วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561

15 วัน อินเจแปน ตอน 12.2 ได้เวลาเดินสำรวจรอบๆย่านอาซากุสะแบบชิลล์ๆ พร้อมทั้งเดินหาร้านขายยาเพื่อหาซื้อยาพาราเซตตามอล ก่อนจะแวะทานข้าวหน้าเนื้อและตบท้ายด้วยถั่วแดงต้มของโปรด


มาชมกันต่อครับ ตอนนี้หลังจากเก็บสัมภาระที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินสำรวจรอบๆย่านอาซากุสะ พร้อมทั้งต้องการหาร้านขายยาด้วยครับ อย่างที่เคยบอกไปตอนเดินไปสวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ มันเริ่มปวดขามาอีกแล้ว ยา Celebrex 10 เม็ดที่เอามาด้วยก็หมดไปแล้ว ยาพาราฯก็ไม่ได้เอามา ฉะนั้น วินาทีนี้ต้องการยาพาราฯมากๆ เพราะยังเหลือตั้ง 3 วันกว่าจะบินกลับไทย และหลังจากนั้นก็จะชมวิวเดิมๆเหมือนครั้งที่เคยมาย่านนี้ในครั้งที่ผ่านมา พร้อมหาอะไรทาน เสร็จแล้วก็จะไปร้าน Uniqlo เพื่อหาเสื้อกางเกง Heattech ต่อไป(เอามาขายตามที่มีลูกค้าในเพจสั่งมาครับ)

ออกจากโรงแรมบ่าย 4 โมงนิดๆ แสงแดดก็ยังมีครับ ครั้งนี้เสื้อ 3 ตัวพอแล้ว ที่ซอยโรงแรม Enaka สามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรี อย่างชัดเจน ทำเลเยี่ยมมากๆ บอกเลยยยย


เดินมานิดหน่อยก็จะเจอกับถนนสีแดงที่ตัดกับซอยโรงแรมครับ อากาศสบายๆ เดินชมวิวกันไป


ของขายเยอะดี แต่ยังไม่เจอร้านอาหารที่ถูกใจและร้านขายยา


ร้านนี้เป็นร้านปิ้งย่าง ดูเมนูน่ารับประทานมากๆครับ น่าทานจนต้องหยุดยืนดูภาพปลากรอบ(ภาพประกอบ อิอิ)


เดินมาเล็กน้อยก็เจอร้านขายยาจนได้ครับ รีบเข้าไปถามคนขายเลยว่ามียาพาราเซตามอลมั้ย คนขายไปหยิบมาให้ดู เออ...มีจริงๆด้วยแฮะ ยี่ห้อ Tylenol สัญชาติญี่ปุ่น ขายเป็นกล่องๆละ 10 เม็ด 790 เยน หรือ 237 บาท หรือตกเม็ดละ 23 บาท! ชั่วโมงนี้ยังไงก็เอาครับ จัดไป 1 กล่อง


ถนนเส้นนี้มีชื่อถนนด้วยนะครับ ชื่อว่าถนนส้ม Orange street


เดินออกไปจนตัดกับถนนใหญ่ มีร้านสตาร์บักส์อยู่ฝั่งตรงกันข้าม สำหรับคอกาแฟครับ


ผ่านประตูทางเข้าของวัดเซ็นโซจิที่ชื่อว่า Kaminarimon ประตูฝั่งนี่้คนเยอะเป็นปกติครับ ใครอยากอ่านบันทึกเดินทางที่วัดนี้ละเอียดๆแบบครั้งที่แล้วคลิกเลยครับ


แล้วก็เดินผ่านประตูไปสำรวจร้านค้าต่างๆ ร้านค้า 2 ข้างทางเปิดไฟสวยงามเลยครับ


เนื่องจากวัดเซ็นโซจิเคยมาเดินแล้วเลยสำรวจคร่าวๆแล้วเดินกลับไปทางเดิม ไปแยกนี้ดีกว่า แยกที่มีสะพาน Azuma ข้ามแม่น้ำซูมิดะไปฝั่งตรงข้าม


รอข้ามถนนที่ทางม้าลายตรงหน้าห้าง Ekimise อีกครั้ง คนเยอะเลย


กลับมายืนที่เดิม ชมวิวโตเกียวสกายทรี และคล้ายๆนิ้วสีทอง คืออาคาร Asahi Beer Headquarter เวอร์ชั่นครั้งที่แล้วที่มาช่วงมกราคม 2559 <-- คลิกเลย


วิวสะพานอะซูมะ(Azuma Bridge) ยามค่ำคืน


แล้วก็เดินย้อมกลับมาที่ประตูทางเข้าวัดอาซากุสะ Kaminarimon อีกครั้ง แต่เป็นฝั่งตรงกันข้ามของถนน



เดินเข้ามาที่ซอยเดิม เจอร้านี้เข้า จริงๆเห็นตอนขามาแล้ว เลยแวะซะเลย


ข้าวหน้าเนื้อน่าทาน แต่ดั้นสั่งแบบจัมโบ้ เป็นไงหล่ะ เกือบทานไม่หมด ชุดนี้ 720 เยน


เดินออกมาแบบอิ่มจนพุงกาง ก็แวะเข้าร้านยูนิโคล่สาขา Rox แถวนี้


หาเสื้อ Heattech แบบ Ultra Warm ที่ญี่ปุ่นจะราคาถูกกว่าไทยอยู่ 200 - 300 บาททีเดียว หิ้วไปขาย อิอิ


เสื้อไหมพรมก็มี


โอเค ดูเสื้อเสร็จแล้ว(แต่ยังไม่ซื้อ) ก็เดินกลับไปที่โรงแรม เจอเจ้าตัวนี้ รูปปั้น Kuruki


กลับเข้ามาภายในล็แบบี้โรงแรมอีกครั้งครับ อุ่นขึ้นมาเลย นั่งไปพักไปก่อน พร้อมกับทานยาพาราฯ แล้วค่อยขึ้นไปที่ชั้นแคปซูลของตัวเอง


ปรากฎว่า ยังไม่หลับ อยากเดินสำรวจช่วง 4 ทุ่มอีกครั้งพร้อมกับหาเครื่องดื่มทาน โดยเฉพาะถั่วแดงต้ม งั้นจัดไป มาตรงซอยทางเข้าวัดเซ็นโซจิ ร้านค้า 2 ข้างทางปิดร้านกันหมด ณ ขณะนี้ ก็แน่หล่ะครับ 10.19 น.ไปแล้ว แต่ได้อีกบรรยากาศนึงนะครับ เชื่อว่า หลายๆคนคงไม่ค่อยเคยเห็น


โคมแดงที่ ณ เวลานี้ คนน้อยลงไปเลย แต่ก็ยังมีคนยืนถ่ายรูปกัน


ส่วนวิวนี้เป็นด้านหน้า Kaminarimon รอจนคนหายไปหมด จึงได้ภาพนี้มา


ในที่สุดก็เจอตู้กดถั่วแดงต้มจนได้ ไปเจอมา 2 ตู้ 2 แบบด้วยกัน กดกินมันทั้ง 2 แบบเลย ราคาไม่เท่ากันครับ 120 กับ 130 เยน แบบด้านซ้าย 130 เยนอร่อยสุด แต่ทำไมที่นี่ราคาแพงกว่าอูเอโนะที่ราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น??  
หลังจากนั้นก็เดินกลับที่พักครับ พรุ่งนี้มีโปรแกรมตื่นเช้าอีกแล้ว เช้าจริงๆ เพราะต้องไปชมเจดีย์ Chureito ที่ใครๆไปแถบทะเลสาบคาวากูจิโกะก็ต้องไปถ่ายมาให้ได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น