เลยครับ ไปได้ร้านบะหมี่ราคาไม่แพง ร้านนี้ อยู่ใต้ดิน


เลยสั่งโซบะร้อนมา 1 ชาม ร้อนๆ อุ่นท้องเลย แต่รู้สึกว่าจะไม่อิ่มแฮะ ทานเสร็จก็เดินมองหาร้านอื่นๆ แต่คนเยอะ เลยข้ามไปดีกว่า



เดินกลับมาถึงหน้าสถานีซัปโปโรฝั่งใต้ 4 ทุ่มกว่าแล้ว ปรากฎว่าทางเข้าภายในเข้าไม่ได้แล้ว เขาปิดช่วงนี้ครับ เลยต้องหาทางเดินกลับไปฝั่งเหนือเพื่อกลับโรงแรม


ก่อนเดิมกลับก็ขอดูไฟที่เขาเปิดซะหน่อย


ต้องเดินมาทางนี้ แล้วเดินข้ามถนนไปฝั่งที่มีคนเดิน 2 คนผ่านมา เพื่ออ้อมไปโรงแรม Toyoko-Inn


สุดท้ายมาทางออกสถานีซัปโปโรฝั่งเหนือจนได้ ชักภาพด้านฝั่งนี้บ้าง เพราะไม่ค่อยเห็นด้านหน้าสถานีฝั่งนี้ครับ แล้วเดินกลับโรงแรมโดยแวะซื้อเอแคร์กับขนมอีก 1 ถุง อิอิ

แล้วกลับมาติดตามกันใหม่นะครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า(ตลอด)อีกแล้ว จะไปคิโรโระสกีรีสอร์ท ตามรอยหนังแฟนเดย์ครับ โดยคราวนี้จะฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม แล้วเอาเสื้อผ้าที่จำเป็นใส่เป้สะพายหลังไป โดยจะไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน แล้วจะกลับมาพักที่โรงแรมนี้โรงแรมเดิมในคืนวันที่ 31 ธันวาคม คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พอดี หวังว่าคงจะเป็นไปตามแผนนะครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น