วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น เมื่อยามใบไม้เปลี่ยนสี ตอน 5 จากฮิโรชิม่านั่งชินคันเซ็นไปโอซาก้าแล้วต่อรถไฟท้องถิ่น JR ไปนารา เที่ยววัดโคฟุกุจิ (Kofukuji) เป็นวัดแรก


ผ่านไปครึ่งทางแล้วครับสำหรับทริปญี่ปุ่นนี้ วันนี้เป็นวันที่ 5 ของทริป โดยวันนี้เราจะออกจากเมืองฮิโรชิม่าไปเมืองนาราโดยผ่านเมืองโอซาก้าแวะเก็บกระเป๋าเล็กๆแล้วเดินทางต่อด้วยรถไฟสายท้องถิ่น JR อีก 2 สายก็จะถึงสถานีนารา ในวันนี้ผมจะขอแบ่งทริปออกเป็นตอนย่อย 4 ตอนด้วยกันเพราะรูปเยอะ โดยตอนย่อยนี้จะพาเพื่อนๆเดินทางจากเมืองฮิโรชิม่าไปเที่ยวนารากัน โดยวัดแรกที่ไปนั้นคือ วัดโคฟุกุจิ Kofukuji ดังแพลนที่วางไว้ดังนี้

DAY5 (19 พฤศจิกายน 2557): Hiroshima - Nara (Tofukuji - Todaiji - Kasuga Taisha Shrine) - Dotonbori - Osaka


ตี 5 กว่าๆ เราต้องออกจากโรงแรม Chisun เมืองฮิโรชิม่ากันแล้วเพื่อมาเรียกแท็กซี่หน้าโรงแรมไปสถานีรถไฟชินคันเซ็น เนื่องจากไม่แน่ใจว่ารถรางจะเปิดวิ่งทันในช่วงเวลานี้หรือไม่ จึงไม่ลังเลที่จะใช้บริการแท็กซี่ครับ ครั้งนี้ได้รถหรู Prius แบบ Hybrid ด้วยน้าาา แต่ค่าบริการก็ไม่ได้แพงตามนะครับ เบ็ดเสร็จ 790 เยน ขั้นต่ำ 500 กว่าเยนเองครับ ต่ำกว่าที่คุรูเมะอีก


มาถึงสถานีฮิโรชิม่าก็เข้ามาเลือกซื้ออาหารกล่องกันเลย มีหลายแบบให้เลือก


ขึ้นไปรอที่ชานชาลา 13 แล้วรถไฟชินคันเซ็น Hikari 460 ก็มา


ภายในโบกี้รถไฟที่เราจองที่นั่งไว้ อยู่ฝั่งซ้ายนะครับ แบบ 2 ที่นั่ง


ได้เวลาเอาอาหารที่ซื้อมาทาน เป็นแซนวิชง่ายๆ


นั่งไปหลับไป 2 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงสถานีชินโอซาก้าแล้ว ออกไปข้างนอกก่อน


เอากระเป๋าเล็กๆไปฝากที่ coin locker ก่อนครับ จะได้เที่ยวสะดวกๆหน่อย


หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปสถานีชินโอซาก้าอีกครั้ง คราวนี้ไปที่ชานชาลารถไฟท้องถิ่นที่ 11 เราจะนั่งรถไฟท้องถิ่น JR ขบวน LTD. EXP KUROSHIO 3 เพื่อไปลงที่สถานี Tennoji ขบวนสีฟ้าขาวที่มาจอดเทียบท่านี้ละครับ เข้าแถวที่ยาวพอควรเพื่อขึ้นรถไฟกันครับ


ภายในขบวนรถไฟครับ เลือกที่นั่งตามสะดวก ไม่มีใบจองให้


นี่ครับ รถไฟ 2 ขบวนที่เราจะต้องนั่งเพื่อไปลงที่สถานีนารา ขบวนนี้จะใช้เวลา 17 นาที ส่วนอีกขบวนจะใช้เวลา 37 นาทีก็จะถึงสถานีนารา


นั่งไปสักพักก็มีนายตรวจตั๋วขึ้นมา แต่ครั้งนี้แปลกใจจังที่มีมาเก็บเงินในขบวนรถไฟด้วยแฮะ ไม่เคยเจอ เพราะทุกทีก็ต้องเสียเงินก่อนเข้ามาสถานีอยู่แล้วนี่หน่า หรือเฉพาะที่นั่งจองนะ


ถึงเวลาลงแล้วครับ สังเกตเห็นโบกี้นี้มีหมีแพนด้านั่งมาด้วย 4 ตัวด้วยกัน ด้านหลังโน้นนนน น่ารักจริงๆเลย


แล้วก็เดินมารอรถไฟขบวน JR Yamatoji Line Rapid Service ที่ชานชาลา 16 ที่สถานี Tennoji


เข้าไปภายในรถไฟด้วยกันเลยครับ แบบบ้านๆ แต่สะอาดสุดๆ


นั่งถ่ายมุมเดิมๆ แบบเดิมๆ อิอิ


37 นาทีผ่านไป เราก็มาถึงสถานีนาราแล้ว ลงมาเจอรถไฟ 2 ขบวนจอดแนวเดียวกัน


เดินออกไปที่ Information center ข้างนอกสถานีนารา ช่วงนี้เวลาประมาณ 10 โมงเช้านิดๆ


เข้าไปสอบถาม 1 day pass สำหรับรถบัสของเมืองนาราครับ ซื้อมาด้วยราคาคนละ 500 เยน พร้อมแถมแผนที่ท่องเที่ยวสำคัญๆในเมืองนารามา 1 แผ่น



นี่คือด้านหน้า Information Center ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานีนารา ชั้นล่าง


Bus Route Map ที่เราจะใช้ในการเดินทางไปท่องเที่ยววัดและศาลเจ้าสำคัญๆ 3 สถานที่ด้วยกัน ในแผนที่จะพบว่ามีรถบัสวิ่งอยู่ด้วยกัน 6 สาย แยกตามสีต่างๆ จุดเริ่มต้นในที่นี่คือ ป้ายสถานี JR Nara นะครับ 
1.ถ้าจะไปวัด Kofukuji ก็ให้นั่งรถบัส(ได้ทุกสายเลย) ไปลงที่ป้าย Kencho Mae แล้วข้ามมาฝั่งตรงกันข้ามเพื่อเดินเข้าไปที่วัด Kofukuji
2.ถ้าจะไปวัด Todaiji ก็ให้นั่งรถบัสสาย 70 กับ 97 ไปลงที่ป้าย Todaiji Daibutsuden หรือ รถบัสสาย 2 แล้วลงที่ป้าย  Daibutsuden Kasuga Taisha Mae แล้วเดินย้อนมานิดหนึ่ง ข้ามฝั่งถนน เดินเข้าไปยังวัด
3.ถ้าจะไปศาลเจ้า Kasuga Taisha Shrine ก็ให้นั่งรถบัสสาย 70 กับ 97 สายเดียวกับไปวัด Todaiji ไปลงที่ป้าย Kasuga Taisha Honden แล้วเดินต่อก็จะถึง


ส่วนอันนี้เป็นแผนที่สถานที่ตั้งต่างๆ ใกล้กับสเกลจริง พร้อมหมุดสีส้มคือป้ายที่ลงรถบัสครับ ส่วนกรอบสีแดงคือสถานที่สำคัญที่เราไปเที่ยวกันในวันนี้ ได้เห็นแผนที่นี้ก็น่าจะไม่หลงแล้วนะครับ อิอิ


ได้เวลาแล้วครับ รถบัสมาจอดหน้าป้าย JR Nara แล้ว เวลาขึ้นก็ขึ้นด้านหน้ารถเลย ใครไม่มีพาสก็จ่ายเงินที่กล่องหน้าคนขับ ราคาเท่ากันตลอดสายสำหรับสาย 1 และ 2 ส่วนใครที่มีพาสก็ให้ยื่นให้คนขับดู ก็ขึ้นมาได้ครับ แล้วหาที่นั่งตามสะดวก


นั่งรถประมาณ 10 นาทีก็มาถึงป้าย Kencho Mae แล้ว


ลงรถบัสเสร็จก็มายืนรอข้ามไปอีกฝั่งที่ทางม้าลายนี้


ข้ามมาก็เห็นเจ้ากวางมารุมกินโต๊ะนักท่องเที่ยวกันเลยแฮะ


เดินเข้าไปเรื่อยๆครับ จะเป็นทางเข้าวัด Kofukuji


วัด Kofukuji เป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมสมัยที่เมืองนารายังเป็นเมืองหลวงของประเทศ ในยุค ค.ศ.710


เห็นชาวญี่ปุ่นแต่งชุดกิโมโน ชุดประจำชาติแล้วรู้สึกดีครับ


ด้านขวามือจะเป็นคล้ายๆวิหาร 8 เหลี่ยมครับ


แต่เรายังอยู่ที่ Eastern Golden Hall ด้านซ้ายมือ และเจดีย์ 5 ชั้น ด้านขวามือครับ


เจดีย์ 5 ชั้นนี้ เป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับที่สองในญี่ปุ่น รองจากเจดีย์ 5 ชั้นที่วัด Toji ในเกียวโต โดยเตี้ยกว่าเพียง 7 เมตรเท่านั้น


เราเดินออกไปทางด้านซ้ายมือเพื่อไปชมใบไม้เปลี่ยนสีตามทางเดินครับ


แล้วก็ออกมาที่ถนนด้านหลังนี้ เป็นใบไม้แดงที่สวยอีกจุดหนึ่งครับ


เราคงยังเดินมาตามถนนด้านหลังวัดอยู่ ผมชอบหินแกะสลักพระที่มีผ้าคลุมสีชมพูนี้นะครับ ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอะไร


ด้านหลังวัดใบไม้แดงพรึ่บเต็มไปหมด


แต่ดูใกล้ๆ ไม่ใช่ใบเมเปิ้ลนะครับ คล้ายๆใบโพธิ


เราเดินกลับมาที่วิหาร 8 เหลี่ยม เจอกับไม้แขวนที่ไว้สำหรับเขียนขอพร


ล้างมือก่อนครับ


แล้วก็ต้องไปยืนสั่นกระดิ่งเพื่อเป็นสิริมงคล


มองย้อนไปที่เจดีย์ 5 ชั้นครับ แล้วเราก็ไปชมภายใน The Eastern Golden Hall เสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน เสียดายถ่ายรูปภายในไม่ได้ ซึ่งไม่มีอะไรเท่าไหร่นะครับ ไม่ต้องเข้าไปก็ได้


แล้วเราก็เดินย้อนออกมาทางเข้า เพื่อจะข้ามฝั่งไปรอรถไปวัด Todaiji กันต่อ เห็นน้องกวาง 4 ตัวกำลังหาอาหารทานท่ามกลางใบแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม


ข้ามฝั่งมาอีกฝั่งเหมือนตอนที่มาลงรถตอนแรก แล้วก็รอรถบัสสาย 70 หรือ 97 ครับ แต่ก็สามารถนั่งรถบัสสาย 2 แต่ต้องลงที่ป้าย Daibutsuden Kasuga Taisha Mae แล้วเดินย้อนมานิดหนึ่ง เพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่ง แล้วเดินเข้าวัด Todaiji ต่อไป เราเลยเลือกขึ้นรถบัสสาย 2 นี้ครับ แล้วอ่านกันต่อในตอนย่อยต่อไปที่วัด Todaiji นะครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น