[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 1.5] [ตอน 2] [ตอน 2.25] [ตอน 2.5] [ตอน 2.75] [ตอน 3] [ตอน 3.3] [ตอน 3.6] [ตอน 4] [ตอน 4.3] [ตอน 4.6] [ตอน 5] [ตอน 5.25] [ตอน 5.5] [ตอน 5.75] [ตอน 6] [ตอน 6.25] [ตอน 6.5] [ตอน 6.75] [ตอน 7] [ตอน 7.5] [ตอน 8] [ตอน 8.5] [ตอน 9]
จากที่เดินกลับมาจากวัดเงิน ก็มาถึงป้ายรอรถบัสตรงนี้ เห็นตรงป้ายจะมีสิ่งประดิษฐ์ที่ชาวญี่ปุ่นนักคิดเขาทำ น่าจะคล้ายๆการบอกว่ารถบัสสายไหนถึงตรงป้ายไหนแล้ว น่าจะประมาณนั้นนะครับ แต่ถ้างง ก็กลับไปอ่าน Handy Kyoto City Bus ในตอนก่อนนี้ ก็จะทราบว่าจากป้ายวัดเงินไปป้ายวัดน้ำใส นั่งรถบัสสายอะไร ในที่นี้ คือสาย 100 ครับ
รถแล่นข้ามสะพานอะไรไม่ทราบได้ครับ มีใบไม้แดงกับใบไม้เหลืองด้วยครับ
ประมาณ 20 นาทีรถก็มาจอดที่ป้าย Kiyomizu-michi แล้วต้องเดินต่อไปตามถนนซอยนี้ครับ ไกลทีเดียว แถวแคบด้วย เดินๆก็ระวังกันด้วยครับ เป็นการเดินขึ้นเนิน
เดินสักพักก็จะเจอกับร้านรวงสองข้างทาง ดึงดูดให้เงินในกระเป๋าหลุดออกไปง่ายๆเลยครับ
ผ่านร้านค้ามาสักพัก ก็มาถึงประตูทางเข้าแรก ชื่อว่า Deva Gate
ก่อนจะเข้าไปชมภายในวัดน้ำใส เรามาดูแผนที่ภายในวัดนี้กันก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าแต่ละสิ่งก่อสร้างนั้นอยู่ตรงไหนกันบ้างครับ เครดิต : http://www.kiyomizudera.or.jp/lang/01.html
ขอสั่นกระดิ่งขอโชคหน่อยค่ะ
เข้ามาถึงจุดที่มีใบไม้แดงสดๆ สวยๆ
ใบไม้แดงแจ่มๆ ครับ
แล้วก็มาถึงจุดที่ต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปชมข้างในแล้วครับ เด็ก 200 เยน ผู้ใหญ่ 300 เยน
แล้วก็เดินผ่านศาลาโบราณ
รูปปั้นตรงนี้คืออะไรก็ไม่ทราบได้ครับ ภาพจะสั่นๆหน่อยเพราะแสงน้อยครับ
อีกจุดที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
ลานระเบียงของอาคารหลักคราคร่ำไปด้วยฝูงชนนักท่องเที่ยวที่มาชมวิวสวยๆ
บ้างก็มาจุดธูปเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตและขอพรกัน
มองไปยังอีกฝั่งหนึ่งจากลานอาคารหลักก็จะเห็นเจดีย์ 3 ชั้น
น้ำตกโอตะวะ(Otowa waterfall) ซึ่งเป็นสายน้ำ 3 สายไหลลงสู่บ่อน้ำ ผู้มาเยี่ยมชมวัดมักจะมาดื่มน้ำจากน้ำตกนี้ด้วยถ้วยโลหะ ด้วยความเชื่อว่าสามารถบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
ซูมไปดูใกล้ๆกันครับ น้ำตกนี้ยังเชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ มีความหมายถึงสุขภาพ อายุยืนยาว และความสำเร็จในการศึกษา คิวคนที่มารอดื่มน้ำยาวพอควรเลยครับ
ก่อนจะเลี้ยวไปทางขวามือเพื่อชมวิวด้านข้างของอาคารหลักไม้แห่งนี้ จะมีทางขึ้นไปศาลเจ้าจิชู ซึ่งเราไม่ได้ขึ้นไปครับ
มุมด้านข้างของวัดน้ำใส
เดินไปเรื่อยๆ จนได้มุมมหาชน ที่ใครๆที่มาวัดน้ำใสนี้ก็จะมาเก็บภาพวิวนี้กันครับ ใบไม้แดงยังไม่เยอะมาก แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา ประทับใจมากๆครับ
อีกมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นเสาไม้กว่าร้อยต้นที่รองรับระเบียงไม้ ที่สูงถึง 13 เมตรไว้ ยิ่งใหญ่จริงๆครับ พร้อมมองเห็นทางเดินด้านล่างด้วย
ขอถ่ายด้วยค่าาา
ใบเมเปิ้ลแดงแสบตา
เดี๋ยวเราจะเดินไปชมเจดีย์ 3 ชั้นฝั่งโน้นกัน
แล้วก็มาถึงเจดีย์ 3 ชั้นแล้ว
บริเวณเจดีย์ยังสามารถมองเห็นระเบียงของวัดน้ำใสได้เต็มๆ
ซูมเข้าไปใกล้ๆ ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้สิ
เจดีย์ 3 ชั้นอีกมุมหนึ่งครับ
รูปสลักหินพระริมทางเดิน
ได้เวลากลับกันแล้วครับ เราเดินผ่านจุดที่น้ำตกโอตะวะ ซึ่งเป็นสายน้ำ 3 สายไหลลงสู่บ่อน้ำ นักท่องเที่ยวกำลังจะตักเพื่อมาดื่มกัน ส่วนเราขอบายเพราะแถวยาวมาก
ผ่านเสาไม้ร้อยกว่าต้นที่รองรับระเบียงของวัดน้ำใสแบบใกล้ๆ ยิ่งใหญ่จริงๆครับ
ผ่านทางลงอีกจุดหนึ่ง ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเลย
ขอถ่ายรูปหมู่ ใบไม้เปลี่ยนสีแดง กำลังสวยเลย
หลังจากเดินกันมานานก็แวะที่นี่ได้ ทานสาเกและอาหารว่างกันก่อน
ตรงจุดนี้มีคู่หนุ่มสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันหรือเปล่า ใส่ชุดยูกาตะและชุดประจำชาติของญี่ปุ่น
สระน้ำกับใบไม้แดง
จุดนี้ก็มีใบไม้แดงอยู่เต็มๆเลย นั่งพักสักครู่แล้วค่อยไปต่อครับ
ได้เวลาเดินกลับกันแล้วครับ ขากลับกลับอีกทาง แต่ขนานกัน ใครสนใจนั่งรถถีบ 2 ล้อก็ติดต่อได้เลย
เดินมาถึงป้ายรถบัสด้านหน้าทางเข้า คราวนี้คนรอรถเยอะมากครับ 1 คันผ่านไปไม่ได้ขึ้นเพราะแน่นมาก เดี๋ยวรออีกคันหน้า โดยเราจะขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 เพื่อกลับไปยังสถานีรถไฟเกียวโตกันก่อน เพื่อจะได้ต่อรถไฟสาย Sagano อีกครั้งไปลงสถานีรถไฟ Emmachi และนั่งรถบัสไปวัดทอง Kinkakuji อีกครั้ง
แล้วมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป เราจะกลับไปวัดทอง Kinkakuji กันครับ รอดูว่าผนังสีทองจะแจ่มขนาดไหน รอติดตามชมครับ
[ตอน 0] [ตอน 1] [ตอน 1.5] [ตอน 2] [ตอน 2.25] [ตอน 2.5] [ตอน 2.75] [ตอน 3] [ตอน 3.3] [ตอน 3.6] [ตอน 4] [ตอน 4.3] [ตอน 4.6] [ตอน 5] [ตอน 5.25] [ตอน 5.5] [ตอน 5.75] [ตอน 6] [ตอน 6.25] [ตอน 6.5] [ตอน 6.75] [ตอน 7] [ตอน 7.5] [ตอน 8] [ตอน 8.5] [ตอน 9]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น