[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 1.5] [ตอน 2] [ตอน 2.25] [ตอน 2.5] [ตอน 2.75] [ตอน 3] [ตอน 3.3] [ตอน 3.6] [ตอน 4] [ตอน 4.3] [ตอน 4.6] [ตอน 5] [ตอน 5.25] [ตอน 5.5] [ตอน 5.75] [ตอน 6] [ตอน 6.25] [ตอน 6.5] [ตอน 6.75] [ตอน 7] [ตอน 7.5] [ตอน 8] [ตอน 8.5] [ตอน 9]
หลังจากอิ่มกับอาหารมื้อกลางวันถึงบ่ายของเราแล้ว เราก็เดินข้ามมาที่สถานีรถไฟคาวากูจิโกะอีกครั้ง เตรียมพร้อมกับการนั่ง Retro bus ตรงนี้เป็นโบกี้รถไฟที่นำมาแสดงไว้ด้านหน้าสถานีคาวากูจิโกะครับ
ก่อนจะไปนั่งเรโทรบัส มาดูแผนที่เส้นทางและสถานที่สำคัญๆที่อยู่ในแต่ละจุดกันก่อนครับ
ลืมบอกไปว่าเส้นทางที่จะนั่งรถไปเที่ยวรอบทะเลสาบนั้นมี 2 เส้นทางด้วยกัน คือ1.สาย Kawaguchiko
2.สาย Saiko-Aokigahara
ซึ่งเราจะไปสาย 1 รอบทะเลสาบคาวาฯกัน โดยแผนที่ที่รถ Retro Bus แล่นนั้น ดูได้ตามภาพ หรือดูจากไฟล์ pdf โดยตรง ตามนี้ http://bus-en.fujikyu.co.jp/pdf/heritagetour/routemap_retro_omni.pdf (แก้ไขเมื่อ 27 พย. 2560 เวลา 02.40 น.)
ส่วนข้อมูลต่างๆของรถบัส ราคา ตารางเวลา และอื่นๆ ดูได้จากนี้เลยครับ
http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/
จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ถ้าขึ้นรถสาย Kawaguchiko Line Retro Bus สามารถที่จะเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆพร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิ การเดินทางโดยบัสสายนี้นี้มีทั้งหมด 22 ป้าย ระยะทางโดยประมาณอยู่ที่ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยรอบประมาณ 30 – 40 นาทีโดยไม่แวะลงที่ไหน
สถานที่แนะนำและน่าสนใจ ในเส้นทาง Retro Bus รอบทะเลสาบคาวากูจิ
ตัวอย่างแผนการเดินทาง | ป้ายรถบัส | สถานที่เที่ยว |
เริ่มที่สถานี Kawaguchiko |
Bus stop 21
Kawaguchiko Shizen Seikatsukan Bus stop
| ป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิมี Natural Living Center ร้านขายของสิ่งค้าท้องถิ่นและของฝากต่างๆให้เลือกสรรค์ พร้อมมีที่นั่งทานกาแฟซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนพร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย ถ้ามีเวลาและอากาศดีสามารถที่จะเดินเล่นไปถึงสวน Oishi Park ได้อีกด้วย |
จาก Bus stop 21 |
Bus stop 18 -17
Kobota Itchiku Bijutsukan Bus stop
| พิพิธภัณฑ์ Kobota Itchiku จัดแสดงชุดกิโมโนลวดลายงดงามที่เห็นได้ยากตามทั่วไปบริเวณจุดจอดรถริมทางเดิน มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ในหน้าซากุระจะมีซากุระบานสะพรั่ง และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงสดเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน นอกจากนั้นจะมีร้านขายของของชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งสามารถที่จะเดินชมวิวได้จนไปถึงจุดจอดรถที่ 17 มีสถานที่เด่นคือ Koga Masao memorial Park อีกด้วย |
จาก Bus stop 17 |
Bus stop 16 – 15
Ukai Orugoruno Mori Bijutsukan Bus stop
| Kawaguchiko Music Forest จัดรวมแสดงเครื่องดนตรีจากทั่วทุกมุมโลกและกล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบที่จัดโชว์พร้อมมีสวนย่อมสไตล์ยุโรปน่ารักโรแมนติก ที่สามารถดื่มดำไปกับเสียงดนตรี ธรรมชาติและความสวยงามที่น่าตื่นตา และยังที่จะสามารถเดินไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงภาพเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ที่มีทั้งภาพเขียนและภาพถ่ายจำนวนมาก |
จาก Bus stop 15 |
Bus stop 10
Yuransen Ropeway Iriguchi Bus stop
| Mt.Tenjo มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม สัญลักษณ์ของกระเช้านี้เป็นรูปกระต่ายที่มีประวัติเล่าขาน หรือใครที่อยากจะชมความงามอีกแบบหนึ่งก็มีเรือนำเที่ยวให้บริการเพื่อที่จะชมทัศนียภาพโดยรอบกลางทะเลสาบ |
จาก Bus stop 10 |
Bus stop 7
Kawaguchiko Herb Kan Bus stop
| Kawaguchiko Herb hall ที่อาณาจักรของสมุนไพรที่มีทั้งมุมน้ำชาสมุนไพร เครื่องหอม ที่สำคัญมีกิจกรรมให้ลองทำอีกด้วย ซึ่งมีทั้งขายที่เป็นของฝากน่ารักๆ และหากเดินเข้าไปด้านในจะพบที่รวบรวมสมุนไพรประมาณ 150 ชนิด |
รถมาแล้วครับ แต่ไม่ใช่รถเรโทรบัสอย่างที่เราเคยๆเห็นซึ่งมีหน้ารถแบบรถสิบล้อ ออกแนวเรโทรเก่าๆ แต่รถบัสนี้เป็นรถบัสแบบสมัยใหม่ธรรมดาครับ อดคลาสสิคเลย :(
ระหว่างทางได้เห็นทะเลสาบคาวากูจิโกะแล้วครับ ช่วงนี้เป็นช่วงป้าย 8 - 9 ครับ ลืมบอกไปว่า แผนเที่ยวของเราคือไปลงที่ป้ายสุดท้าย คือป้าย 21 ก่อนครับ แล้วค่อยทะยอยเที่ยวย้อนกลับมา ซึ่งป้ายที่เราอยากไปคือ ป้าย 18-17 อุโมงค์เมเปิ้ล หรือ maple corridor และป้าย 10 Yuransen Ropeway Iriguchi อยากไปขึ้นกระเช้าชมวิวทะเลสาบมุมสูงครับ
ได้เวลาลงที่ป้ายสุดท้าย ป้าย 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan คนส่วนใหญ่ลงที่ป้ายนี้กันครับ สุดสายเลย
แล้วก็เดินไปถ่ายกับภูเขาจำลองอะไรสักอย่าง หรือภูเขาฟูจินะ อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ
เห็นใครมาที่ป้ายนี้ ก็มาทานกาแฟและชมวิวบรรยากาศฟูจิซังไปในตัว แต่ขอโทษครับ โชคเราไม่ดี มองไม่เห็นยอดภูเขาไฟฟูจิเลย ฮือๆ
ด้านหน้าเป็นฟูจิซังครับ แต่มองไม่เห็นยอดเลยจ้าาา โชคไม่เข้าข้างเราจริงๆ
เดินชมวิวรอบๆละกันนะ
สมควรแก่ดวลาก็มายืนรอรถบัสขากลับครับ คนรอเยอะเชียว รถมาช้ามากๆครับ ไม่เป็นไปตามเวลาที่บอก
ฝาท่อบริเวณนี้ครับ เป็นรูปฟูจิซัง
อย่างที่บอก เรามาลงป้าย 18 เพื่อตั้งใจมาชมอุโมงค์เมเปิ้ลครับ เห็นรูปจากคนที่เคยไปมาปีก่อนๆ สวยมากๆครับ ข้ามฝั่งถนนไปเลย
เจอแล้วครับ แต่ไม่สวยอย่างที่คิด เพราะมันผ่านจุดพีคไปแล้วนั่นเอง
แต่เราก็จะเดินไปดูเรื่อยๆละกัน
เมเปิ้ลสีเหลือง ไม่สวยเหมือนสีแดงอย่างที่ตั้งใจไว้
เดินครบรอบแล้วก็วกไปอีกทาง
มีซากเครื่องบินรบเก่าตั้งโชว์ไว้ด้วยครับ
อุโมงค์เมเปิ้ลช่วงขากลับครับ สวยสุดได้แค่นี้ครับ
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเองก็มาเดินชมเหมือนกัน
ที่นี่มีงานเปิดไฟ Illumination ตอนกลางคืนเหมือนกัน แต่เราคงไม่ได้ดู
เย็นไปเรื่อยๆ คงไม่ได้ไปชมวิวมุมสูงขึ้นกระเช้ากันแล้วครับ เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน
แล้วก็ได้บอกลากับอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลกันแล้วครับ
เย็นแล้ว เรารีบเดินไปรอรถกันดีกว่าครับ อาจได้ดูอะไรที่ป้ายอื่นๆอีก แม้ไม่ได้ขึ้นกระเช้าก็ตาม
ตรงข้ามป้ายรถแถวๆป้าย 18 นะครับ
ตรงป้ายนี้จะมีโชว์ลิงครับ หลายที่ในญี่ปุ่นมีโชว์ลิงกันเยอะเหมือนกันนะครับ คิดว่ามีแต่ในไทยเราซะอีก
รอรถบัสคนเยอะเชียว แต่แล้วเมื่อมีมา 1 คัน ก็ปรากฎว่าไม่ได้ผ่านป้ายที่เราอยากจะลงครับ สงสัยขึ้นสะพานที่เราเห็นแน่ๆเลย เลยขับออกทางลัดไม่ไปตามป้ายแรกๆ แล้วอย่างนี้มันน่ามั้ยครับ เสียพาสก็แพง รถก็มาช้า ถนนเองรถก็ไม่ติด ผมว่าครั้งนี้บริหารจัดการแย่ครับ
เราเลยเดินไปเรื่อยๆครับ เพราะรอที่เดิมก็ไม่เห็นว่าจะมีรถบัสไหนแล่นผ่านมาเลย
แต่จะบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดมากครับ เพราะขณะที่เราเดินไปนั้น ก็มีรถบัสแล่นผ่านไป เราเกือบถึงป้าย 17 แล้ว แต่รถบัสก็เลยไป เราเดินไปขึ้นไม่ทันครับ เสียดายมากๆ เพราะรถบัสกว่าจะมาแต่ละคันน้อยมากๆ
เดินมาถึงป้าย 17 รถบัสผ่านไปแล้ว เราเลยมารอเป็นคนชุดแรก แถมหลังจากนั้นคนก็มายืนรอเพียบเลยครับ ครั้งนี้ครั้งแรกที่รู้สึกว่าการบริหารจัดการเกี่ยวกับรถสาธารณะของญี่ปุ่นนั้นแย่มากๆครับ
เราเสียเวลาไปกับการรอรถบัสครับ พอมาถึงคนขึ้นเยอะมาก และก็มืดแล้วด้วย เราทำได้เพียงนั่งรถเพื่อไปลงป้ายสถานีรถไฟคาวาฯครับ ไม่ได้ลงระหว่างทางแล้ว เพราะกลัวขากลับจะไม่มีรถบัสกลับครับ หมดเวลา 18.07 น. จากป้าย 21 ซะด้วย ถ้าพลาดแล้วซวยเลยครับ พึ่งแท็กซี่ลูกเดียว
ระหว่างทางได้เห็นวิวฟูจิซังที่พอจะชื่นชมได้บ้าง
ณ ขณะนี้ได้กลับมาซ่อมอีกครั้งในวันที่ 5 มกราคม 2561 โดยมาซ่อมที่ป้าย 11 Kachi Kachi Ropeway/Kawaguchiko Ropeway <-- คลิกอ่านได้เลยครับ
อีกวิวหนึ่งครับ แม้ไม่ได้เห็นยอดก็ตามทีเถอะ
ตรงนี้เปิดไฟแล้วพอรถเคลื่อนตัวแล้วสวยไปอีกแบบครับ
กลับมาถึงที่สถานีรถไฟคาวากูจิโกะแล้วครับ มืดพอดีเลย แม้ว่าเวลาจะเพียง 5 โมงเย็นกว่าๆก็ตามที แถมอากาศเย็นลงมากๆด้วยครับ ต่ำกว่า 10 องศาแน่นอน
ได้เวลาขึ้นห้องเก็บสัมภาระกันแล้วครับ ได้ห้องที่อยู่ชั้น 3 โรงแรมนี้ไม่มีลิฟท์นะครับ ผมเดินมา 7 วัน ปวดขาใช้ได้เลยครับ สำหรับคนข้อเข่าไม่ดีไม่แนะนำนะครับ
สำรวจห้องพักกันเลย ได้ห้องที่เห็นวิวฟูจิซังด้วยนะครับ แหมๆ โชคดีจัง
ห้องพักห้องนี้นอนกัน 4 คนครับ ประหยัดลงได้มากเลย มีชาเขียวร้อนๆให้ชงดื่มกันด้วยครับ
ฟูกแบบญี่ปุ่น นอนอุ่นดีครับ แต่ต้องเปิดฮีตเตอร์ด้วยนะครับ เพราะกลางคืนหนาวมากๆ
ได้เวลาไปสำรวจออนเซ็นและห้องน้ำกันแล้ว ห้องน้ำจะเป็นแบบห้องน้ำรวม แยกชายหญิง อยู่ชั้น 4 ครับ แต่ออนเซ็นผมไม่กล้าพอที่จะเข้าไปครับ อิอิ
ไม่เข้าออนเซ็นก็เข้าห้องอาบน้ำแบบปกติครับ สะอาดมีสบู่และแชมพูพร้อม น้ำร้อนครับ
มองวิวหน้าต่างของห้องพักครับ เงียบมากๆ
ชิมชาเขียวร้อนๆกันครับ แก้อากาศหนาวๆไปได้ดีทีเดียว
ออกมานอกระเบียง ตรงนี้เป็นตึกของร้านอาหารที่เราไปทานตอนกลางวันครับ ส่วนชั้นล่างเป็นที่ขายของที่ระลึก
มาทานอาหารเย็นกัน น่าจะเรียกอาหารค่ำนะครับ ก็ร้านของที่โรงแรมที่พักละครับ เกือบจะปิดรับออร์เดอร์แล้ว เราเป็นรายสุดท้าย ที่นี่ร้านปิดเร็วมากๆครับ ต้องรีบครับ
เอ๋สั่งสปาเก็ตตี้จานนี้
ส่วนผมสั่งข้าวหน้าแกงกระหรี่เนื้อครับ อร่อยมากๆ
พร้อมกับสลัดผลไม้ครับ อร่อยอีกเช่นกัน
แล้วเราก็กลับไปที่ห้องนอนหลับอย่างอบอุ่น พรุ่งนี้เราก็จะเดินทางกลับไปฮากาตะกันแล้วครับ ต้องนอนเอาแรงไว้ และภาวนาว่าจะได้เห็นฟูจิซังแบบเต็มๆตาด้วย มาลุ้นๆกันครับ
[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 1.5] [ตอน 2] [ตอน 2.25] [ตอน 2.5] [ตอน 2.75] [ตอน 3] [ตอน 3.3] [ตอน 3.6] [ตอน 4] [ตอน 4.3] [ตอน 4.6] [ตอน 5] [ตอน 5.25] [ตอน 5.5] [ตอน 5.75] [ตอน 6] [ตอน 6.25] [ตอน 6.5] [ตอน 6.75] [ตอน 7] [ตอน 7.5] [ตอน 8] [ตอน 8.5] [ตอน 9]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
สุดยอดบล็อกของการเดินทางเลยนะครับเนี่ย
ตอบลบพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับการเดินทางที่ปรู๊ดปร๊ดขึ้นต้องนี่เลย http://english-fast-serve.blogspot.com/
ขอบคุณครับ
ลบผมก็เข้าไปดูการสัมภาษณ์งานแบบภาษาอังกฤษมาแล้วชอบมากครับ เยี่ยมมากๆ