วันศุกร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561

15 วัน อินเจแปน ตอน 13.1 ขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นเพื่อไปชมวิวเจดีย์ชูเรอิโตะ(Chureito Pagoda) ขนาบข้างฟูจิซังอันโด่งดัง


หลังจากห่างหายไปนาน ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เขียนอีกครั้ง ตอนนี้จะพาเพื่อนๆไปชมเจดีย์ชูเรอิโตะ(Chureito Pagoda) ที่ใครๆเห็นรูปก็ต้องร้องอ๋อ เพราะน่าจะเป็นสัญลักษณ์ๆหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิที่ขนาบด้วยเจดีย์องค์นี้ทางด้านขวาที่ได้มุมได้องศากันพอดิบพอดี ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานี Shimoyoshida Station ถึงก่อนทะเลสาบคาวากูจิโกะ ถ้ามาจากกรุงโตเกียว
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมจะออกเดินทางจากอาซากุสะ โตเกียวให้เช้าที่สุด และมีช่วงหนึ่งที่ต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Azusa 3 โดยขบวนนี้ต้องจองที่นั่งอย่างเดียวเลย ซึ่งก็ได้จองที่นั่งมาเรียบร้อยแล้วจากเมืองไทย โดยการเดินทางครั้งนี้จะต้องนั่งรถไฟทั้งหมด 4 ขบวนด้วยกันถึงจะถึงสถานีปลายทาง Shimoyoshida Station ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามมาเลยครับ
ปล. วันนี้ยังสามารถใช้พาส East-South Hokkaido Rail Pass เป็นวันที่ 6 วันสุดท้ายแล้ว


ก่อนเดินทาง ก็ต้องทวนเที่ยวรถไฟที่วางแผนเอาไว้เมื่อคืนก่อน จะได้จำได้และไม่ผิดพลาดเมื่อถึงเวลาจริง จากรูปที่เห็น ต้องออกจากสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะ ไม่เกินเที่ยวเวลา 6.52 น. โดยนั่งสายกินซ่าไปลงสถานี Kanda แล้วก็ต่อรถไฟสาย JR Chuo Line Rapid Service for TAKAO ไปลงสถานีชินจูกุ หลังจากนั้นก็ได้เวลานั่งรถไฟขบวน Limited Express Azusa 3 ที่ได้จองที่นั่งมา โดยใช้เวลา 60 นาทีด้วยกัน ไปลงสถานี Otsuki ต่อจากนั้นก็ต้องนั่งรถไฟของ Fujikyu ที่จะวิ่งไปถึงสถานีคาวากูจิโกะ แต่ผมจะลงที่สถานี Shimoyoshida Station เพื่อเดินเท้าขึ้นไปที่จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิกับเจดีย์ชูเรอิโตะ(Chureito Pagoda) เป็นจุดหมายในตอนนี้


รีบออกจากโรงแรม ENAKA Asakusa Central Hostel แล้วมารอรถไฟใต้ดินที่สถานีอาซากุสะ


แล้วก็มาลงสถานี Kanda แล้วเดินขึ้นมาด้านบนเพื่อมารอรถไฟสาย JR Chuo Line Rapid Service for TAKAO ทางด้านขวามือ ชานชาลาที่ 6


7.25 น. ก็มาลงที่สถานีชินจูกุ และก็เดินไปหาชานชาลาอันต่อไป เจอแล้วนี่ไง...รถไฟขบวน Limited Express Azusa 3 ที่จะต้องนั่ง แต่เหมือนจะเป็นตู้รถไฟแบบ Green Class เลยต้องเดินไปหาตู้แบบธรรมดาที่จองที่นั่งมา



เจอแล้วครับ เดินเข้าไปหาที่นั่งเลย


รถไฟค่อยๆเคลื่อนตัวแล้ว มองเห็นตึกสูงๆเรียวๆแปลกๆหลังนี้ทางขวามือ


เอ๊ะ....อะไรแว้บๆ ภูเขาไฟฟูจิรึเปล่า?


8.30 น. ก็มาถึงสถานี Otsuki แล้วครับ สถานีนี้จะงงๆมากๆ เพราะต้องต่อรถไฟสาย Fujikyu ไปอีกทอด โดยมีเวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น


ขึ้นสะพานข้ามรางรถไฟมา ป้ายบอกไปคาวากูจิโกะชานชาลา 4 ด้านซ้ายมือ งงมากๆ บอกเลย แต่ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถไฟถูกขบวนจนได้


ตัดฉับมาที่นี่ 9.15 น. ก็มาถึงสถานี Shimoyoshida Station จนได้ ทางขวามือคือขบวนที่ผมนั่งมา


ต้องรอรถไฟไปก่อนนิดนึงครับ ถึงจะเดินข้ามทางรถไฟไปทางซ้ายมือออกจากสถานีไปได้ ชายหญิง 2 คนที่เห็นด้านหน้าคือคนไทยที่มาลงสถานีนี้พร้อมกัน


นี่ครับ ข้ามทางรถไฟเข้ามาที่สถานีแล้ว เนื่องจากสายนี้ไม่ใช่สายของ JR พาสที่ผมเอามาใช้จึงใช้ไม่ได้กับสายนี้ ดังนั้นต้องจ่ายเงินกับพนักงานผู้หญิงที่เคาน์เตอร์ก่อนออกมาครับ


ออกมาด้านหน้าสถานีก็จะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิตรงหน้าเลย


หันหลังกลับไปเพื่อถ่ายด้านหน้าสถานีครับ


เห็นน้อง 2 คนคุยกันว่าจะไปทางไหนดี ก็เลยพูดสวนไปว่า จะไปเจดีย์ใช่มั้ยครับ คงเดินไปตามทางเส้นนี้ครับ แล้วลอดทางด่วนไป พอดีผมกดน้ำดื่มก่อน เลยเดินไปหลังน้องทั้งสอง จะเห็นว่ากำลังเดินไปตามทางด้านซ้ายมือ


คราวนี้จะเป็นการนำทางอย่างละเอียดนะครับ ไม่ชอบข้ามไปได้เลย เดินมาตามทางฟุตพาทก็จะเจอกับทางตัดกับรางรถไฟ ก็ดูซ้ายดูขวาก่อนข้ามด้วย ซึ่งจริงๆในญี่ปุ่นถ้ามีรถไฟมาที่กั้นก็จะตกลงมากั้นเองครับ แต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องมองด้วยตาตัวเองด้วยครับ


ข้ามรางรถไฟมาแล้วก็จะมีป้ายอีกครั้งว่าทางไปเจดีย์จะต้องเลี้ยวไปทางซ้ายมือ บอกเลยมาที่นี่ไม่หลงแน่ๆ


ตามทางเดินก็จะมีรูปเจดีย์ Chureito อยู่ตลอดครับ


นี่ก็อีก ห่างกันไม่กี่ก้าวเอง มาแล้วหลงก็แย่แล้วนะ


อีกรูป เป็นด้านหน้าเจดีย์ หน้าซากุระบานพอดีเลย สวยงามมากครับ


บรรยากาศเย็นๆ สบายๆมากๆครับ มีน้องคนไทย 2 คนเดินนำหน้าอยู่


และอีกจุด


ตรงนี้ใกล้ๆทางที่จะบรรจบกับถนนแล้ว


และเช่นเคย พอถึงแยกใดๆ ก็จะมีป้ายบอกตลอด ไปทางซ้ายมือครับ


เดินมาสักนิดก็จะเจอกับสามแยกเล็กๆ มีป้ายบอกไปทางขวามือ ตามผู้ชายที่เดินไปเลยครับ


อ่า...เดินมาถึงทางเข้าแล้ว


โคมไฟซ้ายขวาตรงทางเข้าอีกจุด


มาๆ เดินตามกันไป


เดินขึ้นบันได้ไม่กี่ขั้นก็เจอเสาโทริอิสีส้ม


และจุดเริ่มขึ้นบันไดยาวๆอย่างเป็นทางการก็อยู่ทางขวามือนี่เอง ทางซ้ายมือคือศาลเจ้าเล็กๆ


ค่อยๆเดินนะครับ ไม่ต้องไปแข่งกับใคร เหนื่อยก็หยุดพักครับ เช้าๆแบบนี้คนยังไม่เยอะ


มาถึงจุดที่เห็นถนนวนขึ้นไปทางซ้ายมือ ส่วนพวกเราก็เดินขึ้นบันไดต่อไปด้านขวามือ


อีกจุดที่มีศาลเจ้าเล็กๆ


หนทางยังอีกยาวไกลครับ ค่อยๆเดินไป


เดินไปก็ระวังกันด้วยนะครับ มีป้ายบอกระวังงูด้วย


เริ่มเจอคนเยอะแยะ


มาถึงจุดที่มีทางแยกไปทางขวามือ แต่ผมไม่ไป ขึ้นบันได้เหมือนเดิม


9.47 น. หันกลับหลังไปดูผลงานตัวเอง


โว้วววว.....สวยงามจัง ฟูจิซัง ถือเป็นรางวัลแด่คนช่างฝัน ที่บากบั่นมาจนจุดๆนี้ได้


ใกล้จะถึงจุดบนสุดของบันไดทางขึ้นมาแล้ว นิดเดียวจริงๆ

และแล้วก็มาถึง เจดีย์ชูเรอิโตะ(Chureito Pagoda) ตรงนี้เป็นด้านหน้านะครับ ไม่ค่อยจะมีใครถ่ายด้านหน้าเจดีย์นี้สักเท่าไหร่


แน่นอนว่า จุดหมายของผมคือ เดินขึ้นไปถ่ายวิวด้านบนที่เห็นทั้งฟูจิและเจดีย์นี้ด้วย ซึ่งต้องเดินไปตามทางขวามือ และวนขึ้นไปชั้นบนและย้อนมาที่หลังเจดีย์อีกทีหนึ่ง


ขึ้นไปแล้วก็จะเห็นแพลทฟอร์มที่ทำด้วยไม้เป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวถ่ายวิวสวยๆกัน เดินเข้าไปกันครับ


นี่ไง จัดแจงหาวิวสวยๆ ฟูจิซังต้องอยู่ตรงกลาง เจดีย์อยู่ทางขวามือ จัดองค์ประกอบกันไป


ฟ้าหม่นๆนิดนึงนะครับ เลยมาดึงเพิ่มแสงไปหน่อย ถ่ายช็อตนี้มาเกือบ 50 รูป เลือกมาลงแค่ 2 รูปเท่านั้น บรรยากาศตอนนั้นนักท่องเที่ยวพอประมาณครับ ไม่เยอะมาก ใครยืนถ่ายแล้วก็ถอยออกมาด้านหลังเพื่อให้คนอื่นๆได้ถ่ายวิวสวยๆจุดนั้นบ้าง ถือว่าโอเคเลยครับ ไม่มีใครยืนจองถ่ายจุดเดิมนานๆ


เดินมาถ่ายด้านฝั่งขวานี้บ้างครับ ไม่ค่อยมีคนมาถ่ายวิวนี้นัก ให้เจดีย์อยู่ด้านขวามือมั่ง สวยไปอีกแบบ รู้สึกว่าผมจะ Live บนเฟสบุคด้วยนะครับ ไว้เจอไฟล์วิดีโอจะมาเพิ่มอีกทีนึงครับ


แล้วก็เดินออกมาเตรียมจะกลับแล้ว ขอเก็บเจดีย์มุมนี้อีกครั้ง ผมว่าสวยดีนะ


ซูมไปหาสถานี Shimoyoshida Station ที่ได้นั่งรถไฟมาลงดีกว่า


เก็บบรรยากาศอยู่ที่เจดีย์ชูเรอิโตะ 30 กว่านาที ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วครับ ขากลับเราจะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่ตรงหน้าเราตลอด เห็นแล้วก็ให้นึกถึงตอนไปเทร็กกิ้งที่พูนฮิลล์ เนปาลนะครับ มีบางช่วงได้เห็นเทือกเขามัชฉาปูชเร บางช่วงไม่เห็น


เจอกับป้ายเตือนข้างทางอีกแล้ว ระวังหมูป่า และรั้วไฟฟ้า และระวังลิงเจี๊ยกๆด้วยนะ


วิวฟูจิซังแบบเต็มๆอีกแล้วววว


อีกวิวหนึ่งน่าาา ใกล้ทางลงขั้นสุดท้ายแล้วครับกับวิวภูเขาไฟฟูจิ


เดินกลับทางเดิมครับ ทางไปสถานี Shimoyoshida Station


เจอฝาท่อระบายน้ำสวยๆอีกแล้วววว อันนี้รถดับเพลิงใช่มั้ย


ต้องข้ามทางรถไฟอีกครั้ง มองซ้ายมองขวาก่อนข้ามนะครับ


เจอรถไฟตู้นี้จอดโชว์อยู่ แต่งเป็นรูปภูเขา ตลกดี เหมาะสำหรับเด็กๆ


555 ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรนะครับ หรือโชว์นิ่งๆอย่างเดียว ใครทราบบอกด้วยยย


แล้วก็กลับมาที่ด้านหน้าสถานี มีร้านกาแฟน่ารักๆอยู่ข้างๆ ดูท่าจะแพง เลยเก็บเพียงภาพมาดีกว่า


สุดท้ายก็เข้ามาในตัวสถานีก่อนครับ รอรถไฟที่จะไปสถานีคาวากูจิโกะต่อไป แล้วเจอกันในตอนหน้า เก็บตกรอบๆทะเลสาบคาวากูจิโกะ

[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น