วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

15 วัน อินเจแปน ตอน 3.1 เดินทาง 859 กิโลเมตรด้วยรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็น Hayabusa 1 รอบเช้าสุดจากอุเอโนะ, โตเกียว ไปชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะ เกาะฮอกไกโด


วันที่ 3 ของทริป วันนี้จะออกเดินทางจากอุเอโนะ, โตเกียว ไปฮอกไกโดด้วยรถไฟหัวกระสุน(Bullet Train) ชินคันเซ็น ขบวน Hayabusa 1 เที่ยวเช้าสุดของวันคือเวลา 6.38 น. ถึงสถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะ 10.57 น. รวมระยะเวลาบนรถไฟ 259 นาที หรือ 4 ชั่วโมง 19 นาที ระยะทาง 858.9 กิโลเมตร เลือกขบวนเช้าสุดเพราะต้องการใช้เวลาที่ฮาโกดาเตะนานๆ แต่ก็มีอุปสรรคจนได้ครับ ยังไงนะเหรอ...ต้องติดตามอ่านกัน
ซึ่งจากสถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะสุดสายรถไฟชินคันเซ็นนั้น ก็ต้องต่อรถไฟ Limited Express เข้าไปที่เมืองฮาโกดาเตะอีกต่อ แล้วก็ตรงดิ่งไปเช็คอินที่โรงแรม Toyoko-Inn พร้อมกับทำบัตรสมาชิกคลับเพื่อให้ได้ส่วนลด 5% ตอนนี้ก็เลยจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟล้วนๆ ก่อนจะมาเช็คอินที่โรงแรม


ชินคันเซ็นขบวนแรกของวันที่ออกจากโตเกียวไปฮอกไกโด(แค่ราคาตั๋วรถไฟและค่าจองที่นั่งรวม 22,680Y ก็เกือบเท่ากับราคา JR East-South Hokkaido Rail Pass แล้วครับ (ราคา 26,000Y ในไทย)


ตีห้าครึ่งผมก็ออกมาจากโรงแรมแคปซูล คืนกุญแจที่เคาน์เตอร์ที่ชั้น 4 แล้วลากกระเป๋าใหญ่พร้อมกับเป้สะพายหลังเดินลงมาด้านล่าง ที่ถนนหน้าโรงแรมโล่งสบาย ไม่มืดนักเพราะมีแสงไฟจากไฟทาง เดินลากกระเป๋าไปแวะซื้อกาแฟสดจากร้านเซเว่นร้านเดิม 100 เยน และไปต่อ ได้เห็นรถเทศบาลอูเอโนะมาเก็บขยะตั้งแต่เช้ามืดเหมือนในกทม.เรายังไงยังงั้น ต่างกันที่เขาสะอาดกว่าเยอะครับ ที่เห็นถนนตัดผ่านก็คือข้ามถนนนี้ไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นสถานีรถไฟอูเอโนะแล้วครับ โรงแรมนี้ใกล้เอามากๆ


เข้ามาภายในสถานีรถไฟอูเอโนะแล้วครับ คนยังไม่เยอะมากนักเพราะยังเช้ามืดอยู่ ร้านรวงต่างๆก็ยังไม่เปิดกัน ส่วนผู้คนที่เดินเข้ามาก็คงมีคิวเดินทางด้วยรถไฟเวลาเช้ามืดแบบนี้เหมือนผมนั่นเอง


มองป้ายที่บอกทางไปชานชาลาชินคันเซ็น เดินไปตรงทางขวามือครับ แล้วก็จะงงๆอีกแล้ว ลงบันไดเลื่อนไหนดี อ่านป้ายงงๆ เลยถามเจ้าหน้าที่รถไฟที่เดินมาแล้วกัน ยื่นตั๋วจองที่นั่งไป(ที่ได้รับมาเมื่อวาน) ให้เจ้าหน้าที่  Track 20 เจ้าหน้าที่ก็ชี้บันไดเลื่อนที่จะลงไปครับ บันไดเลื่อนนี่ยาวมากๆ เพราะลงไปใต้ดินลึกมากๆครับ
ปล.ภาพสั่นหน่อยนะครับ ใช้กล้องจากมือถือถ่ายไม่สะดวกใช้กล้อง DSLR


ลงมาถึงด้านล่างชานชาลา ขบวนที่ผมจะขึ้นอยู่ทางฝั่งขวามือ Track 20


ครั้งนี้ต้องนั่งยาว 4 ชั่วโมงกว่าๆ แน่นอนว่าจะซื้ออาหารเบนโตะไว้ไปทานระหว่างทางครับ ร้านนี้เลย เลือกไปเลือกมาได้ข้าวหน้าเนื้อราคา 1050 เยน ชั้นล่างสุดอันที่ 2 จากซ้าย และไปกดน้ำดื่มอีก 1 ขวด 110 เยน


รอรถไฟไปเรื่อยๆครับ เหลืออีกตั้ง 20 นาที พอดีมีขบวนชินคันเซ็นฝั่งขากลับแล่นเข้ามาที่ Track 21 สงสัยจะไปรับผู้โดยสารที่สถานีโตเกียว จะสังเกตเห็นว่า มี 2 ขบวนต่อกันคือขบวนสีแดง(Akita Shinkansen)ทางซ้ายมือ และขบวนสีเขียวทางขวามือ(Hokkaido Shinkansen) ซึ่งขบวนที่ผมจะขึ้นก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน คือมี 2 ขบวนพ่วงกันไป แล้วพอไปถึงสถานีโมริโอกะ(Morioka) ซึ่งอยู่เลยเซ็นไดไปแต่ยังไม่ถึงอาโอโมริ ก็จะแยกร่างครับ ขบวนสีแดงจะแยกออกไปเมืองอะคีตะทางตะวันตกของสถานี ส่วนขบวนสีเขียวก็จะวิ่งต่อไปฮอกไกโด โดยที่สถานีจะจอดนานนิดนึงเพื่อใช้เวลาแยกจากกันนั่นเอง


ขบวนนี้ไปไหนก็ไม่รู้แฮะ


มาอีกขบวน เวลา 6.21 น.


และก็ขบวนนี้มาจอด 6.24 น. แต่ยังไม่ใช่ขบวนเราครับ


ส่วนขบวนนี้ของ Track 21 


6.37 น.ก่อนเวลากำหนด 1 นาทีรถไฟชินคันเซ็นขบวน Hayabusa 1 ก็แล่นจากสถานีโตเกียวเข้าเทียบชานชาลา 20 แล้ว รับชมวิดีโอการเทียบชานชาลาได้เลยครับ


ในที่สุดก็ได้เวลาแล้ว เตรียมตัวขึ้นขบวนนี้ รอที่ตู้รถไฟที่ 4


ได้ที่นั่งริมหน้าต่างทางซ้ายมือ ขนาดความกว้างของแถวสบายๆ หายห่วงอยู่แล้วสำหรับชินคันเซ็น เพราเขาเตรียมให้นำกระเป๋าลากมาวางหน้าที่นั่งตัวเองด้วยซ้ำ ส่วนผมเอากระเป๋าใหญ่ขึ้นวางด้านบนครับ หนักจริงๆ ยกระวังนิดนึง เป้สะพายหลังก็วางมันหน้าที่นั่งแบบนี้ พร้อมกับถุงใส่เบนโตะ


ถ่ายรูปตัวเองซะหน่อย ตอนนี้เสื้อ 3 ชั้นครับ Heattech+เสื้อยืดปกติ+แจ็คเก็ตฟลีซ


พอรถไฟเรื่มแล่นก็มองวิวด้านนอกไปเรื่อยครับ วิวนี้ตอน 7.15 น.


มาดูวิดีโอคลิปวิวภายนอกรถไฟครับ


และวิวภูเขาที่มีหิมะคลุมด้านบนคล้ายๆฟูจิซังเลย ณ เวลา 7.46 น.


7.54 น. เริ่มหิวแล้ว ได้เวลานำเบนโตะ ข้าวหน้าเนื้อมาเปิดทานแล้วครับ  หอมฉุยและอร่อยดีครับ


8.06 น. รถไฟก็มาถึงเซ็นได เมืองใหญ่ทีเดียวครับ จะสังเกตว่ายังไม่มีหิมะตก


พอรถไฟออกจากสถานีไปได้ 20 กว่านาที....และแล้วเมื่อมองออกไปด้านนอกรถไฟ ก็เจอหิมะตกแว้วววว ณ เวลา 8.33 น. ผมนี่ตื่นเต้นใหญ่ มาเร็วกว่าเดิมอีกแฮะ คิดว่าจะตกตอนข้ามเกาะฮอกไกโดซะอีกแฮะ



มาชมคลิปรถไฟชินคันเซ็นแล่นท่ามกลางหิมะกันดีกว่าครับ


ตรงนี้เป็นแยกไฟแดงพอดี หิมะตกตลอดไปแล้วเมื่อรถไฟแล่นขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ


ทุกที่มีแต่ความขาวโพลนของหิมะ ชักเริ่มกลัวๆแล้วสิครับ กลัวว่าจะทนกับอากาศหนาวๆแบบนี้ไม่ไหว


9.34 น.ก็มาถึงสถานี  SHICHINOHE-TOWADA ก่อนจะเข้าสถานีชินอาโมโมริ


ณ สถานีชินอาโอโมริ หิมะตกหนักพอควร มองแทบจะไม่เห็นทางเลย หลังจากนั้นพอผ่านอาโอโมริ ก็เข้าๆออกๆอุโมงค์ครับ และจะต้องลอดอุโมงค์ใต้ทะเลที่ยาวที่สุดระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะฮอกไกโดที่มีความยาวถึง 23.3 กม.ด้วยกัน นั่นคืออุโมงค์ Seikan ดูไดอะแกรมอุโมงค์ได้ตามด้านล่าง


ไดอะแกรมภาคตัดขวางของอุโมงค์Seikan
เครดิต Wikipedia

เกือบๆ 1 ชั่วโมงก็มาถึงยังฝั่งเกาะฮอกไกโดแล้ว สัญญาณมือถือหายไปนานทีเดียวกว่าจะกลับมา วิวที่เห็นข้างนอกก็ยังขาวโพลนเช่นเดิม


ไม่นานก็ได้เวลาลงจากรถไฟชินคันเซ็นแล้วครับ 10.56 น. ก่อนลงนี่ ทั้งหมวกคลุมศีรษะ หน้ากาก ถุงมือ เตรียมพร้อม ส่วนเสื้อขนเป็ดอยู่ในกระเป๋าใหญ่ยังเอาออกมาใส่ไม่ได้ครับ แต่ก็อยากใส่เพราะคงหนาวน่าดูชม


นี่แหล่ะ ชินคันเซ็นที่นั่งมา สุดสายที่สถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะ เสียดายไม่ได้ถ่ายตรงหัวขบวนอีก


ออกจากชินคันเซ็นก็เดินตามทางผู้โดยสารมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ชูป้าย ไปฮาโกดาเตะขึ้นรถไฟ Track 1 เด่นชัด ซึ่งในรูปจะเห็นว่ามันอยู่ด้านขวามือของชานชาลา


 
แต่ด้วยอะไรไม่ทราบได้ รถไฟ Limited Express อีกสายหนึ่งที่มาจากฮาโกดาเตะกำลังจะแล่นไปซัปโปโรก็มาจอดอย่างรวดเร็วที่ Track 2 ทางซ้ายมือ ความจำที่ว่าไปฮาโกดาเตะ Track 1 มันหายไปเลย รีบเดินอย่างระวังเพราะที่พื้นมีหิมะตกอยู่เกลื่อน (อันนี้บอกไว้เลยว่าต้องเดินช้าๆนะครับ เดินห่างจากรางเยอะๆด้วย) ด้วยอารามเร่งด่วน คนอื่นๆก็รีบเดินขึ้นรถไฟอย่างรวดเร็ว ไอ้เราก็เดินยกกระเป๋าขึ้นรถไฟรางซ้ายด้วย แล้วรถไฟก็แล่นออกจากสถานี ผ่านไปสักพัก เอามือถือมาดู แผนที่ อ้าวเฮ้ย....มันไปทางซัปโปโรนี่หว่า ฉิบหายแล้ววว ขึ้นรถไฟผิดขบวน เซ็งตัวเองจริงๆตอนนั้น ก็ได้แต่หาสถานีต่อไปเพื่อลงและขึ้นรถไฟย้อนกลับในฝั่งตรงกันข้าม แต่ด้วยความที่มันนอกเมือง เลยจะจอดอีก 3 สถานีโน่น!


แล้วก็ได้ลงที่สถานีแรกที่จอดคือสถานี Onuma Koen หนาวดีแท้...รู้สึกปวดฉี่เลยเดินออกไปด้านนอกไปเข้าห้องน้ำ ที่นี่ห้องน้ำดันอยู่ไกลมาก เหลือบไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่ด้านบน โอ้ววว....อุณหภูมิ -4.7 C!!! ค่อยๆเดินย่ำไปบนพื้นหิมะ


แล้วก็เดินกลับมาที่ประตูด้านหลังสถานี เข้าไปนั่งรอรถไฟขาไปฮาโกดาเตะ
ปล.สีฟ้าๆมุมล่างซ้ายคือถุงมือครับ


รอประมาณครึ่งชั่วโมงครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกรถไฟที่จะไปฮาโกดาเตะกำลังมา ให้เดินออกไปรอได้เลย คิดดูครับ จากเวลา 11.06 น.ที่สถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะ กลับต้องเสียเวลาที่จะขึ้นรถไฟ ณ สถานีนี้เวลา 12.03 น. 1 ชั่วโมงที่เสียเวลาไป!


เอาหล่ะ ขึ้นรถไฟไปก็ได้แต่ยืนเพราะที่นั่งเต็มหมด สุดท้ายทนๆไป เวลา 12.31 น.ก็มาถึงยังสถานีฮาโกดาเตะจนได้แล้ว วันนี้เจอประสบการณ์หิมะขาวโพลนไปหมด เดินทีต้องช้าๆ ไม่งั้นลื่นได้ ที่ใส่รองรองเท้าก็ยังไม่สะดวกเอามาใส่ครับ


ถึงป้ายยินดีต้อนรับสู่ฮาโกดาเตะ รูปวิวอ่าว 2 อ่าวของฮาโกดาเตะสัญญลักษณ์ของที่นี่ก็มาต้อนรับเรา บอกกับตัวเองต้องไปชมวิวนี้ให้ได้อย่างแน่นอน


ก่อนออกสถานีขอชักภาพรางรถไฟที่นำผมมาถึงฮาโกดาเตะจนได้ครับ ขาวโพลนไปหมดเลย


แล้วก็เดินแบบงงๆ เพราะขาวโพลนไปหมด เดินฝ่าสี่แยกไฟแดงจนมาถึงโรงแรม Toyoko-Inn สาขาฮาโกดาเตะจนได้ครับ ชื่อเต็มๆยาวๆคือ Toyoko Inn Hokkaido Hakodate Ekimae Asaichi รีบจัดแจงสมัครสมาชิกคลับ และขอเช็คอินในนามสมาชิกเลย ได้ส่วนลดทันที ถ่ายรูปเสร็จรอรับบัตรจริงในวันพรุ่งนี้


เอาบัตรมาโชว์อีกครั้ง หน้าจะเป็นแบบนี้นะครับ บอกไว้เลยว่า สุดท้ายได้บัตรในวันเดียวกันครับ เร็วจริงๆ ขอชม!


พอเช็คอินที่โรงแรมเสร็จ แต่ยังเข้าห้องไม่ได้ครับ ต้องรอจนถึงเวลา 15.00 น. เลยฝากสัมภาระไว้ก่อน พร้อมกับเอาเสื้อขนเป็ดออกมาใช้ครั้งแรก ใส่ครั้งแรกตัวบวมเชียว 555 พร้อมกับนำแผ่นยางรองรองเท้าที่มีปุ๋มเหล็กไว้ยึดเกาะพื้นหิมะมาใช้อีกอุปกรณ์หนึ่ง เตรียมพร้อมจะลุยไปข้างนอกอีกครั้งในตอนย่อยต่อไปครับ โดยจะไปสำรวจตลาดเช้าฮาโกดาเตะ หาอะไรทานเพราะหิววววมากกกก


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น