วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

ญี่ปุ่น ภาค 2 ตะลุยเดี่ยว เที่ยวโตเกียว ตอน 3.2 ไปชมสะพานนิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) หรือคนไทยเรียก"สะพานแว่น" ณ พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)


มาต่อกันนะครับ ตอนย่อยนี้จะพาไปชมพระราชวังอิมพีเรียล ที่มีสะพานนิจูบาชิ หรือคนไทยเรียกกันว่า"สะพานแว่น" ก็ด้วยเหตุที่มันมีเงาสะท้อนส่วนโค้งที่น้ำจนเป็นวงรีดูเหมือนแว่นตานั่นเอง ส่วนตัวพระราชวังเองไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปชมนะครับ ทำได้เพียงเดินรอบๆ ส่วนสวนใกล้ๆพระราชวังไม่ได้เดินเข้าไปชมครับ
อัพเดท (27 มิถุนายน 2561) : ชมบันทึกเดินทางล่าสุดที่ไปชมสะพานแว่น และได้เข้าไปพระราชวังอิมพีเรียลด้วย


เริ่มจากทางออกที่มาจากสวนสาธารณะอุเอโนะ โดยเมื่อออกมาจะเจอกับทางเข้าสถานีรถไฟอุเอโนะ JR สาย Yamanote line ผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่าอยู่ทางนี้ ตอนแรกเดินเข้าไปที่ทางเข้าสถานี คิดว่าจะเดินลัดออกไปตรงสถานีรถไฟใต้ดินอุเอโนะได้ สุดท้ายเข้าไปไม่ได้ครับ ต้องออกมาฝั่งเดิม


และเดินตามผู้คนไปตามริมถนนที่ยกสูงดังภาพ


แค่ 2 นาทีก็มาถึงทางลง คราวนี้คุ้นแล้วครับ ตรงข้ามไกลๆคือตลาด Ameyoko เดินลงแล้วเลี้ยวซ้ายข้ามถนนตามทางม้าลายเลียบไปหาสถานีอุเอโนะรถไฟใต้ดินกันเลย


จะขึ้นรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสายไหนดี? ลงสถานีไหน? ต่อสายไหน? อย่าลืมว่าแอ๊พ TokyoSubway(แอนดรอยด์) และ TokyoSubway(iOS) ช่วยท่านได้นะครับ พอกดสถานีต้นทางในที่นี้คือ สถานี Ueno สถานีปลายทางในที่นี้คือสถานี Nijubashimae จะได้ผลลัพธ์เส้นทางดังในรูป นั่นคือ ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza จากสถานี Ueno ไปลงสถานี Tameike-sanno แล้วเดินต่อ 5 นาที(ญี่ปุ่น=10นาทีไทย) แล้วขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda ที่สถานี Kokkai-gijidomae ไปลงสถานี Nijubashimae โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 27 นาที สะดวกมากๆครับ นำไปใช้กัน


แล้วก็มาถึงสถานีรถไฟใต้ดินอุเอโนะ ใช้สาย Ginza โดยเลือกไปทางกินซ่า หรือชิบูย่านะครับ


แล้วลงที่สถานี Tameike-sanno เดินต่อไปที่สถานี Kokkai-gijidomae สาย Chiyoda รอรถไฟฝั่งที่ไป Ayase นะครับ


แล้วก็ลงที่สถานี Nijubashimae ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ทางเข้าพระราชวังอิมพีเรียลฝั่งสะพานแว่นมากที่สุดแล้วครับ แวะซื้อแซนวิชก่อนครับ แล้วเดินไปตามป้ายที่บอก Imperial Palace : Nijubashi District Gate


ช่วงนี้ทางเดินกำลังซ่อมอยู่ครับ มีทางเดินแคบๆให้เดินแค่นั้น รู้สึกกลัวๆยังไงไม่รู้แฮะ แถมคนเดินทางทางนี้ก็น้อยซะด้วยสิ แต่ไม่เป็นไร ใจดีสู้เสือครับ เดินต่อไป


มองหาทางออกที่เขียนว่า B6 นะครับ (เขียนว่า Niju-bashi bridge) อยู่ทางขวามือ อย่าเดินเลย เพราะผมเดินเลย 555 ต้องย้อนกลับมา


แล้วก็ขึ้นบันไดโผล่มาอย่างที่เห็นในภาพครับ มีคนกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่พอดี โน่นครับ ไกลๆโน่น จุดหมายของเรา


ถ้ามองกลับหลังหันจะเห็นทางออกจากสถานีใต้ดินที่เดินมาเป็นดังภาพนะครับ บันไดขึ้นมาฝั่งขวามือ ส่วนเลยไปก็จะเป็น 4 แยก


เอาหล่ะ รอข้ามทางม้าลายจุดแรกครับ จริงๆก็ไม่ต้องรอหรอกนะครับ เพราะไม่มีรถวิ่งตัดมาหรอก เขากั้นทางไม่ให้รถตัดผ่าน


เจอม้านั่งใต้ต้นไม้แล้ว นำขนมปังแซนวิชที่ซื้อมาจากร้าน Lawson ที่สถานี Nijubashimae ราคา 113 เยน
แกะแล้วทานเป็นอาหารเช้าก่อนครับ หิวมากๆ ยังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย



ต้นไม้ต้นนี้แปลกๆแฮะ ยื่นเอียงๆเข้ามาตรงทางเดิน เก็บรูปไว้ก่อน


แล้วก็มาเจอกับทางข้ามทางม้าลายจุดที่ 2 คราวนี้ต้องรอสัญญาณไฟนะครับ คนรอข้ามเยอะแยะเลย


เดินมาถึงลานหินเกร็ดเล็กๆ มองไปทางซ้ายมือโล่งจริงๆ แต่ย้อนแสง


มองไปทางขวามือ ก็โล่งเช่นกัน


เอาหล่ะ...มาถึงสะพานนิจูบาชิ หรือสะพานแว่นแล้ว เฉลยแล้ว่าทำไมถึงเรียกว่าสะพานแว่น อิอิ


มีคนยืนวาดรูปด้วยนะครับ


หันกลับมาถ่ายอีกครั้ง อ้าว....สภาพแสงเปลี่ยนไปแล้ว เลยไม่เป็นสะพานแว่นแล้ว ระวังให้ดีนะครับ กะจังหวะให้ดี เดี๋ยวจะไม่ได้รูปแว่นดังตั้งใจไว้


เดินเข้าไปใกล้ๆ ถ่ายสะพานแว่นมุมนี้บ้าง


กั้นรั่วไม่ให้คนเข้าครับ แต่มีทหารเฝ้าประตูอยู่


สุดทางได้แค่นี้แล้วครับ ไปต่อไม่ได้แล้ว


มองหันกลับหลัง มุมนี้สวยจริงๆ ควักเลนส์ไวด์มาถ่าย


ก่อนกลับ เก็บภาพหงส์กำลังเล่นน้ำก่อนครับ เสียดายมันว่ายไปไกลมาก เลยได้ภาพไม่ค่อยชัด


ขากลับเดินลงทางบันไดอันเดิม แต่คราวนี้ไม่กลับที่สถานีเดิม Nijubashi แล้ว แต่จะกลับไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Hibiya แทน ซึ่งอยู่ไม่ไกลเช่นกัน เดินลงบันได้แล้วเลี้ยวขวานะครับ เลี้ยวซ้ายจะไปทางเดิม


เดินผ่านไปยัง Chiyoda line ตามป้ายที่เขียนไว้บนเสานะครับ

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น