วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

ตุรกี...คนเดียวก็เที่ยวได้ ตอน 12.4 เดินไปหอคอยกาลาตา นั่งรถรางต่อรถลากไปจัตุรัสทักซิม กลับมารอแสงสุดท้ายของวันที่สะพานกาลาตา ก่อนจะกลับมาเก็บภาพฮายาโซเฟียและสุลต่านอาห์เหม็ด ณ ยามค่ำคืน


ก็งวดเข้ามาแล้วนะครับสำหรับทริปดินแดน 2 ทวีปนี้ โดยตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของวันที่ 12 ที่อยู่ในตุรกี และเป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวตุรกี เพราะวันพรุ่งนี้ก็จะบินกลับไทยแล้ว จากตอนเดิมที่ลงจากเรือล่องช่องแคบบอสฟอรัส ก็จะเดินไปฝั่งทักซิมผ่านสะพานกาลาตา จะไปหอคอยกาลาตา สัญลักษณ์อย่างนึงของเมืองอิสตันบูล แล้วไปต่อไปย่านใจกลางทักซิมที่จัตุรัสทักซิมโดยนั่งรถรางไปแล้วไปต่อรถรางที่ใช้เชือกลากขึ้นเนินเรียกว่า Funicular ว่าจะหาอะไรทานสักหน่อยก่อนจะกลับมาที่เดิมคือสะพานกาลาตา จะคอยแสงสุดท้ายของวันเพื่อถ่ายวิวมัสยิดดังริมทะเลผ่านมุมมองจากสะพานกาลาตา สมควรแก่เวลาก็จะกลับย่านสุลต่านอาห์เหม็ด เข้าเช็คอินโรงแรมคืนสุดท้าย เก็บข้าวของแล้วออกมาเก็บภาพยามค่ำคืน ณ เสาโอเบลิสค์ ลานแข่งม้าในอดีต, ฮายาโซเฟีย(โบสถ์เซนต์โฟเฟีย) และมัสยิดสีฟ้า(มัสยิดสุลต่านอาห์เหม็ด) เก็บบรรยากาศจนพอหนำใจค่อยกลับโรงแรมต่อไป


17.00 น.พอดี หันไปฝั่งทักซิม เห็นหอคอยกาลาตา(Galata Tower) ตั้งตระหง่าน ตั้งใจจะเดินไปให้ถึง คงไม่ไกลเกินไปนัก


ในตุรกีก็จะมีรถเข็นเหมือนในไทยเรา ตอนนี้ควันฉุยเลย ควันจากข้าวโพดต้ม, ข้าวโพดปิ้ง หรือคั่วเกาลัดก็ไม่รู้แฮะ ดีนะที่ทดลองเกาลัดไปแล้ว ก็ธรรมดานะครับ งงก็ตรงป้ายแสดงราคาด้านขวาบนไม่รู้จะเขียนหลายบรรทัดทำไม จะกี่กรัมก็ไม่เห็นจะลดราคาเลย 100 g. 10 TL , 150 g. 15 TL .....


เห็นเยอะมาก เครื่องดื่มที่สีแดงๆ แล้วมีเหมือนเม็ดอะไรสักอย่างอยู่ในข้างใน เดาว่าบ๊วยหรืออะไรเปรี้ยวๆ กินไปคงเสาะท้องน่าดู ขอผ่านครับ


ถ้าเดินลอดป้ายตรงนี้ก็จะข้ามไปอีกฝั่งของสะพาน แต่ผมจะเดินขึ้นสะพานเลยไม่ได้เดินลอดไป


มาดูตรงนี้ก่อน เราจะเห็นใต้สะพานกาลาตาก็จะมีร้านอาหารหลายร้านเลย แต่จะมีจากริมฝั่งจนถึงตอม่อแรกเท่านั้น ดูแล้วคล้ายๆสะพานมี 2 ชั้น


ให้ตายเถอะ คันเบ็ดไม่รู้กี่อันต่อกี่อันเต็มรั้วสะพานไปหมด แต่ละคนเอาจริงเอาจังกับการตกปลามากๆนะครับ อย่างที่เห็นตอนล่องช่องแคบฯมา ไปทางไหนก็จะเจอกับคนตกปลากันเพียบเลย


แล้วก็มาเดินตามทางที่เขาจัดให้เดินกว้างมากๆครับ มากกว่า 1 เลนของรถด้วยซ้ำไป เดินสบายๆ แบล็คกราวด์ด้านหลังเป็นหอคอยกาลาตา  แดดกำลังดี ไม่ร้อน อากาศเย็นๆ โน่น...พระอาทิตย์จะตกอีกทีเกือบ 2 ทุ่มครับ


ส่วนเกาะกลางของสะพานจะเป็นรางสำหรับรถรางทั้งขาไปและขากลับ ไม่เหมือนรถไฟฟ้าบางประเทศที่บนสะพานมีรางเดียว ต้องรอให้อีกขบวนไปก่อน เฮ้อ


ชอบภาพนี้ นกกำลังโผบินเหนือเรือที่แล่นอยู่และอยู่ตำแหน่งกลางๆสะพานด้านหลังเลย สะพานด้านหลังมืชื่อว่า Haliç Metro Bridge ไว้ให้รถไฟใต้ดินแล่น


ริมสะพานก็จะมีกิจกรรมตลอด คนตุรกีกลุ่มนี้เล่นเตะบอล(ลูกสีเหลือง) ให้ลอดผ่านช่องแคบที่เขาทำไว้ ก็แปลกๆดี เห็นผมหยุดเพื่อถ่ายรูปเลยหันมาเก๊กหน้าให้ 555


โอ้ววว...แหงนมองไปบนฟ้ามีเฮลิคอปเตอร์กำลังบินมา อันนี้ครอปอีกที เลยจะเห็นใหญ่มากก


ใกล้จะถึงลาลงแล้ว เจอป้ายนี้ Ptt คงไม่ใช่ปตทในะ ส่วน Karakoy คือท่าเรืออีกท่าฝั่งทักซิมครับ


แล้วก็เดินขึ้นเนินมาเส้นนี้ครับ ชันมากๆ แต่เหนือกว่านั้นคือ ดูคนเข็นรถตรงหน้านี่สิครับ วิ่งแข่งกับรถแท็กซี่ด้านหลัง หนักก็หนักชันก็ชัน ล้มมานี่ตายเลย เจอรถเข็นทับอีก อันตรายครับ แต่พวกนี้มืออาชีพมากๆ ขนเร็ว


พอเดินมาถึง OMG คนต่อคิวเยอะมากๆ ก็เป็นอันว่าไม่ได้ขึ้นนะครับ ใครจะไปรอ เดี๋ยวจะต้องไปที่อื่นด้วย ขึ้นมาตรงนี้ก็โอแล้ว


แหงนไปมองยอดหอคอยละกัน คอตั้งบ่ากันเลยทีเดียว ฟ้ากำลังสวยใช้ได้ ถือว่ามาแล้วนะ หอคอยกาลาตา


เดินลงทางชันแล้วย้อนกลับไปนิดนึงเพื่อไปรอรถรางที่สถานี Karaköy รถรางสาย T1 ขึ้นให้ถูกฝั่งด้วยนะครับ เพราะผิดฝั่งมันก็จะข้ามสะพานกาลากลับไปฝั่งเดิม
อ้อ..กว่าจะข้ามถนนมาที่สถานีนี้ยากลำบากน่าดู รถเยอะ แม้จะรอสัญญาณไฟแล้วก็ตาม อย่างที่บอกนะครับ คนตุรกีชอบข้ามตัดหน้ารถก่อนที่จะมีสัญญาณให้รถหยุด


แล้วไปลงสุดสายคือสถานี Kabataş อย่าเพิ่งข้ามไปไหน ให้มองหาป้ายจุดเชื่อมอีกสายที่เขียนว่า Taksim -  Kabataş Funikuler Hatti แล้วก็เดินลงไปเลย


มันก็จะพามาโผล่หน้าทางเข้ารถไฟแบบขึ้นทางชัน หรือ Funicular Line มีเพียง 2 สถานีเท่านั้นคือสถานี Kabataş คือจุดนี้ และสถานี Taksim เนื่องจากบริเวณย่านทักซิมมีความสูงกว่าบริเวณอื่นๆ เลยต้องใช้รถไฟแบบนี้เชื่อมเพียง 2 จุดเท่านั้น สังเกตจากในรูปที่ชันขึ้นไปทางด้านขวาบน(ไปทักซิม)



ภายในขบวนรถ กว้างมาก เพราะมีแค่รางเดียวเท่านั้น ใช้ขบวนเดิมนี้แหล่ะไปและกลับ


ประมาณ 4 นาทีก็ขึ้นสถานี Taksim แล้วครับ เร็วจริงๆ ทั้งรถรางและ รถรางแบบทางชันใช้บัตร IstanbulKart แตะนะครับ


โผล่มาจากสถานีก็จะเป็นแบบนี้เลย Taksim Square


หันหลังไปมองที่ทางขึ้นมาจากสถานี Taksim แบบ Funicular 


เดินเข้าไปถ่ายรูป เก็บทั้งวงเวียน Taksim Square และมัสยิดใหม่ด้านหลังที่ชื่อเดียวกับชื่อย่านนี้คือ  Taksim Masjid


อนุสาวรีย์นี้มีบุคคลสำคัญใดบ้างก็ไม่ทราบได้นะครับ


หิวแล้วว....หันไปมองตรงนี้ ชั้นบนเป็นเบอร์เกอร์คิง ตอนแรกกะจะเข้าเบอร์เกอร์คิง แต่ไปๆมาๆ ชั้นล่างเคบัปมีหลายร้านเลย เลยเปลี่ยนใจไปกินเคบัปดีกว่า 555 ผมเข้าร้านทางด้านซ้ายมือสุด


นี่เลยครับ สั่งเคบัปไก่+โค้ก 1 ขวด ราคา 13 TL อิ่มนะครับ รสชาติได้อยู่


ทานเสร็จก็ยืนดูบรรยากาศอันยุ่งเหยิงบริเวณนี้ ถนนตรงหน้านี้น่าจะเป็นถนนช็อปปิ้งดัง แต่ไม่ได้พิศมัยการช็อปปิ้งหรืออะไรมากนัก เลยเดินกลับ


หยุดยืน ณ ลานกว้างของทักซิมสแควร์อีกครั้ง มันกว้างมากๆ คนเดินไปเดินมาเยอะไปหมด หลังจากนั้นก็ซื้อน้ำเปล่า 1 -วดแล้วเดินลงสถานีทักซิมกลับเส้นทางเดิมต่อไป ภาระกิจมีแค่นี้จริงๆ


มาต่อรถรางที่สถานี Kabataş เพื่อไปลงสถานี Eminönü


มาถึงแล้วครับ เดินมาฝั่งริมทะเล เดี๋ยวจะเดินเลียบร้านอาหารชั้นล่างของสะพานกาลาตาซะหน่อย เริ่มเปิดไฟหน้าร้านกันแล้ว


ราคาอาหารอย่าไปดูมันครับ เพราะแพงหูฉี่มากๆ เดินชมบรรยากาศแค่นี้ก็อิ่มแล้ว


หมดทานเดินแล้ว เดินขึ้นบันไดไปชั้นถนน มุมนี้เหมือนกับหัวเรือเลยแฮะ


มองเห็นพระราชวังทปคึปึอยู่ตรงหน้า เสียดายแสงน้อย ภาพเลยมัวๆไปหน่อย ไม่คม


นกอะไร กำลังเกาะบนโคมไฟทาง


มีรถรางกำลังแล่นผ่านมาพอดี


วิว New Mosque ซึ่งไม่ได้เปิดไฟ เลยเดินลอดไปอีกฝั่งดีกว่า เพื่อไปถ่ายอีกมัสยิดที่กำลังเปิดไฟ


ลอดสะพานมาอีกฝั่งแล้ว เพื่อให้เข้าใจมุมในการเก็บภาพต่อไปนี้ เลยเอาแผนที่ Google Map มาให้ดูเทียบกัน โดยผมจะยืนกึ่งๆเกือบจะกลางสะพานค่อนไปทาง Eminonu ประมาณจุด Galata Köprüsü


มาเก็บภาพฝั่งนี้ดีกว่า ฝั่งตะวันตกของสะพาน แสงกำลังเริ่มสวยเลยครับ เก็บภาพมุมกว้างกันก่อน จะเห็นตรงฝั่งด้านซ้ายมือที่เปิดไฟสีเขียวๆ คือร้านที่ขายเครื่องดื่มสีแดงๆไงครับ ถ้ายังจำกันได้ และมัสยิดตรงกลางคือ Rustem Pasha Mosque และ Fatih Mosque (ขอเดานะครับ) ที่อยู่ไกลๆด้านขวามือ


มาซูมเข้าไปที่มัสยิด Rustem Pasha Mosque กันบ้าง หลายท่านอาจจะเห็นภาพมัสยิดนี้เวลาดูโฆษณาเที่ยวตุรกีกัน ที่ติดทะเลก็คือท่าเรือ Eminönü (Turyol) นั่นเอง เวลาลงเรือจะลงที่ท่านี้ซส่วนใหญ่ เวลาขึ้นจะขึ้นอีกท่า


ส่องสะพาน Haliç Metro Bridge บ้าง อย่างที่บอกเป็นสะพานให้รถไฟใต้ดิน Metro แล่น สาย M2  มัสยิดที่เห็นด้านซ้ายไกลๆน่าจะชื่อ Yavuz Sultan Selim Mosque เดาล้วนๆเลยครับ


แสงเริ่มหมดไปเรื่อยๆ กลับมาเก็บภาพมัสยิด Rustem Pasha Mosque และแสงจากร้านอาหารที่สะท้อนน้ำอีกครั้ง สวยๆ


เวลาเปลี่ยน แสงก็เปลี่ยน


หันไปถ่ายมัสยิด Fatih Mosque แบบเต็มๆบ้าง มัสยิดนี้มี 2 เสา



ซูมๆ


กลับมาที่มัสยิด Rustem Pasha Mosque ครั้งสุดท้าย ตอนนี้เหลือเรือเพียงลำเดียวเท่านั้น


ซูมไปให้เห็นใกล้ๆ ก่อนจะเดินกลับ เวลา 20.20 น.พอดี


เดินมาลอดใต้ถนนเพื่อไปขึ้นรถรางนะครับ จะมี 2 ป้าย ป้ายแรกชี้ไปขวามือ ไป Kabatas แต่เราจะต้องไปอีกป้าย ที่ชี้ไปทางซ้ายมือ ไป Bagcilar


โผล่เข้ามารอรถรางที่สถานีนี้ รถรางสีเขียวที่เห็นไม่ใช่นะครับ เพราะคนละฝั่งกัน


พอลงรถรางที่สถานีสุลต่านอาห์เหม็ดแล้ว พอดีพรุ่งนี้มีไฟล์ทเช้า เลยไม่แน่ใจว่ามีรถบัสที่จะไปสนามบินอิสตันบูลใหม่เวลาไหนบ้าง เพื่อให้แน่ใจเลยเดินมาถามซะเลย ได้ความว่า มีรถบัส 24 ชั่วโมง ออกทุกชั่วโมง โอ้ว ค่อยยังชั่วหน่อย สบายใจแล้ว


เดินไปเก็บภาพฮายาโซเฟีย กับน้ำพุตรงด้านหน้าก่อน


แล้ววกมาเก็บภาพมัสยิดสุลต่านอาห์เหม็ด ยังมีคนนั่งกันไม่น้อยนะครับ ณ ตอนนี้


แล้วก็เดินไปโรงแรมเดิมก่อน Basileus Hotel ไปเอากระเป๋าใบใหญ่ที่ฝากไว้ พอดีผมเห็นพนักงานกำลังมีแขกมาเช็คอินอยู่ ซึ่งเป็นพนักงานคนเดิมที่ผมมาเช็คอินเมื่อวานที่บอกว่าคุยสนุก เลยไม่กล้าจะทักตอนที่จะเดินออกจากโรงแรม แต่พอแกเห็นผมจะเปิดประตูออกไป แกก็ทักมาก่อนว่าจะไปแล้วใช่มั้ย ขอให้โชคดีนะครับ ประมาณนั้น ก็ทักทายกัน คนที่อัธยาศัยดีก็จะดีแบบนี้จริงๆ มองไม่ผิดเลย แล้วก็ลากกระเป๋ามาที่โรงแรมนี้ Hotel Coliseum Istanbul อยู่ไม่ไกลกันนัก แคบๆแบบนี้


เช็คอินเสร็จได้กุญแจมา ได้ห้อง 202 เปิดห้องมาก็เป็นแบบนี้ ด้านขวาคือประตูนะครับ เปิดมาก็เจอกับเตียงเลย ห้องเล็กมากๆครับ แต่สะอาด ราคา 1463.43 บาท ถูกกว่าโรงแรมเมื่อวาน 500 บาท แต่แนะนำโรงแรมเมื่อวานเถอะครับ กว้างขวางกว่าเยอะ


ภายในห้องน้ำครับ


อ้อ...มีปัญฆาการใชเแอร์ครับ หาที่เปิดไม่เจอ แม้ว่าอากาศมันจะเย็นๆแต่พอปิดห้องหมดมันก็จะร้อนไง เรียกพนักงานมาสุดท้ายก็บอกว่า มันหน้าหนาว เปิดแอร์ไม่ได้ มีแค่เปิด Heater อย่างเดียว อะไรวะ บอกให้เปิดหน้าต่างเอา เฮ้อ...แต่ก็ต้องเปิดหน้าต่างแง้มๆไว้ ไม่งั้นอากาศไม่ถ่ายเท ร้อนตาย และเปิดแง้มๆเพราะเปิดกว่างเสียรถข้างนอกจะดังเข้ามาครับ โดยรวมไม่แนะนำนะครับ โรงแรมนี้ คือผมอยากพักหลายๆที่ เพื่อจะมาเปรียบเทียบกัน


หลังจากเก็บกระเป๋า ก็ออกมาอีกครั้ง คราวนี้เวลา 5 ทุ่มเลยครับ กะว่าจะให้ดึกๆจะได้โล่งๆ เสางู กับเสาโอเบลิสค์ที่ 3 ณ ยามนี้เปิดไฟสวยงามมากๆครับ


เสาโอเบลิสค์ที่ 3 เมื่อมองใกล้ๆที่ฐาน งานแกะสลักหินอ่อนสวยงามมาก ซึ่งก็มาดูแล้วในตอนกลางวัน วันก่อน


ฮายาโซเฟีย ณ ตอนไม่มีน้ำพุ


ฮายาโซเฟีย กับโดมของ İbrahim Han Sebili ณ ตอนเปิดน้ำพุ


อีกรูปกับภาพฮายาโซเฟีย ณ ตอนเปิดน้ำพุ



แล้วก็ขอลาด้วยคลิปฮายาโซเฟีย ที่มีน้ำพุอยู่ด้านหน้า เป็นคลิปสุดท้ายของวัน

หลังจากนั้นก็เดินกลับไปยังโรงแรม อยากบอกว่ามืดก็ไม่น่ากลัวนะครับ เพราะนักท่องเที่ยวก็ยังพอมีอยู่ครับ มาตั้งกล้องถ่ายภาพบริเวณนี้หล่ะครับ และอีกอย่าง ถ้ามีใครมาคุยด้วยก็พยายามตัดบทสนทนานะครับ ส่วนจะทำร้ายอะไรเราแทบจะไม่มีเพราะกฎหมายตุรกี หรือประเทศอิสลามจะเคร่งมากๆ จะมีก็แต่เราไปเออออกับเขาเอง ฉะนั้นตัดบทสทนาดีที่สุดครับ ชวนไปไม่ไม่ต้องไป 

พรุ่งนี้ก็จะต้องตื่นเช้า ผมเลยไปซื้อฮ็อทดอกจากร้านที่เคยซื้อในวันที่ 2 ที่มาถึง อยู่บริเวณใกล้ๆนี้หล่ะครับ มาตุนไว้ตอนช่วงเช้า เพราะคงไม่ทันอาหารเช้าของโรงแรมแน่ๆ และจะบอกว่า พรุ่งนี้มีเซอร์ไพร์ส์อีกแล้ว ไว้มาอ่านกันในตอนสุดท้ายจริงๆ ตอนเดินทางกลับว่าจะเซอร์ไพร์สอะไรอีก เกือบซวยเอาครับ ใบ้แค่นี้ ค่ำคืนสุดท้าย ณ ตุรกี ก็ต้องจากลากันไปแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ 


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น