วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

15 วัน อินเจแปน ตอน 5.2 กลับไปรับตั๋วจองที่นั่งฯ JR ที่ซัปโปโร ก่อนจะกลับมาพักที่โอตารุ, เดินชมวิวคลองโอตารุท่ามกลางหิมะตกตลอดเวลา


ต่อจากตอนก่อนที่ขึ้นรถบัสกลับมาจากคิโรโระสกีรีสอร์ทแล้ว ก็ต้องมาลงที่สถานี Otaruchikko แล้วก็ต้องต่อรถไฟกลับสถานีซัปโปโรอีกครั้ง เพราะอย่างที่บอกคือต้องไปรับตั๋วจองที่นั่งรถไฟล่วงหน้าจากออฟฟิศ JR ที่สถานีซัปโปโร เลี่ยงไม่ได้จริงๆ และต้องรีบไปด้วยนะครับเพราะที่ออฟฟิศปิดเวลา 19.30 น. ไม่งั้นซวยเลย ไม่มีีที่นั่งในอีก 3 วันข้างหน้า บางเที่ยวนี่ไม่มีตู้ non-reserved ด้วยซ้ำ นั่นคือไม่มีตั๋วจองฯก็ขึ้นไม่ได้ครับ ดังนั้นจึงจำเป็นมากๆ เสร็จแล้วก็จะนั่งรถไฟกลับมาที่โอตารุอีกครั้ง แต่เป็นสถานีโอตารุ แล้วไปเช็คอินที่โรงแรม Smile Hotel ตามที่จองมาแล้ว เก็บสัมภาระเสร็จก็ต้องออกมาเพื่อเดินไปชมวิวคลองโอตารุ หวังว่าคงจะได้เห็นอะไรบ้าง แล้วก็หาอะไรกิน ก่อนกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม


รถบัสจากคิโรโระสกีรีสอร์ทมาส่งที่สถานี Otaruchikko ประมาณ 5 โมงเย็น ผมนี่ลุ้นมากๆ ว่าจะเข้าไปในสถานีแล้วขึ้นรถไฟทันรอบ 17.06 น.มั้ย แต่จริงๆถึงไม่ทันก็จะมีรอบต่อไปเวลา 17.16 น. แต่ใจอยากให้ทันรอบแรก ลงมาจากรถบัสแล้วก็ต้องรีบเดินแซงคนข้างหน้าที่เดินแบบชิลล์ๆ แถมหิมะสูงเต็มทางเดินอีก รีบเดินผสมวิ่งครับ เพื่อจะให้ทันเวลา 17.06 น.ตามเวลาที่รถไฟจะออก ด้วยความรีบและหนาว กำลังจะหาถุงมือมาใส่ เอ้ย....หาไม่เจอ หายังไงก็ไม่เจอ งั้นไปรอที่ชานชาลาก่อนละกัน ตอนนี้ 17.04 น. เหลืออีกเพียง 2 นาทีเท่านั้น เฮ้อ....เกือบไป

พอขึ้นไปในรถไฟ ก็ยืนนึกว่าไปทำหายที่ไหนนะ นึกไปนึกมา อ้อ...ลืมถอดไว้ที่เบาะหน้า ตรงที่นั่งของรถบัสที่นั่งมาจากคิโรโระฯนั่นเอง เสียดายจัง คงต้องหาซื้อใหม่แน่ๆ


ไปถึงสถานีซัปโปโรเวลา 17.32 น. ลงจากรถไฟก็เดินไปที่ที่ทำการ JR เลย ไปรับตั๋วจองที่นั่งล่วงหน้ามา 3 ใบด้วยกันโดยไปที่เคาน์เตอร์เดิมกับเมื่อวานที่ไปแลก JR Pass ตัวจริงมา ก็ราบรื่นดีครับ เจ้าหน้าที่ขอบัตรเครดิตที่เราทำการอ้างอิงขณะจองบนเว็บไปรูด เขาก็จะรู้ว่าเจ้าของบัตรที่จองมาถูกคน ไม่ใช่ใครที่ไม่ได้จองแล้วมารับไป

เสร็จแล้วก็เดินเล่นหาร้าน Uniqlo ก็ไปเจอที่ศูนย์การค้า Esta ตึกที่ติดกับสถานีซัปโปโรฝั่งใต้ อยู่ชั้นบนๆ จำชั้นไม่ได้แล้วครับ จุดประสงค์หลักคือ ไปหากางเกงลองจอน Heattech Ultra Warm เนื่องจากยังหาไม่ได้เลย มีแต่ Extra Warm ส่วนเสื้อ Heattech Ulta Warm ได้แล้วที่ช็อปสถานีอูเอโนะดังที่ทราบกัน และพ่วงหาซื้อถุงมือไปด้วยเลยเพราะเพิ่งทำหายมาสดๆร้อนๆ สรุปคือได้ครบทั้งกางเกง Ultra Warm 1 ตัว(1990Y)และถุงมือ 1 คู่(990Y) เอาแบบปกติ ไม่ต้อง Heattech แต่ใช้นิ้วทัชสกรีนได้ รวมแวทแล้ว 3,215 เยน ถูกกว่าในไทย!


ได้ของเสร็จก็ไปยืนต่อแถวรอชำระเงิน ดูสิครับ คนรอชำระเงินอย่างกับเขาแจกฟรี 555 บอกเลยครับว่า ร้าน Uniqlo เสมือนกับเป็นร้านเสื้อผ้าคู่ประเทศญี่ปุ่นเลยนะครับ ราคาพอดีๆ ไม่แพง ทำให้คนญี่ปุ่นเองเขาชื่นชอบและภูมิใจในยี่ห้อนี้มากๆ แล้วเราคนไทยก็ปลื้มไปด้วยว่า เราเองก็ใช้ยี่ห้อที่คนญี่ปุ่นเองเขาก็ใช้นะเออ ไม่ใช่แบรนด์ที่ทำมาเพื่อคนต่างประเทศอย่างเดียว ซึ่งเสื้อผ้า Heattech, Fleece Jacket, Down Jacket  และอื่นๆที่ผมใส่มา 5 วันนี้มันพิสูจน์คุณภาพไปแล้วว่าของเขาดีจริงๆ ไม่ได้ยอแต่อย่างใด!


เดินจนเมื่อยเลยทีเดียว ต่อจากนั้นก็มองหาร้านอาหารครับ หิวมากๆ ไปได้ชามนี้มา ข้าวหน้าไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลม่อนโรยด้วยสาหร่าย ก็พอกล้อมแกล้มไปได้แต่ไม่อิ่มเลยแฮะ น้อยจัง


เพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็เลยจับรถไฟรอบ 19.26 น. จากสถานีซัปโปโรมาลงสถานีโอตารุในเวลา 20.09 น. วันนี้เลยนั่งรถไฟ 3 รอบไปมา


ออกจากชานชาลามาที่โถงของสถานีโอตารุ ตอนที่ไปมี Glass Art Gallery พอดี หรือแกลเลอรี่ศิลปะที่ทำด้วยแก้ว


แล้วก็ออกจากสถานีเพื่อเดินไปยังโรงแรม Smile Hotel ที่ได้จองไว้จาก Booking.com ด้านหน้าสถานีนี่ตรงกับ 3 แยกพอดีเลย ดูจาก Google Map แล้ว ต้องเดินตรงไปข้างหน้าโน้น โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือเขาว่าไม่ไกลนักจากสถานี


ทางเดินอยู่ทางขวามือครับ ค่อยๆลงบันไดไปเพราะมันจะลื่นจากหิมะที่บางส่วนละลายไป ข้ามถนนไปก็จะเจอกับสถานีรถบัสระหว่างเมืองไปซัปโปโรครับ จะบอกว่า ให้จำสถานีรถบัสนี้ไว้ก่อน เพราะอาจต้องมาใช้บริการ ฮ่าๆๆ....


ค่อยๆเดินไปตามทางเดินทางฝั่งขวา สักพักก็ถึงสี่แยกแล้วข้ามแยกไปทางซ้ายมือ เดินเข้าซอยมานิดนึงตามนี้


โรงแรม Smile Hotel Otaru จะอยู่ทางซ้ายมือนี้ครับ เดินเข้าไปกันเลย(ภาพเบลอไปหน่อยครับ)


พอเข้ามา ด้านหน้าเคาน์เตอร์จะเป็นแบบนี้ พอดีผมเอารูปตอนที่ไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามามาใส่ไว้ก่อน  เลยไม่เห็นเจ้าหน้าที่ที่รอรับเช็คอินของแขกแต่อย่างใดครับ ที่นี่ราคาคืนละ 5000 เยน


ได้ชั้น 3 มีลิฟท์ให้บริการ ได้ห้อง 305 เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอแบบนี้เลย


ส่วนเตียงนอน


และโต๊ะทำงานกับทีวี ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้ดูอะไรแต่อย่างใด


ภายในห้องน้ำ ก็เหมือนๆกับทุกๆที่ในญี่ปุ่นนะครับ


มีสบู่เหลว, คอนดิชันเนอร์ และยาสระผม จากซ้ายไปขวา ตามลำดับ ยี่ห้อ Shiseido ซะด้วย แต่ผมว่าในญี่ปุ่นคงเป็นยี่ห้อปกติธรรมดาทั่วๆไปนะครับ แต่เข้ามาไทยนี่อย่างหรู


เก็บข้าวของเสร็จก็ออกไปข้างนอกดีกว่า แม้หิมะจะตกก็ต้องไป ไม่งั้นมาไม่คุ้มแน่ๆถ้าจะมาเพื่อนอนในโรงแรมอย่างเดียว นี่เลย เดินผ่านโรงแรมบูโดกัน 2 ชื่อคุ้นๆมั้ยครับ 555


หิมะยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไป มุมนี้มองไปฝั่งขวามือเมื่อเดินไปหาคลองโอตารุนะครับ เห็นร้านอาหารใหญ่พอควรเลยครับ


ใกล้ถึงคลองโอตารุแล้ว ตรงนี้ทำไฟตกแต่งคล้ายๆต้นคริสต์มาสครับ


แล้วก็ข้ามถนนมาที่คลองโอตารุจนได้ ณ ตอนนี้ 21.04 น. คนหายไปหมดครับ โล่งเชียง แถมมีหิมะกองพูนบนทางเดินริมคลองเต็มไปหมด


มองไปอีกฝั่งตรงหัวมุมสี่แยก จะเห็นว่าเขาจะเกลี่ยหิมะจากถนนให้ไปกองสุมกันเป็นกองๆที่ด้านข้างฟุตปาทนะครับ ถนนจะได้โล่งไม่เต็มไปด้วยหิมะ เสียดายประเทศเราไม่มีภาพแบบนี้เลยต้องดั้นด้นแสวงหาไปชมไกลถึงต่างแดน


อีกฝั่งหนึ่งของสะพานข้ามคลองโอตารุ เหมือนมีคนกำลังโพสต์ท่าให้กล้อง 2 ตัว ผมเดาว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีนครับ มาที่ฮอกไกโดบอกเลย คนจีนเต็มไปหมด


ข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง ได้ภาพนี้มาเก็บไว้ แต่เอ๊ะ...มันคนละทิศทางกันหรือเปล่า ไม่ใช่มุมมหาชน อิอิ สงสัยต้องเดินไปตรงโน้นอีกสะพานนึงแล้วถ่ายย้อนกลับมาถึงจะถูก


มาชมวิว 360 องศา ณ คลองโอตารุ ซัปโปโร ท่ามกลางหิมะตกกันครับ


งั้นเดินไปตามทางเลียบคลองโอตารุด้านล่างนี้ครับ เดินไปนี่จับราวด้านซ้ายมือไปด้วยนะครับ ลื่นหัวขมำแล้วจะหาว่าไม่บอก ค่อยๆเดินไม่ต้องรีบครับ หิมะเองก็ตกอย่างไม่เกรงใจใครเลย เสื้อแจ็คเก็ตขนเป็ดที่ซื้อมาจาก Uniqlo ไทยถือว่าคุ้มสุดๆ ใช้งานได้เต็มที่เลย


ค่อยๆเดินละเมียดไปด้วยกันครับ เพราะ ณ เวลานี้ ตรงนี้มีผมคนเดียวเท่านั้น ฮ่าๆๆ จะรีบไปใย


แต่พอเดินไปจนจะถึงอีกสะพานนึงก็เริ่มเห็นผู้คนมากขึ้นครับ คงเป็นสะพานนี้แน่ๆที่เป็นมุมมหาชนอย่างที่เดาไว้


เดินมาตรงนี้คนเยอะพอควร จะหามุมโล่งๆแบบสะพานเมื่อสักครู่ไม่มีแล้ว เช่นเดิม ส่วนใหญ่คือนักท่องเที่ยวจีนครับพี่น้อง...


แหวกฝูงชนได้มารูปแรก


และอีกรูปที่ไม่มีรั้วสะพานมาบดบังมุมมหาชน ใช่แล้ว....มุมนี้แหล่ะ มุมมหาชนที่เราๆท่านๆเห็นๆกันเมื่อมาที่คลองโอตารุ!


อีกรูปเมื่อเดินไปที่กลางสะพานครับ


มาชมวิว 360 องศา ในมุมมหาชน ณ คลองโอตารุ ซัปโปโร ท่ามกลางหิมะตกกันครับ


พอได้ชมวิวคลองโอตารุอย่างหนำใจแล้ว ก็เริ่มหิวและหนาว เลยเดินหาร้านอาหารไปเรื่อยๆครับ แต่ข้ามมาอีกฝั่งนึงเพราะฝั่งเลียบคลองจะไม่มีร้านอาหาร เดินไปเดินมาเจอร้านนี้ เห็นมีข้าวหน้าปลาดิบเลยเข้าไปข้างในก่อน โดยที่ยังไม่รู้ว่าร้านชื่อว่าอะไร

พอได้โต๊ะ ลงนั่งพร้อมกับถอดแว่น โห...แว่นตาที่ใส่นี่ฝ้าขึ้นและมีน้ำเกาะจากอากาศที่อุ่นขึ้น และคิดดูครับ ตอนเดินข้างนอกจะลำบากขนาดไหน หายใจทีแว่นเป็นฝ้าที เดินไม่เห็นทางครับบอกเลย


ที่สั่งไป ข้าวหน้าปลาดิบรวมและกุ้ง 12 อย่าง เสริฟพร้อมซุปมิโสะ และชาร้อน แบบว่า...ฟินมากๆ อาหารอร่อยสุดๆเลย ชาร้อนทำให้อุ่นขึ้นมากพร้อมๆกับซุปมิโสะ ชุดนี้ 1500 เยน หรือรวมแวทแล้ว 1620 เยนเท่านั้น


ซูมให้เห็นกันใกล้ๆ เห็นภาพแล้วยังอยากกินอีกเลย บอกเลยต้องมาทานร้านนี้ครับ


พอจ่ายเงินเสร็จก็ออกมา ด้วยความอยากรู้ว่าทำไมรสชาติมันไม่ใช่รสชาติอาหารร้านธรรมดานะเนี่ย มันรสชาติแบบอร่อยมากๆเลยหล่ะ แถมให้เยอะด้วย ไม่อั้นเลย ออกมาดูชื่อร้าน ป๊าดดด โธ่ววว ร้านซูชิซันมัย(Sushi Zanmai) อันโด่งดังนี่หน่า มิน่ารสชาติสุดยอด คือร้านนี้เคยไปทานตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก โดยไปทานที่ Shimotori Shopping Street มาครับ อร่อยจริงๆ


เดินกลับที่พักแล้ว ระหว่าทางก็เจอกับร้านหลายๆร้าน และก็ร้านนี้ พิซ่าฮัทยังไงครับ แต่เวอร์ชั่นญี่ปุ่น


เดินทะลุมาตรงแยกนี้ เห็นหิมะที่กองข้างถนนอย่างสูงๆแล้วนี่ตกใจเลย แสดงว่าที่ผ่านมานี่หิมะตกหนักมากเลยสะสมกันแบบนี้ ขับรถคงยากน่าดูเลย :(


จะสังเกตเห็นโรงแรมบูโดกัน 2 อยู่อีกฝั่งหนึ่งทางขวามือ ณ ตอนนี้ เพราะขากลับเดินอีกฝั่งครับ


แล้วก็ได้เวลาเดินข้ามถนนไปทางขวามือ เพื่อจะเข้าโรงแรมที่พัก ตรงจุดนี้คือจากสี่แยกที่ตั้งโรงแรม Smile Hotel เราสามารถเห็นด้านหน้าของสถานีรถไฟโอตารุอย่างชัดเจน เพราะโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสถานีมากนัก ถือว่าเป็นอีกทำเลที่น่าพักเมื่อมาเที่ยวที่โอตารุครับ


เข้ามาภายในล็อบบี้โรงแรม ได้ไออุ่นขึ้นมา แทนที่จะขึ้นห้องไปพักผ่อน ดันมากดกาแฟสดฟรีดื่มอีก 555 ชอบของฟรีโดยเฉพาะกาแฟสด ยิ่งชอบไปใหญ่


พอถึงห้องพักของโรงแรม ได้มีโอกาสลองกางเกงลองจอน Heattech Ultra Warm ที่ซื้อมาจากร้าน Uniqlo Sapporo Esta กันแล้ว โห...ใส่สบายผ้าหนา อุ่นมากๆครับ จะได้อุ่นขาไปอีกหลายวันข้างหน้านี้แน่นอน โดยเฉพาะพรุ่งนี้ที่จะต้องไปสวนสัตว์อะซาฮิยามะ ไปดูเพนกวิ้นพาเหรดจ้าาา แล้วกลับมาติดตามกันต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ จะพาไปชมสัตว์ต่างๆในฤดูหนาว


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น