[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]
1.นั่งรถรางไปชมวิวป้อมปราการดาว 5 แฉก(Star Fort) มุมสูงจากหอคอยโกเรียวคาคุ(Goryokaku Tower) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของเมืองฮาโกดาเตะ ที่พลาดไม่ได้
2. นั่งรถรางต่อไปเพื่อลงสถานียูโนะคาวะออนเซ็น(Yunokawaonsen Station) แล้วเดินเท้าต่อไปที่สวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ(Hakodateshi Nettai Botanical Gardens) เพื่อไปชมลิงออนเซ็นหรือลิงแช่น้ำร้อนนั่นเอง
3.กลับมาที่ตัวเมืองฮาโกดาเตะ แล้วช่วงเย็นๆ เดินทางด้วยรถบัสไปชมวิวอ่าวฮาโกดาเตะอันโด่งที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาฮาโกดาเตะ จากด้านบนเขาฮาโกดาเตะ ด้วยกระเช้า จริงๆจะไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แต่ก็พลาดไปด้วยกำลังขาไม่ไหวจริงๆ
ทั้งหมดก็จะเป็นแพลนคร่าวๆ ถ้าทำได้ครบนี่จะถือว่าสมบูรณ์แบบมากๆครับ เก็บสถานที่สำคัญๆของเมืองฮาโกดาเตะมาครบเลย เอาหล่ะ งั้นค่อยๆทะยอยมาชมกันครับ
วันนี้ถือว่าตื่นสายมากๆกว่าวันอื่นๆ เพราะสบายๆแล้ว เที่ยวใกล้ๆตัวเมือง ไม่ได้มีเดินทางไกล เลยทำให้ตื่นมาประมาณ 9 โมงครึ่งเห็นจะได้ ตื่นมาก็ขอชมวิวด้านนอกที่มองจากหน้าต่างห้องพักเลยครับ ที่เห็นเป็นอาคารสีดำๆ ทรงกระบอกด้านหน้าก็คือ สถานีรถไฟฮาโกดาเตะเองครับ ไม่ไกลเลย
ซูมไปดูภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะด้านหลังกันดีกว่า ด้านบนถ้าสังเกตจะเห็นเหมือนมีเสาอะไรสักอย่างอยู่บนเขาด้วย ดูจากแผนที่น่าจะเป็นภูเขา Yokotsu หรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่ชอบวิวแบบนี้มากๆดูแล้วสดชื่น
อาบน้ำแต่งตัวก็เดินออกมาด้านนอกแล้วครับ วิว ณ ตอนนี้คือ หิมะละลายหายไปเกือบหมดแล้ว ไม่เหมือนวันที่มาถึงฮาโกดาเตะวันแรก 26 ธันวาคม 2560 นั่นหิมะตกหนักเชียว แต่วินาทีนี้คือ มีแต่เศษๆ หิมะเท่านั้น
ผ่านตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ก็ชมร้านอาหารที่ขายสัตว์ทะเลกันไป เขาดูอะไรกันนะ
นี่ไง ปูตัวโตๆ ตัวนี้หนักถึง 2.6x กก. ตัวใหญ่มากๆ อยากกินๆ แต่คงจะแพงน่าดู 555 งั้นผ่านไปก่อน
เดินต่อไป...เอ๊ะ อะไรที่กำลังแขวนอยู่ เดาว่าเป็นสิ่งนำโชคให้เจ้าของร้านที่แขวนสิ่งนี้ครับ
เข้าไปด้านในของตลาดเช้า มีร้านแนว Food Court ให้เลือกทานด้วย แต่ร้านที่เหมือนจะมีของดี เช่นข้าวหน้าปลาดิบ หรือซูชิจะปิดไป 2 ร้าน น่าจะเพราะช่วงปีใหม่ ร้านที่เหลือก็ธรรมดาครับ เลยแค่ผ่านๆ
เข้ามาอีกก็จะเป็นร้านแผงขายอาหารแห้ง และผลไม้สด โดยเฉพาะเมล่อน เสียดายไม่ได้ลองทานเลย :(
แผงนี้เดินออกมาข้างนอกแล้ว เป็นอาหารทะเลแช่แข็ง ก็ถือว่ายังสดอยู่
หาร้านอาหารเพื่อฝากท้องช่วงสายของวันนี้ยังไม่เจอ เข้ามาอีกจุดหนึ่งดีกว่า อยู่ในร่ม มีแต่ร้านอาหารนะครับ มองๆกันไป สังเกต เจอร้านด้านขวาที่แขวนแบบที่ว่ามาอีกแล้วครับ
แล้วก็มาลงเอยที่ร้านนี้ครับ ด้วยราคาไม่แพงมาก เน้นข้าวหน้าปลาดิบ หรือซาชิมิรวม อย่างนี้ชุดนี้คือได้หลากหลายเลย มาเป็นชุดครับ
ซูมให้ดูกันใกล้ๆ ทั้งกุ้ง ปู แซลม่อน ทูน่า สนนราคา 1650 เยน
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางต่อ วันนี้สายมากๆแล้ว 11.18 น. มาหยุดยืนที่สี่แยก ที่ด้านหน้าคือโรงแรมโตโยโกะอินน์ และตลาเช้าฮาโกดาเตะ ผมต้องเลี้ยวไปทางซ้ายมือเพื่อไปนั่งรถรางที่สถานี Hakodate-Ekimae Station
ถึงสถานี Hakodate-Ekimae Station แล้ว ก็มายืนรอรถรางครับ จะสายไหนก็ได้ ทั้งสีแดงหรือน้ำเงิน แต่คนละฝั่งกับที่นั่งเมื่อวานนะครับ ให้ดูด้านหน้ารถรางที่เขียนว่า For Yunokawa นะครับ ใช่แน่ๆ ขึ้นได้ทั้ง 2 สาย รถรางคันที่เห็นคืออีกฝั่งหนึ่งครับ เขียน For Yachigashira (Y26)
ให้ลงที่สถานี Goryokaku-Koen-Mae Station แล้วเดินต่อไปทางเหนือครับ 10-15 นาทีได้ อ้อ ค่ารถราง 230 เยนครับ
เห็นหอยคอยโกเรียวคาคุอยู่เบื้องหน้าแล้วครับ
ด้านซ้ายมือคือร้าน Hamburger Lucky Pierrot อันโด่งดัง มีหลายสาขามากๆ
ถึงทางเข้าของหอยคอยโกเรียวคาคุ
ซื้อตั๋วเข้าชมด้านบนก่อนครับ ผู้ใหญ่ 900 เยน
แล้วยืนรอลิฟท์ ไม่นานก็ได้เข้าลิฟท์แล้ว พอลิฟท์เปิดก็จะเจอกับวิวแบบนี้ อยู่สูงจากพื้น 90 เมตรด้วยกัน
วิวแรกที่มองไปชมป้อมปราการดาว 5 แฉก ตอนแรกถ้าถ่ายด้วยเลนส์ normal จะติดขอบกระจกแบบนี้ครับ แถมเก็บดาวไม่หมดด้วยนะครับ
ซูมไปดูใกล้ๆซิ คืออาคารอะไรก็ไม่รู้ด้วยสิครับ
เดินมาทางด้านซ้ายมือ จะเห็นรูปปั้นทองเหลืองท่านั่งของ Toshizo hijikata อดีตรองหัวหน้ากลุ่มตำรวจพิเศษ "ชินเซ็งงุมิ" ของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ ผู้มีสมญานามว่า "รองหัวหน้าปิศาจ" ในแวดวงนักดาบญี่ปุ่นนับถือกันว่าฮิจิกะตะเป็นนักดาบผู้มีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
วนมาที่จุดเดิม ทางออกจากลิฟท์ คราวนี้ภาพไวด์กว่าเดิม คนเริ่มเข้ามาเยอะขึ้นครับ
กลับมาถ่ายป้อมดาว 5 แฉกอีกครั้ง เกือบจะเก็บหมดแระ อิอิ
เดินมาทางขวามือ จะเจอกับแบบจำลองของป้อมปราการดาว 5 แฉก โกเรียวคาคุ
มาชมวิวกับอีกด้านหนึ่งของหอคอยกัน น่าจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผมเดินวนขวานะครับ
ซูมแบบไม่ให้เห็นขอบกระจก
แล้วก็ซูมวิวด้านบนไปทางซ้ายมือของภาพครับ เห็นเครนตรงท่าเรือ
คราวนี้เป็นวิวของด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ มองเห็นอ่าวฮาโกดาเตะทั้ง 2 ฝั่งเลย แล้วภูเขาฮาโกดาเตะที่ตั้งอยู่ตรงข้างหน้าด้วย
นี่ไง...อาคารที่อยู่บนยอดเขาฮาโกดาเตะ ขอเดาว่าคือจุดชมวิวด้านบนเขาฮาโกดาเตะที่ต้องขึ้นกระเช้าไปครับ ซึ่งถ้าแผนที่วางไว้ไม่พลาด เดี๋ยวช่วงเย็นๆจะได้ขึ้นไปเช่นกัน
ด้านนี้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือฟ้าจะครึ้มๆเชียว
เปลี่ยนบรรยากาศมาชมโมเดลการต่อสู้สมัยก่อนกันดีกว่า Model of Goryokaku Fort (1/250)
ประวัติศาสตร์บางส่วน
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1868 ฮิจิกะตะและโอโทริ เคสุเกะ นำกองทัพฝ่ายโทะกุงะวะยึดครองป้อมโกะเรียวคะคุ (ป้อมดาวห้าแฉก) ในการรบที่ฮาโกดาเตะ และดำเนินการกวาดล้างผู้ต่อต้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการประกาศตั้งสาธารณรัฐเอะโสะในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ฮิจิกะตะก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองรัฐมนตรีกระทรวงทหารบก[4] กองทัพฝ่ายพระจักรพรรดิดำเนินการโจมตีเอะโสะต่อเนื่องทั้งทางบกและทางทะเล จนกระทั่งเมื่อมาถึงจุดสุดท้ายแห่งความขัดแย้งของการปฏิวัติ ในวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1869 (นับตามปฏิทินจันทรคติของญี่ปุ่นคือวันที่ 11 เดือน 5) ฮิจิกะตะได้เสียชีวิตระหว่างการรบบนหลังม้าจากการถูกกระสุนปืนเข้าที่สำคัญบริเวณด้านหลังส่วนล่างของเขา หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ป้อมโกะเรียวคะคุก็ตกเป็นของกองทัพฝ่ายพระจักรพรรดิ กองทัพทั้งหมดของสาธารณรัฐเอะโสะได้ยอมจำนนต่อรัฐบาลเมจิในที่สุด
source : wikipedia
การต่อสู้กันระหว่างกลุ่มชินเซ็งงุมิกับรัฐบาล
วนมาที่รูปปั้นทองเหลืองท่านั่งของ Toshizo hijikata อดีตรองหัวหน้ากลุ่มตำรวจพิเศษ "ชินเซ็งงุมิ" อีกครั้ง
อ่า...คราวนี้ใช้เลนส์ไวด์ เก็บภาพป้อมดาว 5 แฉกจนครบหมด และไม่เห็นขอบกระจกด้วย เยๆ
ซูมไปดูที่คูน้ำด้านล่าง โห...เป็นน้ำแข็งเลยเหรอเนี่ย ต้นไม้โกร๋นๆที่เห็นรอบๆ ต้นซากุระ 100% 555
มาชมคลิปวิดีโอกันครับ จะพาทัวร์ชั้นนี้ Observatory 2F ก่อนลงบันไดไปชั้นล่าง
แล้วก็ลงลิฟท์มาด้านล่าง แต่ลิฟท์จะจอดชั้น 2F ครับ ยังไม่ล่างสุดจริงๆ เพื่อให้แวะเลือกทานอาหารจากร้านอาหารที่มีอยู่ และที่เห็นลานกว้างๆ คือชั้น 1F มีที่นั่งให้นั่งพักก่อนออกไปข้างนอก
ได้เวลาเดินเท้ากลับไปที่สถานีรถรางอีกครั้ง ระหว่างทางขอแวะเก็บเจ้ารูปปั้นปูน 1 เด็กชายกับ 1 หมาที่นั่งชมวิวก่อนครับ คือมีผูกผ้าพันคอให้ด้วยสิ 555 คงเป็นหน้าหนาว เคยมั้ยครับ เวลาเราหยุดถ่ายรูป ก็จะมีคนที่เดินผ่านแถวนั้นก็จะหยุดถ่ายรูปในสิ่งที่เรากำลังถ่ายอยู่เช่นกัน มันคือจิตวิทยาครับ
เดินมาอีกนิด ก็เจออีกตัว น่าจะเป็นหมี ตัวอ้วนเชียว
โอเค ถึงสถานีรถราง Goryokaku-Koen-Mae Station ที่ลงมาแล้ว ก็ยืนรอที่ฝั่งเดิม ไม่ต้องข้ามฝั่ง เพราะเราจะนั่งต่อไปที่สถานี Yunokawaonsen Station สถานีก่อนสถานีปลายทางครับ ไว้มาติดตามตอนต่อไป ไปชมลิงออนเซ็นกัน
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น