[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]
หลังจากเดินชมสวนโอโดริแล้วก็จะเดินหาแลนด์มาร์คที่สำคัญๆของซัปโปโรอีก นั่นคือหอนาฬิกาซัปโปโร(Sapporo Clock Tower) และศาลาว่าการภูมิภาคฮอกไกโดหลังเก่า(Former Hokkaidō Government Office) ก่อนจะกลับที่พักโรงแรม Toyoko-Inn เช็คอินเข้าห้องชาร์จแบตมือถือต่อไป
15.47 น.ก็ลงมาถึงชั้นล่างของหอส่งสัญญาณทีวีซัปโปโร แล้วก็เดินมาตามทางของลานหิมะซึ่ง ณ ขณะนี้ดูเหมือนจะมีการเตรียมการอะไรบางอย่างแน่ๆเพราะมีเหมือนห้องสี่เหลี่ยมๆที่ทำด้วยไม้ติดกระจกมาวางไว้หลายห้องทีเดียว ผมเดาว่าน่าจะเตรียมงานเทศกาลหิมะซัปโปโรนั่นเอง
เดินข้ามถนนมาอีกบล็อกนึง บล็อกที่ 3 หันไปมองหอส่งสัญญาณทีวีอีกครั้ง ณ ตอนนี้เวลาบ่าย 3 โมง 50 นาที
ตรงนี้เป็น งานศิลป์ “Izumi no Zo (Statue of Fountain)” สร้างโดย Mr. Shin Hongo
เหลือบเห็นตึกฝั่งใต้ โห...แค่เบาะๆ -5 องศาเอง อิอิ มีหิมะกองสุมด้านข้างถนน
หันมาฝั่งเหนือบ้าง คือบ้านเบืองเขาสะอาด จัดการพื้นถนนได้ดีทีเดียว ตึกรอบข้างเองก็สวยงาม
มองมาฝั่งใต้อีกครั้ง ณ ตอนนี้ -4 องศาครับ
เดินมาอีกบล็อก บล็อกที่ 5 เป็นอนุสาวรีย์ Seion Monument (聖恩碑) - ทำด้วยหินสร้างขึ้นเพื่อขอบคุณจักรพรรดิญี่ปุ่นในปี 1938 ไม่ใช่หอนาฬิกาซัปโปโรแต่อย่างใด
เดินไปก็เก็บภาพไป อุตส่าห์ซูมถ่ายภาพด้านข้างศาลาว่าการภูมิภาคฮอกไกโดหลังเก่าได้แล้วเชียว แต่ในกล้องมันเล็ก เลยดูไม่ออกว่าคืออะไร 555 เลยเดินอ้อมหลงไปอีก 1 บล็อก เพราะมือถือแบ็ตหมดแท้ๆจริงเชียว
มาข้ามถนนอีกทีที่แยกนี้ครับ แหงนมองไปด้านบน โอ้ว...นกกำลังบินกลับรังกันเลย
ในที่สุดก็เดินอ้อมมาจนถึงตรงนี้ ตอนแรกคิดว่าด้านหน้าศาลาว่าการภูมิภาคฮอกไกโดหลังเก่าซะอีก ถ่ายอยู่หลายช็อตเชียว มิน่า ทำไมคนไม่มีเลย
อีกมุม ก่อนเดินจากไป...
ที่ไหนได้ อ้าวเฮ้ย....มีทางเดินมาตรงนี้ด้วย เปิดไฟสวยเชียว
ที่ไหนได้ ตรงนี้ด้านหน้านี่หว่า 555 ปั๊ดโธ่....หลงคิดว่าด้านข้างที่ผ่านมาคือด้านหน้าซะอีก
มุมกว้างบ้าง แต่หลบคนไม่ได้จริงๆ ณ ตอนนี้ เวลา 16.24 น. เองนะครับ แสงจะหมดแล้ว
ปล. มาคนเดียวนี่ จะเจอกลุ่มคนที่มาหลายๆคนขอให้ถ่ายรูปให้ตลอดเลยนะครับ ก็เลยจัดไป ไม่เคยปฏิเสธ
ได้เวลาเดินออกมาแล้วครับ สรุปคือยังหาหอนาฬิกาซัปโปโร แลนด์มาร์คสำคัญเมืองซัปโปโรอีกจุดไม่เจอ งั้นก็เดินกลับครับ จุดหมายคือโรงแรมที่พัก ตรงนี้จะเป็นสระน้ำด้านข้างศาลาว่าการฯหลังเก่า น่าจะแข็งไปแล้วนะครับ อากาศแบบนี้
มาถึงฝั่งตรงกันข้ามด้านหน้าสถานีรถไฟซัปโปโรแล้วครับ เปิดไฟอย่างสวยงามมากๆ อ้อ....ข้ามถนนเดินดีๆด้วยนะครับ เพราะมีแต่เกล็ดหิมะจะลื่นเอาครับ
ฝั่งซ้ายมือของสถานีซัปโปโรจะเป็นห้างไดมารู ใครวัยเดียวกับผมคงจำชื่อนี้ได้ ไทยไดมารู ที่ราชดำริไงครับ คุ้นๆกันมั้ยเอ่ย?
16.37 น. แต่ดูสิครับ แสงหมดไปแล้ว แต่การช็อปปิ้งเพิ่งเริ่มนะครับ จะเห็นว่าในชั้นบนของสถานีซัปโปโรจะเป็นศูนย์การค้าที่มีชื่อว่า Stellar Place Sapporo ด้านซ้ายมือคือห้างไดมารูที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ ส่วนด้านขวาที่เห็นตึกสูงๆก็คืออาคาร JR Tower มีโรงแรม JR Tower ตั้งอยู่ ว่ากันว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในฮอกไกโดเชียวนะครับ
เดินผ่านลสนด้านหน้าสถานีฯ ก็เจอกับกองถ่ายรายการอะไรสักอย่างครับ หรือการเปิดงาน Illumination หน้าสถานีฝั่งใต้นี้
เปิดไฟสวยงามเหมือนกันครับ จำได้ว่า หน้าสถานีใหญ่ๆในหน้าหนาว จะมีการเปิดไฟ หรือเรียกว่า อิลูมิเนชั่น(Illumination) กันตลอดนะครับ ครั้งแรกที่เจอคือหน้าสถานีรถไฟฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะครับ
อีกมุมหนึ่ง มองจากสถานีไปทางทิศใต้ครับ
เดินผ่านสถานีซัปโปโรแล้วก็เดินออกประตูฝั่งทางเหนือเช่นเดิม ถึงสี่แยกแวะร้านเซเว่นเลยครับ หนาวๆแบบนี้ต้องกาแฟสดร้อนไป 1 แก้ว 100 เยน สดชื่นขึ้นมาทีเดียวเชียว
รับกุญแจที่เคาน์เตอร์เสร็จก็ขึ้นมาที่ห้องเลย ได้ห้อง 214 ตามเข้ามาครับ
มุมเดิมๆกับสาขาอื่นๆ แต่ทำไมผมชอบก็ไม่รู้แฮะ เพราะห้องสะอาด กระทัดรัด ราคาไม่แพง
มุมย้อนไปด้านหน้าประตูทางเข้า ส่วนใหญ่จะได้ห้องที่ห้องน้ำอยู่ฝั่งขวามือเมื่อเดินเข้าห้องมา
มุมปลายเตียงไปหัวเตียง
ด้านข้างเตียงไปหน้าต่าง
และมุมที่เห็นราวแขวนเสื้อ
สุดท้ายกับรูปภายในห้องน้ำครับ
มีเรื่องจะเล่า....เนื่องจากแบ็ตมือถือหมดตอนขึ้นไปบนชั้นชมวิวของ Sapporo TV Tower มาถึงห้องเลยรีบชาร์จแบ็ตฯโดยด่วนเพราะคุยกับน้องค้างไว้ พอชาร์จได้ไม่เกิน 2 นาทีก็รีบเปิดเครื่อง นั่นไง...น้องเค้าทั้งส่งเมล์มาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? และมี miss call จากสายโทรศัพท์ปกติด้วยนะครับ เป็น International Call ไม่ใช่โทรจาก messenger หรือไลน์แต่อย่างใด ก็เลยรีบโทรกลับทาง messenger ไปบอกน้องเค้า ว่าไม่ได้เป็นอะไร ปกติดี แค่แบ็ตมือถือหมดไป แล้วก็เล่าเหตุการณ์การตามหาผม 555 น้องเขาตกใจกลัวผมจะเป็นอะไรไป เลยโทรหาผมให้วุ่น ทั้งเข้ามือถือผมและโทรมาที่โรงแรมนี้ ก็ต้องขอขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณจริงๆ ที่เป็นห่วงครับ
พอทำโน่นนี่เสร็จ พักสักหน่อย โปรแกรมถัดไปก็จะเริ่มขึ้นอีกแล้ว โดยผมจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้ทานอะไรเลย จะไปหาอะไรทาน พร้อมกับแพลนจะไปขึ้นเขาโมอิวะ(Moiwa) เพื่อชมวิวเมืองซัปโปโรครับ จะไปถูกและได้ขึ้นหรือไม่ต้องติดตามชมในตอนต่อไปครับ
[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 7.3] [ตอน 7.4] [ตอน 8.1] [ตอน 8.2] [ตอน 9.1] [ตอน 9.2] [ตอน 10.1] [ตอน 10.2] [ตอน 11.1] [ตอน 11.2] [ตอน 11.3] [ตอน 12.1] [ตอน 12.2] [ตอน 13.1] [ตอน 13.2] [ตอน 14.1] [ตอน 14.2] [ตอน 15.1] [ตอน 15.2]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น