[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
ปล.ได้กลับมาญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 3 จริงๆด้วยครับ ช่วง 24 ธค. 60 - 7 มค.61 ไปฮอกไกโด โตเกียวและโอกินาวะ กดอ่านตอน 0 ณ บัดนาว
อย่างที่บอกว่าเครื่องบินสายการบิน Thai Air AsiaX เที่ยวบิน XJ601 ออกเดินทางเวลา 6.15 น. ที่เทอร์มินอล 2 สนามบินนาริตะ ผมจึงใช้ Hyperdia.com ดูเส้นทางที่จะไปสนามบินนาริตะด้วย Keisei Skyliner ว่ามีเที่ยวไหนบ้างถึงจะเร็วที่สุด ได้เส้นทางตามรูปด้านบนครับ(ดู route 1) จากสถานี Iriya ขึ้นรถไฟใต้ดินเวลา 5.48 น. ถึงสถานีอูเอโนะเวลา 5.50 น. แล้วเดินทางไปอีก 8 นาทีก็จะถึงสถานี Keisei Ueno ซึ่งเป็นสถานีรถไฟต้นทางของสาย Keisei Skyliner รถไฟสายนี้จะออกเวลา 5.58 น. ครับ ซึ่งถ้าขึ้นรถไฟที่สถานี Iriya เร็วกว่า 5.48 น. ก็จะยิ่งดีเพราะจะได้มีเวลาเผื่อมากขึ้นกว่าจะไปที่สถานีรถไฟ Keisei Ueno
มาถึงสถานี Iriya(H18) แล้วตอนเวลา 5.25 น. เร็วกว่าแผนเดิมซึ่งดีมากๆครับ แล้วรถไฟก็มาพอดีเลย จะได้ไม่เสียเวลา
พอถึงสถานีอูเอโนะแล้วก็เดินหาทางไปสถานี Keisei Ueno จากป้ายคือเดินตรงไปตามทางครับ
เดินตามทางเดินใต้ดินโค้งๆแบบนี้ คนน้อยน่าดูเลย
แล้วก็มีเพื่อนร่วมทางเดินไปด้วย 2 คนครับ เป็นสาวญี่ปุ่น คงจะบินไปไหนสักที่เนอะ
เดินมาถึงทางแยก ไปทางไหนดี ก็เลี้ยวขวาตามป้ายบอกนะครับ
เดินมาไม่นาน ไม่ถึงนาทีก็มีป้ายไปชานชาลา และไปที่เคาน์เตอร์ซื้อตั๋วครับ คือเราต้องไปที่เคาน์เตอร์เพื่อแลก voucher ที่ได้มาเป็นตั๋วจริงก่อนครับ พร้อมกับเลือกขบวนด้วยว่าจะขึ้นขบวนไหน
ก็ไปแลกที่เคาน์เตอร์นี้นะครับ ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ 2 คนดังรูปแนะนำไปหาคนด้านขวามือนะครับ คนซ้ายหัวล้านมันกวนทีนมากๆ ตั้งแต่เข้าไปสอบถามแล้วว่าขึ้นที่ไหนยังไง เพราะผมก็งงๆว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เจ้านี่อารมณ์ยังไงไม่รู้ พอได้ตั๋วจริงเสร็จ ผมก็ถอยหลังมาเพื่อจะถ่ายภาพเคาน์เตอร์อยู่แล้ว ไม่ได้อยากถ่ายตาคนนี้หรอกนะ แกก็ยกมือโบกว่าห้ามถ่าย ตลกนะครับ มาห้ามได้ไง ผมถ่ายไปกี่พันรูปแล้ว ไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่ห้ามสักคน บ้าเปล่า???
โอเค เสียอารมณ์มาแล้วต้องปล่อยวาง เดินมาถึงชานชาลา ตอนนี้เวลา 5.41 น.เหลือเวลาอีกเยอะครับ ไม่เร่งดี ไม่งั้นมาช้าจะฉุกละหุกกว่านี้อีก รถไฟออกทางซ้ายมือ ก็คือขบวนที่จอดรอนี่หล่ะครับ เพราะขบวนที่ผมจะขึ้นออกเป็นขบวนแรกของวันครับ
SKYLINER AIRPORT EXPRESS
ตั๋วรถไฟที่ได้มาหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ออกเวลา 5.58 น. ถึงสนามบินนาริตะ Terminal 2 เวลา 6.39 น. ที่นั่งอยู่ในตู้ที่ 2 เลขที่นั่ง 8D
เดินไปเก็บภาพด้านหน้าหัวรถไฟ Keisei Skyliner
เอาหล่ะ ได้ขึ้นไปบนรถไฟแล้วนะ กระเป๋าเป้ 1 ใบที่นำมา กระเป๋าใบนี้เป็นใบที่ซ์้อมาครั้งแรกก่อนไปเที่ยวบาหลีเมื่อเดือนกค. ปี 48 นะเนี่ย เกือบ 11 ปีแล้วครับ ในมือที่เห็นถุงสีขาวคือถุงใส่แก้วสตาร์บัคส์ครับ
รถไฟมาถึงแล้วครับ บอกก่อนว่ารถไฟจะจอดที่เทอร์มินอล 1 ก่อนนะครับ อย่าเพิ่งลงไปหล่ะ รอลงอีกสถานีนะครับ มีเสียงประกาศภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน
เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อน แล้วปากทางเข้านี้ เลือกเดินตรงไปครับ เพราะไปเทอร์มินอล 2 ด้านซ้ายไปเทอร์มินอล 3
เดินเข้ามาอาคารขาออกแล้วครับ โล่งสบายไม่เบียดเสียด เอ๊ะ...หรือว่ายังเช้าอยู่นะ
ผมมารอที่ทางเข้าฝั่งใต้ ป้ายบอกเที่ยวบิน XJ601 ออกเวลา 9.15 น.ตรงเวลาครับ(แถวที่ 3 จากบนซ้าย) ผมไม่ได้ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์แอร์เอเชียเพราะพิมพ์ Boarding pass มาแล้วตั้งแต่ในไทย
รอไปรอมา ก็เดินไปรอที่ทางเข้าตม.ฝั่งเหนือแทน มีรถอะไรมาโฆษณาด้วย
ดูแผนผังชั้น 3 หน่อยซิ ว่าอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง
พอถึงเวลาเปิดทางเข้าตม.ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ไม่ให้ผมเข้าไปครับ บอกว่าไม่ใช่ Boarding pass แต่ผมก็เถียงแกก็ยังไม่ยอม ผมเลยต้องถอยไปหาเคาน์เตอร์แอร์เอเชียเพื่อเช็คอินอีกครั้ง แย่เลย กลัวตกเครื่องนะเนี่ย เพราะผมต่อแถวเป็นคนที่ 4-5 เลยนะครับ แต่พอมาถึงเคาน์เตอร์แอร์เอเชียรอสัก 5 นาที เขาจะมีแถวว่าไม่มีสัมภาระ หรือ Onlinecheckin มาแล้วแยกเฉพาะ ไม่งั้นแย่เลยครับ เพราะแถวอื่นนี่อย่างยาวเลยครับ หึๆ เกือบไปแล้ว เพื่อนๆระวังด้วยครับ ถึงจะเช็คอินมาก่อน พิมพ์ Boarding pass มาแล้วก็ต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์อีกครั้งครับ
รอคิวก่อนเข้าตรวจสัมภาระ ที่ตรวจคนเข้าเมืองขาออกครับ
แล้วก็ผ่านตม.มาแบบฉลุย ไม่ได้ถามอะไรเลย กลัวก็กลัว อิอิ ทางเดินไปเกทยาวมากๆ ของผมเกท 97 ครับ
นั่งรอตรงนี้ครับ เกท 97 ณ ตอนนี้คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเพิ่งเวลา 8.11 น.เองครับ
ลำนี้แหล่ะ XTRA LONG ที่จะพาผมกลับสู่มาตุภูมิ กรุงเทพ ประเทศไทย
ได้เวลาบอร์ดดิ้งแล้วครับ ที่นั่งส่วนหลัง
เวลาประมาณ 12.09 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เริ่มหิวแล้วครับ เลยสั่งบะหมี่ถ้วยมากินรองท้องครับ ราคา 60 บาทจ่ายเป็นเงินไทย
เข้าห้องน้ำเครื่องบินบ้าง
และแล้วก็มาถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ ณ เวลา 15.11 น.ตอนต่อแถวเข้าตม. จะบอกว่า ช้ามากๆเลย เพราะตม.ให้คนไทยทุกคนใช้แถวที่ต้องใช้ Electronic Passport ซึ่งมันมีอยู่ 2 แถวเท่านั้น และใช้เวลามากพอควรต่อคนด้วยครับ เซ็งเลย ผมว่าการจัดการนี่สำคัญมากๆเลย รอไปเหอะ กว่าจะออกมาได้ 10-15 นาทีเลย แย่มากๆครับ
เอาหนังสือพาสปอร์ตหน้าที่ตม.ญี่ปุ่นประทับตรามาโชว์ครับ ทั้ง 2 ครั้งที่ไปญี่ปุ่น เขาประทับตราและติดสติ๊กเกอร์หน้าเดียวกันเลย ก็เป็นอันว่าจบทริปญี่ปุ่น ภาค 2 ตะลุยเดี่ยว เที่ยวโตเกียว ไปได้แบบสมบูรณ์นะครับในความคิดผมเพราะวางแผนไม่กี่วันจริงๆ ซื้อตั๋วในวันที่ 5 มกราคม 2559 บินวันที่ 9 มกราคม 2559 เพียง 4 วันก่อนการเดินทาง ไม่เคยทำมาก่อนเลยครับ ครั้งนี้ครั้งแรกจริงๆ ส่วนใครมีคำถามอะไรถามมาได้ครับ ตอบได้จะตอบให้ครับ สวัสดีครับ...
สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ไป-กลับ ดอนเมือง-นาริตะ + ค่าธรรมเนียมตัดเงิน SCB @5 มค. 59 = 13445+40 = 13,485 บาท
2. -แลกเงินเยนครั้ง 1 26,000 เยน x 0.3055 = 7,943 บาท
-แลกเงินเยนครั้ง 2 16,000 เยน x 0.3065 = 4,904 บาท
3.ค่าซิมการ์ด DOCOMO ญี่ปุ่น 7 วัน @8 มค. 59 = 800 บาท
4.ค่าแท็กซี่ (ค่าทางด่วน+ค่าโดยสารแท็กซี่+ค่าเรียก1681) @9 มค. 59 = 50+313+20 = 383 บาท
5.ค่าอาหารเช้าร้านเชสเตอร์กริลล์ สนามบินดอนเมือง = 139 บาท
6.ซื้อน้ำเปล่าบนเครื่องแอร์เอเชียเอกซ์ ขาไปนาริตะ = 40 บาท
7.ซื้อบะหมี่คัพบนเครื่องแอร์เอเชียเอกซ์ ขากลับไทย = 60 บาท
8.แลกเงินเยนคืน 9,000 เยน = 2,642 บาท @30 มค. 59
-แลกเงินเยนคืน(ใบละ 5 พันเยน) 5,000x0.294=1,470 บาท
-แลกเงินเยนคืน(ใบละ 1 พันเยน) 4,000x0.293=1,172 บาท
**ใช้เงินเยนไปจริงๆ = 42,000 - 9124 = 32,876 เยน หรือ 10,043.618 บาท (Rate 1 เยน = 0.3055)
รวมทั้งหมด 25,112 บาท
[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น