วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น เมื่อยามใบไม้เปลี่ยนสี ตอน 6.5 กลับมาเที่ยววัดทอง หรือ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) เป็นวัดที่สามกันอีกครั้ง


หายไปนานพอสมควรเลยครับสำหรับตอนล่าสุดนี้ เนื่องจากมีปัญหาชีวิตเข้ามา แต่ยังไงก็จะทำให้เสร็จครับ หลังจากที่เราได้ไปเที่ยววัดเงินและวัดน้ำใสทางฝั่งตะวันออกของเกียวโตกันในช่วงเช้าแล้ว จากวัดน้ำใสเราก็มาคอยรถบัสเพื่อขึ้นจะไปลงที่สถานีรถไฟเกียวโตครับ แล้วหลังจากนั้นการเดินทางก็จะเหมือนตอน 6 ที่ผ่านมาคือนั่งรถไฟไปลงสถานี Emmachi แล้วต่อรถบัสอีกครั้งเพื่อไปลงหน้าทางเดินเข้าวัดทอง หรือวัดคินคะคุจิ ซึ่งเป็นวัดในเรื่องอิคิวซังนั่นเอง แล้วเราก็จะเดินชมวัดกันให้เต็มอิ่มหลังจากที่มาเก้อในตอนเช้าซึ่งวัดยังไม่เปิดให้เข้าชมนั่นเอง


หลังจากตอนก่อนที่เรามายืนรอรถบัสหน้าทางเข้าวัดน้ำใส พอรถบัสมาคันแรกเราก็ไม่ได้ขึ้นกันเพราะคนเยอะมาก ต้องขึ้นคันที่สองซึ่งก็เยอะและแน่นจริงๆ เด็กนักเรียนยืนเต็มไปหมด ไม่น่าเชื่อว่า ที่กรุงเทพที่ว่าคนขึ้นรถเมล์เยอะแล้ว ที่เกียวโตก็แน่นเป็นปลากระป๋องไม่แพ้กัน เหมือนกับที่ใครๆบอกมาไม่มีผิดเพี้ยนแต่อย่างใด เราดีหน่อยที่ลงสุดสายที่สถานีรถไฟเกียวโต เลยไม่ต้องเบียดเสียดเวลาจะลง และแล้วรถบัสก็มาจอดที่สถานีรถไฟเกียวโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูการยืนรอรถบัสของคนในเกียวโต เยอะมากๆ


เราตัดมาที่ทางเดินเข้าภายในวัดทอง "คินคะคูจิ" กันเลยครับ ส่วนจากสถานีรถไฟเกียวโตมาตรงนี้ย้อนกลับไปชมการเดินทางมาได้ในตอน 6 ที่ผ่านมาสำหรับเพื่อนที่เข้ามาชมในตอนนี้เลย บ่าย 2 โมงครึ่งแดดเริ่มเฉียงแล้วครับ


ใบไม้แดงบางส่วนก่อนจะถึงประตูเข้าภายในวัด ซึ่งสามารถกลับไปชมในตอน 6 แบบเต็มอิ่มได้เช่นกัน


ซื้อตั๋วเข้าชมแล้วก็ได้ใบนี้มา ผู้ใหญ่คนละ 400 เยน เด็ก 300 เยน


พอเดินเข้าไป คนยืนรอบสระน้ำเยอะมาก ภาพที่เห็นเบื้องหน้าถึงกับตะลึงครับ


แดดยามบ่าย 3 โมงเย็นนี้ได้จังหวะดีแบบสุดๆที่กระทบกับผนังอาคารวัดทอง สะท้อนสีทองผ่องอำไพแสบตานักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว คุ้มแล้วครับที่มาช่วงเวลานี้ ไม่งั้นอดได้ดูความอลังการของแสงสะท้อนจะอาคารวัดทองแห่งเกียวโตนี้


ชมในแนวตั้งกันบ้าง


ผมค่อยๆ เดินรอบสระเปลี่ยนมุมถ่ายอาคารสีทองของวัดคินคะคุจิไปเรื่อย 


ดูสิครับ เบื้องหน้ารอบสระน้ำฝูงชนเป็นอย่างไร เสียงคนไทยดังไม่ขาดสายเช่นกันนะครับ กว่าจะได้ภาพวัดทองแบบไม่มีผู้คนนั้นต้องเบียดเสียดขนาดไหน


สู้ตายค่ะ มาถึงแล้วจริงๆ ขาดแต่ก็หิมะช่วงฤดูหนาวค่ะที่สวยไปอีกแบบ


ถ่ายกับใบเมเปิ้ลด้านบนบ้าง


แล้วก็เขยิบมาอีกมุมหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะมุมไหน วัดทองก็ดูสวยไปซะทุกมุมนะครับ


พอสมควรแก่เวลา เราเดินวนไปทางขวา ได้มุมด้านขวาของวัดทองครับ


ทางเดินออกจะเป็นการเดินชมธรรมชาติและเป็นเนินขึ้นไป ต้นเมเปิ้ลแดงกับสาวญี่ปุ่นชุดกิโมโน หรือยูกาตะ เป็นของคู่กัน


เต็มๆกับต้นเมเปิ้ลแดงระหว่างทาง


ซูมไปใกล้ๆหน่อยซิ (รูปเมเปิ้ลแดงเต็มๆดูได้จากตอน 6)


เดินอ้อมมาด้านหลังวัดทองกันแล้ว


สาวญี่ปุ่นคนเดิมในชุดยูกาตะกำลังถ่ายรูปเมเปิ้ลครับ


เดินอ้อมขึ้นเนิน ขณะนี้เห็นเพียงอาคารชั้นบนและหลังคาที่มีนกฟินิกซ์อยู่ด้านบน


ใกล้ทางออกแล้วครับ ตรงนี้จะเป็นศาลเจ้า


แล้วก็ต้องเดินลงบันไดครับ


กลับมาถึงทางราบแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจเที่ยวชมวัดทอง คินคะคูจิ วัดอิคิวซัง แล้วติดตามชมกันต่อในตอนหน้า เราจะไปศาลเจ้าอินาริ ที่มีเสาโทริอิสีแดงเยอะๆ เป็นที่สุดท้ายในเกียวโตกันแล้วครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น