วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

วันนี้ที่รอคอย 6 ปีเต็มกับการติดบ่วงหนี้บ้าน

วันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมได้เซ็นสัญญาเงินกู้บ้านราคา 3 ล้านบาทถ้วน กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นบ้านแบบโรสแมรี่ ที่ดิน 54.7 ตารางวา เรียกได้ว่าเป็นบ้านสไตล์สวยมากๆ และผมเองก็เลือกด้วยตัวเอง หลังจากทีเคยบ้าไปจองบ้านริมชายหาดในยาง จ.ภูเก็ต 10,000 บาท ตอนไปเที่ยวภูเก็ต แต่ก็กลับตัวทันได้คืนมา 7,000 บาท - -'

ส่วนตอนไหนที่เริ่มรู้สึกว่าไม่อยากมีบ้านแล้ว อยากจะขาย ก็ตอนที่รู้ว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก เมื่อเดือนกันยายน 2548 ซึ่งตอนนั้นพอรู้ว่าแม่มีเชื้อก็นึกเจ็บใจตัวเองที่ใจร้อนเอาเงินไปซื้อบ้านก่อน ถ้ายังไม่ซื้อก็ยังที่จะมีเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ให้เต็มที่มากกว่านี้ ตอนนั้นจึงเริ่มลังเลในบ้านหลังนี้ แต่ความอยากขายมันรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนช่วงเดือนพฤษภาคม 2549 อีก 1 ปีให้หลัง เนื่องจากโดนย้ายไปอยู่ในฟังก์ชั่นงานที่ไม่ถนัด หาทางออกไม่เจอ ก็เลยอยากที่จะลาออก แล้วคราวนี้ก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับหนี้ก้อนนี้ถ้าเผื่อตกงานชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ทั้งหมดทั้งปวงเป็นอะไรที่ไม่มีความสุขเลยกับบ้านหลังนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มาอยู่เลยสักครั้ง ทำให้ช่วงปี 2549 ติดต่อโบรกเกอร์ไว้เจ้าหนึ่งฝากขายบ้านให้ หวังว่าจะขายออกได้เร็ว แต่พอผ่านไปได้ 6 เดือนก็คว้าน้ำเหลว มีคนมาดูบ้างเล็กน้อย จนหมดสัญญาฝากขาย เป็นอันว่าขายไม่ได้  แล้วก็เลิกคิดจะขายไปช่วงหนึ่ง เพราะงานเริ่มกลับมาโอเคขึ้น ไม่ต้องลาออกแล้ว มีเงินพอที่จะผ่อนอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวอีก ครบ 3 ปีกับธอส. ดอกเบี้ยลอยตัวแบบมหาโหด ไม่ไหวแล้ว จากผ่อนเดือนละ 12,700 บาทในปีแรก, 14,100 บาทในปีที่สอง และ 16,300 บาทในปีที่สาม พอปีที่สี่ ต้องมาผ่อนเดือนละ 20,200 บาท มันขึ้นมาถึง 4 พันบาท ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ก็หาเรื่องรีไฟแนนซ์ก่อน แต่ก็มาคิดว่า ถ้ารีไฟแนนซ์ไปแล้ว แล้วมีคนมาซื้อบ้าน เราก็ต้องจ่ายค่าปรับปิดบัญชีให้ธนาคารอีก ไหนจะค่าจดจำนองใหม่กับธนาคารใหม่อีก ค่าธรรมเนียม ค่าโน่นค่านี่ เยอะแยะไปหมด เลยยังไม่ทำอะไร ทำเพียงขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมคือธอส. เหลือผ่อนต่อเดือน 19,000 บาท เชื่อมั้ย? เป็นดอกเบี้ยเดือนละ 10,000 กว่าบาท!!  แต่ก็ต้องยอมทนไป

ช่วงต้นปี 2551 ก็ได้เริ่มประกาศขายบ้านเองทางอินเตอร์เน็ตเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง ประกาศเป็น 10 กว่าเว็บ ช่วงแรกๆก็มีโทรเข้ามาเยอะมากๆ วันละเกือบ 10 ราย แต่เป็นโบรกเกอร์ซะ 9 ราย เบื่อจริงๆ อัพเดทเว็บทุกสัปดาห์ เว็บที่ดุจะมีภาษีดีที่สุดน่าจะเป็นเว็บ www.ddproperty.com ซึ่งช่วงแรกๆ ก็ซื้อให้เขาประกาศแบบข้อความแรกๆของหน้าเว็บ เดือนละ 800 บาทเองมั้ง คุ้มนะผมว่า ต่อเดือนต่อเดือนได้ 3 เดือนก็เลิกเพราะมีคนมาติดต่อเยอะก็จริง แต่ก็ไม่ซื้อสักคน ก็ประกาศแบบปกติไป ช่วงแรกๆนั้นมีคนเข้ามาดูบ้านหลายคนเลยทีเดียว นับจนถึงปัจจุบันที่ติดต่อเข้ามาดูจริงๆก็ประมาณ 20 คนได้ ไม่มีสักคนที่ดูบ้านไปแล้วโทรกลับมาอีกครั้ง ไม่มีแม้กระทั่งโทรมาต่อรองราคา จนผ่านจากเดือนเป็นปี จาก 1 ปีเป็น 2 ปี ก็มีแต่คนเข้ามาดูแล้วก็หายไป จึงเริ่มทำใจแล้ว และก็ได้รีไฟแนนซ์ไปธนาคารออมสินในเดือนกรกฎาคม 2553 เมื่อปีที่แล้วนั่นเอง

การรีไฟแนนซ์นั่นหมายถึงยอมรับความจริงที่ว่า คงยากที่จะมีคนมาติดต่อขอซื้อบ้านแล้ว คงต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ค่าจดจำนองใหม่ 1% ของวงเงินกู้ และพร้อมรับสำหรับการโดนค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อน 3 ปีในกรณีที่ เผื่อจะขายบ้านได้ในช่วง 3 ปีแรกของการรีไฟแนนซ์ ผมจึงยอมเสี่ยงที่จะรีไฟแนนซ์ไปธนาคารออมสินเพราะดอกเบี้ยที่ได้ถูกกว่าธนาคารอาคารสงเคราะห์มากๆ พอที่จะถูไถในเรื่องข้อเสียที่เราเสียไปมานิดหนึ่ง

การขายบ้านครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งอื่นๆที่คนซื้อซึ่งเป็นผู้หญิงโทรเข้ามาขอเข้าไปดูในบ้าน ซึ่งเป็นวันจันทร์ในสัปดาห์ที่ผมจะต้องบินไปอินเดียในวันพฤหัสบดีที่จะถึงแล้ว ผมไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ เลยวานให้พี่สาวไปเปิดบ้านให้ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว คิดว่าคงเหมือนๆกับเคสอื่นๆ ที่เข้าไปดูแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หายไปตามสายลม แต่ครั้งนี้ "ไม่" ครับ เธอเข้าไปดูวันจันทร์แล้วพอวันพุธเธอโทรมาขอสำเนาโฉนดกับผมเลย ผมถึงกับงง ให้พี่สาว fax ไปให้ แล้วบอกว่า ผมจะต้องไปต่างประเทศจะซื้อจริงๆหรือเปล่า จะได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายตกลงกันไว้ เธอก็โอเค แล้วไม่ได้ต่อรองราคาบ้านผมสักคำ(ผิดกับคนอื่นๆ ที่ทุกคนโทรมายังไม่ได้ดูบ้านด้วยซ้ำก็ขอต่อราคาซะแล้ว)

ผมรีบจัดแจงเตรียมสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งก็ดาวน์โหลดมาจากอินเตอร์เน็ตนานแล้ว แล้วมาดัดแปลงนิดหน่อยให้เข้ากับเรา เตรียมจะทำสัญญานี้มาตั้งนานเป็นปีสองปีแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องมาเตรียมแบบกระทันหันในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าวันที่จะบินไปอินเดียในช่วงกลางคืน วันนั้นผมลาครึ่งวันบ่ายเพื่อมาเตรียมเสื้อผ้า และก็พลอยนำสัญญาไปให้คนซื้อเซ็นด้วยเลย โดยวานให้พี่สาวนำไปให้เซ็นเพราะผมไม่ว่างต้องเตรียมของที่จะบินไปอินเดียถึง 3 สัปดาห์ด้วยกัน โดยขอเงินมัดจำไว้เพียง 10,000 บาท ส่วนราคาบ้านั้นเกือบๆ 3 ล้าน อาจจะดูว่าเงินมัดจำน้อยไป แต่ผมมองว่า ไม่ว่าจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าเขาจะซื้อแล้ว เขาก็จะซื้อวันยังค่ำ

พอทราบว่าได้รับเงินมัดจำเรียบร้อยแล้วจากพี่สาว ซึ่งผมตอนนั้นอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ก็พลอยโล่งใจ เหลือเพียงรอลุ้นให้เขานำสัญญาจะซื้อจะขายพร้อมสำเนาโฉนดและสำเนาบัตรประชาชนผมไปเป็นหลักฐานในการยื่นกู้ที่สหกรณ์ ให้ผ่านก็แค่นั้น

ระหว่างที่ผมอยู่ที่อินเดีย ก็ติดต่อความคืบหน้ากับพี่สาวในไทยตลอด ลุ้นเหมือนกัน ตอนแรกก็ลุ้นเรื่องเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปที่บ้านเพื่อประเมินราคา ก็ผ่านมาได้ สุดท้ายช่วงหลังๆ โทรถามพี่สาว พี่บอกว่า "เขารอแกกลับมาจากต่างประเทศเท่านั้น" ก็ใจชื้นขึ้นมาว่าน่าจะขายได้โดยไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่พอกลับมาถึงไทย ที่ไหนได้ ปัญหาจากผู้ซื้อไม่มีหรอกครับ แต่ดันมีปัญหากับธนาคารออมสินนะสิ ดันเป็นสาขาต่างจังหวัด มีปัญหาในการชำระด้วยเช็คอีก ต่างเขตกันก็จะมีปัญหาเรียกเก็บเงิน ซึ่งลึกๆเราก็ไม่ทราบ  ผจ.สาขา....(ไม่ระบุละกันครับ)ก็แก้ไขปัญหาไม่เป็น โวยวายจะให้ชำระเงินสดตลอด ใครมันจะไปมีเงินสดหอบมาให้คุณที่สาขา การซื้อขายต้องไปทำกันที่สำนักงานที่ดินบางพลี ไม่มีใครออกเช็คมาให้ผมฟรีๆ แล้วเอาเช็คไปชำระหนี้ธนาคารออมสินแล้วถึงจะได้โฉนดมาหรอก ทำให้เรารู้ว่าสาขานี้ไม่เป็นมืออาชีพเลย ทำนิติกรรมไม่เป็น!!!

แต่สุดท้ายวันนี้ก็มาถึงนะครับ 12 เมษายน 2554 ระยะเวลา 6 ปีพอดิบพอดี ตอนคนซื้อนัดวันมาผมยังคิดในใจเลยว่า ทำไมมันวันเดียวกันกับตอนที่ซื้อบ้านมาอะไรจะตรงวันกันเป๊ะ แสดงว่าขายได้ของจริง โชคเข้าข้างเราบ้างแล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกับการขายบ้านแบบขาดทุน ซึ่งถ้านับดอกเบี้ยที่เสียไป 6 ปีกับค่าตกแต่งบ้านแล้ว รวมแล้วก็ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทครับ ถือว่าหมดเวรหมดกรรมกันเสียที จะได้ลืมตาอ้าปาก และไม่ต้องมาติดกับดักแบบนี้อีกต่อไป.....ผมเป็นไทแล้วววววววว

อ่านเรื่องราวนี้แล้ว ไปอ่านวิธีใช้ตัวโปรแกรมคำนวณเงินกู้ผ่อนบ้านต่อได้ที่นี่ครับ
1.มอบวิธีคำนวณเงินงวดผ่อนบ้าน (โปรแกรม, ตาราง Excel) ฉลอง 10,000 วิว ณ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ มาฝากเพื่อนๆ

2.ขั้นตอนรีไฟแนนซ์บ้าน จากธอส.ไปธนาคารออมสิน, โปรแกรม EXCEL, คำนวณเงินผ่อนบ้าน, การเลือกธนาคาร, การปิดบัญชีเงินกู้บ้าน(ขายบ้าน)เมื่อยังอยู่ในช่วง 3 ปีแรก


ของแถมครับ
ตัวอย่างสัญญาจะซื้อจะขาย
1.แบบที่ 1
2.แบบที่ 2

ตัวอย่างสัญญาเช่าบ้าน
1.แบบที่ 1
2.แบบที่ 2


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น