วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

15 วัน อินเจแปน ตอน 8.2 เดินไปชมสะพาน Nusamai สะพานข้ามแม่น้ำคูชิโระ ก่อนจะจับรถไฟกลับซัปโปโรเพื่อไปฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2561 ที่ถนนคนเดินทานุกิโคจิ(Tanukikoji Shopping Arcade)


ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของปี 2560 แล้วครับ ต่อจากตอนก่อนที่นั่งแท็กซี่ที่แพงที่สุดในชีวิตจากร้านอาหารหมู่บ้าน Tsurumidai มาลงที่สถานีคูชิโระจนได้ แถมยังมีเวลาเหลือๆ แต่ที่น่าเสียดายคือแสงหมดไปแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ ทำตามแพลนต่อไปคือ เดินไปเก็บภาพที่สะพาน Nusamai สะพานข้ามแม่น้ำคูชิโระ สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองนี้นอกจากนกกระเรียน แล้วต่อจากนั้นก็ถึงเวลาเดินทางด้วยรถไฟกลับไปซัปโปโร เพื่อไปฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2561 ที่ถนนคนเดินทานุกิโคจิ(Tanukikoji Shopping Arcade) ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) ย่านกินดื่มของซัปโปโรเป็นโปรแกรมสุดท้ายของปี


16.45 น. หลังจากที่ลงจากรถแท็กซี่ ดูๆแผนที่ใน Google Map แล้ว ก็เตรียมมุ่งไปฝั่งตรงกันข้ามสถานีคูชิโระโดนพลัน กลัวไม่ทันเวลารถไฟออก 19.00 น.นั่นเอง


ณ ตอนนี้ ทางเดินเท้าไม่มีหิมะปกคลุมแล้ว อากาศคงอุ่นขึ้นมาจากวันก่อน ทำให้เดินได้สะดวกและทำเวลาได้ดีครับ


ใช้เวลา 10 กว่านาทีจากสถานีคูชิโระก็มาถึงยังสะพาน Nusamai มองย้อนไปคือ Fisherman's Wharf Moo ซึ่งเป็นอาคารคอมเพล็กซ์ ที่มีตลาดปลา ร้านของที่ระลึก ร้านอาหาร และอื่นๆภายในอาคาร


ฝั่งตรงกันข้ามก็มีอาคารเปิดไฟสีๆสลับกัน สวยงามดีครับ เห็นบอกว่าคือ Okawa Ryokuchi Park


สักพักผมก็เดินข้ามมาอีกฝั่งนึงของถนน จะมีการเปิดไฟที่สวนสาธารณะぬさまい広場 นี้ หรือเรียกว่า Illumination ย่อยๆ แต่คนไม่ค่อยมีนะครับ


ได้เก็บภาพตัวสะพานและประติมากรรมรูปปั้นผู้หญิงด้วย ขอบอกว่าถ่ายยากมากกก


อีกรูปหนึ่ง สังเกตจะมีน้ำแข็งเป็นแผ่นๆลอยตามน้ำมา คงหนาวน่าดูเลย


เดินชมบรรยากาศบริเวณนี้จนหนำวใจก็เดินกลับไปสถานีครับ


ก่อนจะเข้ามาที่สถานีคูชิโระ ผมแวะซื้ออาหารมื้อเย็นที่เซเว่น แล้วนำไปทานที่โรงแรม โดยขอเค้าเข้าไปนั่งทาน เขาก็โอเคนะครับ เพราะผมยังฝากสัมภาระอยู่ เสร็จแล้วก็เอาสัมภาระออกมาแล้วกลับเข้ามาที่ตัวสถานี รอขึ้นรถไฟรอบเวลา 19.00 น.กลับซัปโปโรต่อไป ที่เห็นขบวนนี้ไม่ใช่ที่จะขึ้นนะครับ เห็นเขาเพ้นรูปลูแปงสวยดี


ชอบป้ายที่เขาบอกไว้ครับ ผู้โดยสารที่ไม่ได้จองที่นั่งไว้ ให้เข้าแถวในตู้รถไฟนั้นๆ ไม่ใช่ไปขึ้นตู้รถไฟแบบจองแล้วเดินผ่านมาอีกตู้รถไฟที่ไม่ได้จอง มันน่าเกลียด นิสัยไม่ดี


18.45 น.รถไฟขบวนที่จะไปซํปโปโรก็แล่นมาจอด แต่ยังขึ้นไม่ได้นะครับ เพราะต้องให้คนลงมาให้หมดก่อน


ยังมีเวลาอีกเยอะ เลยเดินไปหน้าขบวน ไปถ่ายด้านหน้ารถไฟขบวนนี้มา คล้ายๆหงส์แดงนะครับ


ใลก้เวลาแล้ว คนญี่ปุ่นเขาก็ยินรอคิวหน้าตู้รถไฟตัวเองอย่างเป็นระเบียบ อันนี้สำหรับตู้แบบไม่ได้จองที่นั่งครับ


ส่วนผมตู้ 4 แบบจองที่นั่งมาแล้ว ไม่มีปัญหา แค่รอให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดให้เสร็จก่อน ชื่อขบวนคือ SUPER OZORA 12


ขึ้นมาแล้วครับ ใหม่ เบาะสวยงาม สะอาดเป็นปกติของรถไฟญี่ปุ่น


ฝั่งตรงกันข้ามบ้าง


ได้นั่งแล้ว ก็วางตั๋วจองที่นั่งในช่องเสียบนี้ิ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 58 นาทีด้วยกัน นานมากๆ 555


ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า โถฉี่ก็สะอาด


ที่ล้างมือก็สะอาด ไม่เหมือนรถไฟบางประเทศ อิอิ


นั่งไปหลับไปบ้าง สุดท้ายก็มาถึงสถานีซัปโปโร ดูเหมือนจะเกินกำหนดไป 6 นาที


รีบเดินไปเช็คอินที่โรงแรมโตโยโกะอินน์โรงแรมเดิมที่เคยพัก พร้อมกับไปรับสัมภาระที่ฝากไว้เมื่อครั้งก่อน ได้กุญแจห้องมา 1224 ชั้น 12 เอาสัมภาระไปเก็บที่ห้องก่อนครับ


แล้วก็เดินออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปถนนคนเดินทานุกิโคจิ โดยพลัน


ไปรอรถไฟใต้ดินที่สถานีซัปโปโร


ลงสถานีซูซูกิโนะ(Susukino Station) แล้วก็โผล่มาที่ป้ายแห่งนี้เลย เรียกได้ว่าเป็นป้ายไฟโฆษณาสัญลักษณ์ของย่านซูซูกิโนะได้อย่างดี


เดินงงๆครับ ไม่รู้จะไปไหนดี หิมะก็ตกมาตลอดดด จนยืนอยู่ที่แยกนี้ นับถอยหลังขึ้นปีใหม่ที่นี่ซะเลย พอดีได้คุยกับน้องคนนึงอยู่ ก็สวัสดีปีใหม่กันไป สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑ เพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน ณ จุดนี้ทุกท่านครับ


เดินกลับมาที่แยกเดิมแต่เตรียมข้ามถนนไปอีกฝั่ง ไปถนนคนเดิน สังเกตว่า ฝั่งตรงกันข้ามมีโรงแรมโตโยโกะอินน์อีกสาขาที่ย่านนี้ด้วย


เดินเข้าไปที่ Tanukikoji Shopping Arcade จุดหมายคือตรงโน้นนนน


แล้วก็มาถึง...คนเยอะดี เอ๊ะ....เขาทำอะไรกัน เห็นไปรับเหล้าอะไรสักอย่าง งั้นไปรับด้วย


นี่ไง...เหล้าสาเก แจกฟรี....คัมปายๆ พร้อมกับซองกระดาษ 1 แผ่น ข้างในเป็นเหรียญ 1 เยนครับ ขอบคุณมากๆ


บรรยากาศโดยรอบครับ


มาดูครับบรรยากาศกันครับ


คนญี่ปุ่นกลุ่มนี้หล่ะครับที่เป็นกลุ่มจัดงานในคืนวันนี้


พอเมากรึ่มๆก็เดินกลับสถานีรถไฟใต้ดิน หิมะยังคงคลุมถนนอยู่ เดินระวังนิดนึง


มายืนรอข้ามถนนตรงจุดนี้ ได้วิวป้ายไฟอีกมุมนึง


แล้วก็ลงมารอรถไฟใต้ดินสถานีซูซูกิโนะ เที่ยงคืน 43 นาที


ยังจะหิว..เลยแวะซื้อโอเด้งที่เซเว่นร้านประจำก่อนถึงโรงแรม


จัดการโอเด้งที่โต๊ะทานอาหารชั้น 1 เสร็จแล้วก็ขึ้นมาบนห้อง ฮอกไกโดเรลพาสใบนี้หมดหน้าที่ของมันแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ใช้งานมา 3 วัน


สภาพเตียงก็เป็นดังภาพครับ เหมือนเดิมเป๊ะๆในทุกๆห้อง แต่ก็ยังคงต้องถ่ายเก็บไว้


แนวตั้งจากปลายเตียงไปหัวเตียง


มองไปยังทางเข้าห้อง


และภาพสุดท้ายของวันนี้ ห้องน้ำครับ ลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า ปีหน้าโน่นเลยยย อิอิ วันที่ 1 มกราคม 2561


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น