วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

ตุรกี...คนเดียวก็เที่ยวได้ ตอน 5.2 เที่ยวเชสเม่(Çeşme) เมืองขนาดเล็กอีกเมืองชายฝั่งตะวันตกของตุรกี ก่อนจะกลับอิซเมียร์แบบโชคช่วย แล้วนั่งรถไฟธรรมดาต่อไปที่เซลฉุก(Selçuk) เมืองโบราณแห่งเอฟิซุส


หลังจากเก็บภาพอลาชาตึ(Alaçatı) จนอิ่มเอมถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ ก็ได้เวลาเดินออกมารอรถมินิบัสที่ป้ายเดิม(ป้ายที่ลงมา) แล้วขึ้นไปเชสเม่(Çeşme) ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 15-20 นาที เป็นเมืองปลายแหลมของชายฝั่งตะวันตกของตุรกี ถ้าข้ามทะเลอีเจี้ยนไปก็จะเจอกับประเทศกรีซแล้วครับ ใช้เวลาที่นั่นพอประมาณ แล้วกลับเส้นทางเดิมคือนั่งรถมาลงสถานีรถไฟใต้ดิน Fahrettin Altay Metro İstasyonu ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงสถานีบาสมาเน่ กลับไปรับกระเป๋าลากที่ฝากไว้ที่โรงแรม แล้วมาขึ้นรถไฟธรรมดาเพื่อไปลงสถานีเซลฉุก(Selçuk) เมืองที่มีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์หลายพันปี อย่างเช่น เอฟิซุส, วิหารอาร์ทิมิส ฯลฯ พักที่นี่ 1 คืน
ปล.ตอนนี้มีเหตุการณ์ที่ถือว่าโชคช่วยสุดๆจากคนตุรกีครับ



แผนที่เส้นทางจากป้ายรถมินิบัสอลาชิ-ติ ไปลงป้ายวงเวียนที่เชสเม่


มาถึงป้ายรถเดิมก็นั่งรอไป ที่นี่คนตุรกีบางทีเขาเห็นชาวต่างชาติเขาก็ไม่รอให้ถามนะครับ มาถามเราก่อนว่ายูจะไปไหน ก็บอกไปว่าเชสเม่(Çeşme) แกก็บอกว่าให้ขึ้นรถสีเขียวๆ แบบนั้น(ชี้ไปฝั่งตรงกันข้ามที่กำลังมีรถมินิบัสจอดรอผู้โดยสารอยู่) บอกจะมาใน 5 นาที เราก็ขอบคุณไป พอรถมาถึงก็บอกเราว่าคันนี้แหล่ะ ขึ้นได้เลย แต่คนที่บอกเขาไม่ได้ไปด้วยนะครับ ก็ขึ้นไป รถจะเล็กกว่ามินิบัสที่นั่งมาจาก F.Altay ค่ารถ 4 TL ไม่นานก็จอดลงที่วงเวียนแบบในรูป ลงมาก็งงๆ ไปไหนต่อดี


หันมาแล้วดู Google map ประกอบก็น่าจะเป็นถนนด้านซ้ายมือที่เดินไปจนถึงทะเล หรือมีชื่อว่า 2001 Sk.  ส่วนลานกว้างๆที่เห็นคือ Mehmetçik Parkı


ก่อนไปก็เดินไปเก็บภาพโลมาตัวนี้ก่อน น่ารักเชียว จริงๆคือโทรศัพท์สาธารณะนั่นเอง


2 ข้างของถนนจะเป็นร้านขายของทั้งร้านอาหาร ร้านไอศครีม ร้านขายของที่ระลึก และอื่นๆ เดินไปเรื่อยจนมาหยุดที่ตรงนี้ อาคารอะไรดูใหญ่โตจัง มันคือโบสถ์คริสต์นั่นเอง Ayios Haralambos Church งั้นเดินเข้าไปดีกว่า


ด้านในเหมือนจะเป็นการจัดแสดงงานศิลปะหัตถกรรมของตุรกีเขา


ส่วนด้านบนเพดานโบสถ์ก็จะเป็นภาพวาดแบบนี้


แล้วก็เดินไปเรื่อยๆครับ จริงๆแวะเข้าห้องน้ำ อิอิ มาเจอรูปปั้นนี้เข้า ใกล้ทะเลเต็มทีแล้ว เป็นอนุสาวรีย์ Mustafa Kemal Atatürk Monument


เดินไปสูดอากาศริมทะเล น้ำทะเลสีเข้มจริงๆ บริเวณนี้ไม่มีชายหาดนะครับ


เรือลำใหญ่ตรงโน้นน่าจะเป็นเรือขนส่งสินค้า จริงๆก็ไม่มีอะไรมากนะครับเชสเม่


แล้วก็เดินไปเจออนุสาวรีย์ İsmet İnönü Anıtı อย่าถามว่าคือใคร ไม่ทราบครับ เห็นอนุสาวรีย์, รูปปั้นอะไร ก็ถ่ายมาหมดแหล่ะ 555


ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว จะเดินย้อนกลับ มาดูแพลนอีกที เอ้ย..มีปราสาทเชสเม่อยู่นี่หน่า งั้นเดินไปดูก่อน เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ


เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับอนุสาวรีย์ที่มีคนยืนกับสิงโตชื่อว่า Cezayirli Gazi Hasan Paşa Monument


มีปืนใหญ่ที่เก่ามากๆวางเรียงรายอยู่ แต่ไม่รู้ว่าของเก่าจริงๆหรือเปล่านะครับ หรือของใหม่ที่เอามาทำให้ดูเก่า


ตรงนี้เป็นรูปปั้นของ Kaplan Giray เป็นลูกชายของสุลต่าน Haci Selim Giray


สมควรแก่เวลา เพราะไม่ค่อยมีอะไรก็เดินกลับ ตรงนี้บ้านอะไรเนี่ย น่ากลัวมากกกก เก่าสุดๆ


หิวข้าวแล้วครับ ดูไปตามถนน 2001 Sk. ก็มองหาร้านอาหารไป มีหลายร้านแต่ยังไม่ถูกใจทั้งราคาและเมนูอาหาร ไปเจอร้านนี้เข้า เห็นราคาไม่แรง เมนูน่าจะทานได้ เลยสั่งนี่เลย เนื้ออะไรสักอย่าง พร้อมกับข้าวเปล่า แต่พอทานๆไป เอ่อ....มันคาวๆ เลยทานไม่หมด



แล้วก็ไปต่อไอศครีมช็อคโกแลต 1 สกู้ป 6 TL ต้องรีบกินเพราะมันจะละลายแล้ววว เดินไปกินไปยิ่งละลายเร็วไปกันใหญ่ 555


พอถึงวงเวียนเดิมที่ลงจากลง ก็มองหาทางไปป้ายรถมินิบัส จริงๆมาร์คไว้แล้วว่ารถบัสจะต้องขึ้นที่สถานีหรือท่ารถเชสเม่ ซึ่งมันไกลมากๆ เลยค่อยๆเดินไปก่อน แล้วกำลังเดินอยู่ก็เหมือนสวรรค์จะเข้าข้าง มีชายคนนึงขี่รถ Big Bike มาจอดชะลอแล้วถามผมเป็นภาษาอังกฤษว่า where are you going? ก็ตอบไป I am going to the bus station. I will come back to Izmir. ชายคนดังกล่าวพอได้ยินที่ผมตอบแก็ก็บอกให้ซ้อนท้ายแกไปเพราะแกเองก็กำลังจะขี่ไปท่ารถเช่นกัน โอเค...งั้นซ้อนก็ซ้อน ปล.ผมเองก็ดูเรื่องความปลอดภัยด้วยนะครับ ตอนนี้บ่าย 2 นิดๆ ประกอบกับพูดภาษาอังกฤษได้ ไม่น่ากลัวครับ เรามี Google map จะสามารถดูไประหว่างทางได้ว่าไปไหน


เพียง 5 นาทีก็ถึงท่ารถบัส มีคันนึงกำลังจะออกพอดี ชายคนนี้ก็เข้าไปพูดกับคนออกรถว่า ช่วยดูให้เรา 2 คนขึ้นไปได้ด้วย ผมเดาเอานะเพราะรถมันเกือบเต็มแล้วแกก็พูดภาษาตุรกี ชายผมขาวที่จดโพยนั่นแหล่ะที่คอยดูที่นั่งและจัดเรียงให้ อย่าลืมว่า รถจะจอดรับและส่งหลายป้ายนะครับ ฉะนั้น คนที่จองมาเขาจะต้องได้นั่งในที่นั่งนั้นๆเมื่อเขาขึ้นมาครับ  ผลมันก็เลยออกมาในลักษณะเก้าอี้ดนตรี ุคือนั่งที่นั่งนี่สักพัก ก็ต้องย้ายที่ แต่ย้ายแค่ครั้งเดียวครับ ก็นั่งยาวเลย แกช่วยคุยให้หมด ต้องขอบคุณมากๆ เพราะพอรถผ่านไปรับคนอีกที่อลาชิ-ติ คราวนี้มีมายืนด้วยครับ คือคนเยอะกว่าเที่ยวรถว่างั้น เราโชคดีแล้วที่ได้นั่ง


ชายคนนี้ก็ลงรถป้ายเดียวกัน คือป้ายก่อนสุดสายหน้าทางเข้าสถานีรถไฟ Fahrettin Altay Metro İstasyonu แล้วก็จะขึ้นรถไฟใต้ดินด้วยเช่นกัน ก็เลยเดินมาพร้อมกันและกดซื้อตั๋วรถไฟให้ผมด้วย หลังจากนั้นก็นั่งคุยกันในรถไฟใต้ดินครับ เพราะมันเป็นสถานีแรก  แกชื่อ Doruk Koç เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอิสตันบูล(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วมาเรียนภาษาอังกฤษที่อิซเมียร์ โดยในวันรุ่งขึ้นแกจะต้องไปสอบครับ เลยเดินทางมาในวันนี้ก่อน ทำงานเกี่ยวกับโรงแรม ก็เลยบอกขอบคุณมากๆ แล้วขอถ่ายรูปด้วย พอดีผมลงที่สถานีบาสมาเน่ก่อน เลยแลกเฟสบุคกัน ถ้าไม่ได้ซ้อนมาด้วยคงอีกนานกว่าจะถึงท่ารถบัสครับ


พอถึงสถานีบาสมาเน่ของรถไฟใต้ดินก็เดินออกไปที่โรงแรมเพื่อจะไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ ตอนแรกกะจะนั่งพักที่ล็อบบี้ก่อน แต่ดูเวลาแล้วมันก็ใกล้จะถึงเที่ยวรถไฟเที่ยวต่อไปเวลา 16.55 น. แล้วอีกเที่ยวคือเวลา 18.05 น. งั้นลากกระเป๋าไปที่สถานีรถไฟธรรมดาบาสมาเน่เลยดีกว่า ไปซื้อตั๋วทีเคาน์เตอร์ แจ้งไปว่าไปเซลฉุก ราคา 7.5 TL 40 กว่าบาท 555 ถูกมากกก แถมสะอาดดีด้วยนะสิ ป่ะ รีบขึ้นดีกว่า กลัวไม่มีที่นั่ง ขบวนซ้ายมือนี่หล่ะครับ


ขึ้นไปมองหาที่นั่งก่อน ด้านนี้ท่าจะคนเยอะ ตอนแรกงงครับว่านั่งตรงไหน ตั๋วเองก็ไม่ได้บอก อ่านไม่ออกด้วยสิ เลยถามคนที่พอเข้าใจภาษาอังกฤษได้ ถามไปว่า Hello, This train goes to Selcuk? (ผิดแกรมม่าไปหน่อย) เขาตอบมาว่า Yes. เลยถามอีกคำถามว่า Could you please see where is my seat? พร้อมกับยื่นตั๋วให้เขาดู เขาบอกมาว่า You can sit any seat you want. เลยอ๋อ งั้นก็เอาที่นั่งใกล้ๆประตูละกัน


ผมนั่งติดทางเดิน ใกล้ประตูครับ เพราะจะได้วางกระเป๋าไว้ตรงซอกได้ พอถึงเวลา 16.55 น.รถไฟก็ออกตรงเวลา นั่งสบาย แล่นเร็ว ไม่โยก จอด 3-4 สถานีเองมั้งครับ ก่อนจะถึงเซลฉุก



เอาแผนที่มาให้ดูกัน จริงๆเป็นการเดินทางด้วยรถไฟแต่ใน Google Map ที่ตุรกียังแสดงเส้นทางแบบรถไฟได้ เลยดูแบบรถยนต์ไปก่อนละกันครับ ใกล้เคียงเพื่อจะได้เห็นภาพ


ผ่านไปชั่วโมงนิดๆ 18.11 น. ก็มาจอดที่สถานีเซลฉุก(Selçuk) ช้ากว่ากำหนด 5-6 นาที ไม่ว่ากัน


เดินไปทางออกด้านหน้าสถานีเซลฉุก(Selçuk) ถ้าใครจะเดินทางระหว่าง 2 เมืองนี้ คือเซลฉุกกับอิซเมียร์ก็แนะนำรถไฟนะครับ สะดวกสบาย ราคาถูกมากกกกก
ปล.จะว่าไปคำว่า Selçuk ที่มีตัว c แล้วมีหาง จะอ่าน ช/ฉ ควบกับ จ ฉะนั้น จะอ่านว่า เซลจุก หรือ เซลฉุก หรือ เซลชุก ก็ได้ทั้งนั้นครับ


โอ้ว....ออกจากสถานีรถไฟมาก็จะเจอวิวแบบนี้ สวยงามมาก....สัญลักษณ์ของเมืองเก่าแก่จริงๆ


ดู Google Map ไปเดินลากกระเป๋าไป ไม่ไกลจากสถานีเลย ก็มาเจอด้านหน้าทางเข้าโรงแรมแล้วครับ Wallabies Hotel ถูกมาก ราคา 87 TL หรือ 530.70 บาทเท่านั้น!


เจอคุณลุงที่เป็นพ่อของเจ้าของอีกที แกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ใช้ภาษามือประมาณว่า เงินเดี๋ยวให้รออีกคนนึงมาก่อน แกยังไม่เก็บแต่ให้กุญแจห้องมาให้เช็คอินก่อนได้ ในภาพกำลังโทรหาลูกชายแก 555


ได้ห้องชั้น 3 สภาพห้องจะเก่าๆครับ เก่ากว่าที่เคยพักมา แต่ไม่ได้สกปรกนะครับ


มุมจากหน้าต่างไปประตูห้อง


ห้องน้ำก็โอเค สรุปคือคุ้มครับ ไม่ได้แย่เลย แถมโลเคชั่นดีด้วย ใกล้สถานีรถไฟและท่ารถ เดี๋ยวจะไปดูต่อไป

แล้วก็ได้เวลาเดินออกไปสำรวจละแวกใกล้ๆกันแล้ว ร้านอาหารก็มีเยอะแยะ


เดินอ้อมมาตรงเสาปูนพวกนี้ ที่ออกจากสถานีรถไฟแล้วเจอ


อีกมุมหนึ่ง


แล้วก็เดินไปหาท่ารถเซลฉุก แต่ไปเจออุปกรณ์ที่เรียกว่า บารากู่ ไว้สูบกันเยอะเชียวตามสถานที่ท่องเที่ยวในตุรกี


เดินไปถึงท่ารถเซลฉุกแล้วก็ไม่ไกลนัก แล้วเดินกลับมาตรงถนน St. Jean Cd. นี่คือซุ้มอะไร?


นี่เลยทางเข้า Basilica Of Saint John แต่ปิดไปแล้ว จริงๆก็ไม่ได้จะมาหรอกนะครับ เดินมาเรื่อยๆ


เดินมาอีกมุมนึง ที่เห็นไกลๆใหญ่ๆคือ ป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ในอาณาจักรไบเซนไทน์แห่งเซลฉุก ตั้งอยู่บนเขา Ayasoluk มองเห็นเด่นมาแต่ไกล


เดินกลับไปหาอะไรกินอีกครั้ง ตรงหน้าคือ Akıncılar Camii เด่นทีเดียว


อ้อมมาทางด้านหลังอีกฝั่งหนึ่ง ต้นตาลหรือเปล่าเก๋ทีเดียว


แล้วก็ไปหยุดที่ร้านนี้ Artemis Köftecisi Ali Usta สั่งเบียร์ EFES มาก่อนเลย 555 ขวดละ 15 TL


แล้วอาหารที่สั่งก็มาเสริฟ Chicken Sish Kebap ไก่สะเต๊ะพร้อมข้าวราดซอสและผัก จะบอกว่า อร่อยมากๆครับ หอมกลิ่นไก่ที่ปิ้ง ทุกร้านจะเสริฟขนมปังมาด้วย ครั้งนี้ไม่พลาดครับ กินขนมปังด้วย เพราะไม่อิ่ม 555 ไม่คิดราคาเพิ่มซะด้วยครับ ดีจริงๆ แต่กินพออิ่มพอ


ทานเสร็จก็เดินย่อยอาหารบริเวณรอบๆ มีร้านค้าร้านอาหารเยอะแยะเลย วนวนตรงจุดนี้ เปิดไฟที่น้ำพุสวยดีครับ มีหลายสีสลับกันด้วย


ภาพสุดท้ายของวันนี้ วิวจากห้องพัก 2 ทุ่มกว่า นอนเอาแรง พรุ่งนี้จะไปเอฟิซุส แล้วเจอกันครับ ตอนนี้ราตรีสวัสดิ์


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น