วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561

15 วัน อินเจแปน ตอน 12.1 โบกมือลาฮาโกดาเตะและฮอกไกโด เพื่อเดินทางกลับโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็น HAYABUSA 18 แล้วเช็คอินที่โรงแรมแคปซูลย่านอาซากุสะ


วันนี้แล้วสินะ ที่จะต้องอำลาเมืองฮาโกดาเตะ และเกาะฮอกไกโดแห่งนี้ไปแล้ว ตลอดระยะเวลา 9 คืน 10 วันรวมวันนี้ที่อยู่ในฮอกไกโด ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆนะครับ แม้จะมาคนเดียวก็ตาม แพลนต่างๆก็บรรลุไปได้ด้วยดี ถือได้ว่าเป็นความทรงจำที่ดีมากๆเลยครับ วันนี้ผมเลือกขบวนรถไฟชินคันเซ็นกลับโตเกียวแบบไม่เช้ามาก สบายๆ กลับตอนสายๆของวัน อยากอยู่ฮาโกดาเตะให้นานที่สุดก็ว่าได้ เลยเลือกเวลากลับจากสถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ เวลา 10.49 น. ด้วยขบวน SHINKANSEN HAYABUSA 18 ถึงสถานีอูเอโนะ เวลา 14.58 น. แต่ต้องย้อนเวลาไปขึ้นรถไฟ Limited Express ที่สถานีฮาโกดาเตะ ไม่ให้เกินเวลาเวลา 10.05 น. ซึ่งจะเป็นขบวน LTD. EXP SUPER HOKUTO 7 ถึงสถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ เวลา 10.23 น. เพื่อมีเวลาต่อขบวนชินคันเซ็นดังกล่าวให้ทัน ซึ่งตอนจองที่นั่งรถไฟดันลืมจองที่นั่งขบวน Limited Express ซะนี่ เลยไปลุ้นที่นั่งเอาละกัน แต่ไม่เป็นไรเพราะระยะเวลามันไม่นาน ถ้ายืนก็พอได้อยู่ครับ และพอถึงสถานีอูเอโนะก็จะลงที่สถานีนี้เพื่อต่อรถไฟใต้ดินอีกครั้งไปที่พัก โดยขากลับโตเกียวครั้งนี้จะพักที่ใหม่ เป็นโรงแรมแคปซูลย่านอาซากุสะที่ได้คะแนนรีวิวเยอะมากๆใน Booking.com และ Agoda คือที่ไหนต้องติดตามอ่านกัน แล้วเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยก็เป็นอันจบสำหรับตอนย่อยนี้ ฉะนั้น ตอนนี้ก็เลยจะเป็นตอนที่นั่งรถไฟ 3 ขบวน หรือ 3 ต่อด้วยกัน คือรถไฟ Limited Express จากฮาโกดาเตะไปลงสถานีฮาโกดาเตะโฮกุโตะ และต่อด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีนี้ไปลงอูเอโนะ และสุดท้าย ขบวนรถไฟใต้ดิน Metro Tokyo จากอูเอโนะไปลงอาซากุสะ งั้นมาชมกันเลยครับ



** ก่อนจะออกจากฮาโกดาเตะ ขอคั่นเวลาด้วย MV เพลงฝันลำเอียง ของพี่แจ้ โดยเป็นการประมวลภาพต่างๆที่เกิดขึ้นในฮอกไกโดครั้งนี้ เนื่องจากทริปฮอกไกโดทริปนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก MV เพลงฝันลำเอียงจากหนังแฟนเดย์นั่นเอง


ครั้งนี้ตื่นสายสบายๆ เกือบๆ 9 โมงเช้า ขนสัมภาระที่เก็บเมื่อคืนนี้แล้วลงมาทานอาหารเช้าที่ล็อบบี้โรงแรม หลังจากนั้นเช็คเอาท์เดินออกมาข้างนอกผ่านตลาดเช้าฮาโกดาเตะ วันนี้หน้าตลาดเช้าฯดูเงียบเหงาไม่เหมือนเมื่อวานที่ผู้คนยืนออเต็มไปหมด พร้อมกับพื้นทางที่แห้งสนิท หิมะไม่มีตกลงมาแล้ว มีเพียงกองหิมะน้อยๆเท่านั้น ครั้งนี้ได้เพียงมองร้านอาหารทะเลแต่ไม่มีเวลาทานอาหารอีกแล้วครับ เดินมุ่งหน้าไปที่สถานีฮาโกดาเตะต่อไป


ที่สถานีเองก็ออกจะโล่งๆอีกเช่นกัน ได้เวลาลาจากสถานีนี้แล้วนะ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเยือนอีก


เดินผ่านเกตมาแล้ว ตรงหน้าก็จะต้องเดินอีกนิดหน่อยเพื่อไปยังชานชาลาที่แจ้งไว้


ไปๆมาๆ ผมมาก่อนเวลาพอสมควร ซึ่งขบวนที่เห็นตรงหน้านี้คือขบวน HAKODATE LINER  for SHIN-HAKODATE-HOKUTO ออกโทนสีม่วงเงิน จะออกเวลา 9.49 น. ออกก่อนขบวน LTD. EXP SUPER HOKUTO 7 ถึง 16 นาทีด้วยกัน แถมเป็นขบวนพิเศษซึ่งวิ่งระหว่างสถานีฮาโกดาเตะและสถานีฮาโกดาเตะโฮกุโตะโดยเฉพาะด้วย งั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา เลยขึ้นขบวนนี้ดีกว่าครับ


ได้เวลาขึ้นรถไฟแล้วครับ นั่นไง ขึ้นมาก็เต็มซะแล้ว ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ก็ยืนกันไปครับ แค่ 22 นาทีเท่านั้นครับ ถือว่าโล่งครับแบบนี้


รถไฟแล่นเกือบถึงสถานีฮาโกดาเตะโฮกุโตะแล้วครับ มองเห็นทางรถไฟยกระดับซึ่งน่าจะเป็นทางรถไฟของชินคันเซ็นนั่นเองครับ


10.11 น. เป๊ะๆ รถไฟก็มาถึงสถนีสุดสาย สถานีฮาโกดาเตะโฮกุโตะแล้ว ต่างคนต่างลง เดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปขึ้นชินคันเซ็นต่อไป


SHIN-HAKODATE-HOKUTO


เข้าสถานีที่ป้ายนี้นะครับ Transfer to Shinkansen


ดูป้ายขบวนชินคันเซ็นที่จะถึง 10.49 น. HAYABUSA 18 ขบวนที่ผมจะขึ้นนั่นเอง ตอนนี้เวลา 10.15 น. ยังมีเวลาตั้ง 30 กว่านาที งั้นเดินไปหาซื้ออาหารเก็บไว้ทานบนรถไฟดีกว่า


ได้เบนโตะมา 1 กล่องและน้ำชาเขียวร้อน แล้วก็ลงมาชั้นชานชาลาตามเดิม ฝั่งตรงข้ามเป็นชินคันเซ็นอีกขบวน แต่ผมว่านะครับ มันก็ขบวนนี้แหล่ะ สักพักคงแล่นไปกลับรถมาที่รางฝั่งนี้


ไม่ได้เจ้าพาสนี้แย่เลยครับ JR East-South Hokkaido Rail Pass


10.38 น.ชินคันเซ็นขบวน HAYABUSA 18 ก็แล่นมาจอดที่ชานชาลา เตรียมเข้าแถวขึ้นตู้รถไฟของตัวเองกัน



ขากลับทำเลไม่ดี ได้ที่นั่งแบบแถว 3 ที่นั่ง ดันได้ที่นั่งตรงกลางซะงั้น หึๆ


ได้เวลาบ๊ายบายฮาโกดาเตะแล้วครับ แล้วเจอกันนะ


นั่งไปเรื่อยๆครับ พอผ่านไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ 13.05 น. ก็ได้เวลานำเบนโตะที่ซื้อมาออกมาทานแล้วครับ เสียดายโฟกัสไม่เข้าเป้า


นั่งๆ ชมวิวไปด้วย และแล้วก็มาถึงสถานีอูเอโนะ แต่ดูเวลาแล้วเหมือนกับเลทไป 2-3 นาทีนะครับ ลงรถไฟได้ก็ยังไม่ไปไหนครับ เพราะรอถ่ายช่วงที่ขบวน 2 บวนมันจูบกันนั่นเอง ลืมเปลี่ยน ISO ภาพเลยเบลอเล็กน้อย


ถ่ายได้แต่ท้ายขบวนที่เป็นสีแดง(Akita Shinkansen) เร่งออกตัวอย่างรวดเร็ว


โผล่มาที่ด้านบนสถานีอูเอโนะแล้วครับ เหมือนกลับมาบ้านอีกครั้ง อิอิ


แล้วก็เดินลากกระเป๋าใบใหญ่พร้อมแบกเป้สะพายหลังไปรอรถไฟใต้ดินสายกินซ่าเพื่อไปอาซากุสะต่อไป สีเหลืองเด่นชัดมากกก


ถึงแล้วครับ แต่พอลงที่สถานีอาซากุสะก็งงเล็กน้อย เพราะไม่ได้มานาน 555 ไปทางไหนนะที่ไปวัดอาซากุสะ สุดท้ายพอตั้งสติได้ก็นึกขึ้นได้ มารอข้ามถนนที่ทางม้าลายตรงนี้ก่อน จริงๆสามารถเดินตรงไปที่ซอยด้านหน้าได้เลยนะครับ แต่เพิ่งมารู้ในวันรุ่งขึ้น เลยเดินอ้อมไปทางซ้ายมือผ่านหน้าทางเข้าวัดอาซากุสะ(วัดเซ็นโซจอ) ประตู Kaminarimon


แล้วก็มาถึงโรงแรมแล้วครับ นั่นคือ ENAKA Asakusa Central Hostel โรงแรมแคปซูลที่เป็นที่นิยมมากสุดในย่านนี้



เข้ามาภายในก็จะเจอกับห้องล็อบบี้เล็กๆด้านหน้า แต่ต้องถอดรองเท้าก่อนนะครับ เก้าอี้โต๊ะน่านั่งมากๆ มีเตาให้ผิงไฟด้วย


มาลองนั่งก่อนครับ เคาน์เตอร์เช็คอินด้านขวามือ


ที่นี่มีชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษมาทำหน้าที่เป็นพนักงานรับเช็คอินด้วย


หันมองไปที่ประตูทางเข้านะครับ มีร่มให้บริการด้านขวามือ และซ้ายมือให้เก็บสัมภาระฝากไว้ พอว่างก็ไปเช็คอินก่อนครับ เขาชี้แจงฟังได้รู้เรื่องกว่าเจ้าโรงแรมแคปซูลที่อูเอโนะมากๆ จ่ายเงินไป 2 คืนครับ 5,300 เยน คือถูกนะครับกับทำเลแบบนี้ ได้การ์ดอิเล็คทรอนิคมาใบนึงพร้อมกับลูกกุญแจ เสร็จแล้วก็เตรียมนำสัมภาระไปเก็บครับ ชอบมากที่การตกแต่งเน้นโทนไม้


ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นลิฟท์ขึ้นชั้นต่างๆ และมีตู้ล็อกเกอร์ไม้ไว้เก็บรองเท้าครับ ต้องเก็บรองเท้าก่อนแล้วในล็อกเกอร์เราก็จะมีรองเท้าให้เปลี่ยนไปด้านบน


นี่ครับ ผมพักชั้น 2F 2105 แล้วไปดูกันครับ


ออกจากลิฟท์ก็เลี้ยวซ้ายเปิดประตูเข้าไปในห้องรวมซึ่งเป็นแคปซูล บอกเลย อย่างดีครับ เตียงผมน่าจะอยู่ข้างในฝั่งนี้


นี่ไง เจอแล้ว 2105 ชั้นล่าง(ผมขอไว้ครับว่าขอชั้นล่างเพราะมีปัญหากับปวดเข่า)


เปิดม่านดู สวย สะอาด ชอบๆมีตู้เก็บของด้วยนะครับ สังเกตเป็นไม้หมด ยิ่งชอบมากๆ มีผ้าเช็ดตัวให้ 1 ผืนแขวนไว้


มาชมแบบแนวตั้งกันบ้าง ไม่ต้องห่วงเรื่องความยาวของเตียง มันยาวพอกับขาเลยครับ


และนี่คือที่ไว้ผูกคล้องกระเป๋าตัวเอง ดีครับ ไม่เหมือนแคปซูลที่อูเอโนะ โน่น ต้องเอากระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่ชั้นเช็คอิน แล้วขึ้นไปนอนอีกชั้น ส่วนล็อกเกอร์ก็อยู่ห่างจากแคปซูล แย่มากๆครับ อันนี้ดีกว่ากันเยอะ หน้าแคปซูลเลย


เก็บของแล้วไปสำรวจห้องน้ำกัน ห้องน้ำจะแบ่งเป็น 2 ห้องนะครับ คือห้องอาบน้ำกับห้องสุขา ห้องนี้คือห้องอาบน้ำครับ เข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าแปรงฟัน และกระจก


ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องอาบน้ำครับ มีสบู่เหลว แชมพู และคอนดิชันเนอร์ อย่างดี ไม่เหมือนที่อูเอโนะ แก้ผ้าโทงๆ มี 3-4 ห้องอาบน้ำนะครับ


อันนี้หน้าตรงที่อ่างล้างมือและกระจก


ส่วนห้องนี้ก็จะเป็นห้องสุขาครับ โดยรวมแล้วชอบมากๆ โรงแรมนี้ เลือกไม่ผิดนะครับที่มาพักที่นี่ ไว้ถ้ามาที่โตเกียวอีกก็จะมาพักที่นี่ครับ โอเค เดี๋ยวมาติดตามในตอนต่อไป จะออกไปเดินเล่นหาอะไรทานและหาร้านยาด้วยจร้าาา


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น