[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
พอเสร็จจากวัดนี้ก็กลับชิบูย่า ไปชิลล์ๆใช้บัตร 3 Day pass ให้คุ้มเพราะหมด 3 วันก็วันนี้แล้ว แล้วเดินทางกลับอูเอโนะ ไปหาราเมงร้านเดิมทานเพราะติดใจในรสชาติ
จากวัดโคโตกุอินก็เดินออกมาแล้วเดินกลับทางเดินตอนที่เดินเข้ามานะครับ ผ่านร้านขายอาวุธสมัยโบราณอย่างร้านนี้
แล้วก็ถึงทางเข้าไปวัดฮาเสะเดระ เดินเข้าไปเลยครับ คนละฝั่งถนนกับวัดโคโตกุอินครับ
ด้านหน้าทางเข้ามีโคมแดงแขวนอยู่ แต่ทางเข้านี้เข้าไม่ได้แล้ว ต้องเลี้ยวซ้ายไปซื้อตั๋วเข้าชมก่อนครับ ผู้ใหญ่ 300 เยน แพงกว่าวัดพระใหญ่อีกแนะ
ข้อมูลจากเว็บไซท์วัดนี้อย่างเป็นทางการครับ http://www.hasedera.jp/en/
ก่อนเข้าไปก็ดูแผนที่ภายในวัดฮาเสะเดระกันก่อนครับ ว่าแต่ละโถงอยู่ตรงไหนอย่างไร
แล้วก็เดินขึ้นบันไดข้างบนครับ มาวัดนี้ผมหมดแรงแล้ว เดินขึ้นบันไดแบบช้าๆเหนื่อยๆ ปวดขาปวดเข่ามากๆ มองลงมาที่สระน้ำเห็นปลาคาร์พว่ายน้ำอยู่
โถงที่เห็นนี้เรียกว่า Amida-do ข้างในมีพระอมิตาภะสีทองสูงเกืบ 3 เมตรเป็นพระประธานครับ
โถงนี้คือพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม อ๋อ...ตอนไปมันปิดนั่นเอง เลยไม่ได้เข้าไปดู
มุมเฉียงๆบ้าง โถงขวาสุดคือ Kannon-do Hall หรือโถงเจ้าแม่กวนอิม
แล้วก็เดินมาชมวิวชายทะเลของเมืองคามาคุระกันครับ ปวดขาเหลือเกินไม่ไหวแล้ว เห็นวิวปล่องอะไรสักอย่างกำลังปล่อยควันขาวฟุ้งๆเลยครับ
วิวชายทะเลเมื่อยาม 16.00 น.
ชมวิวมุมกว้างบ้าง บรรยากาศดีมากๆครับ พระอาทิตย์ใกล้ลับเต็มที
ตรงนี้มีตู้กดน้ำดื่มอัตโนมัติด้วยแฮะ จัดไปครับ ถั่วแดงต้ม ท่าทางจะอร่อย 130 เยน ปรากฎว่าอร่อยจริงๆ ชอบมากๆเลยครับ
นั่งดื่มถั่วแดงต้มน้ำตาลพร้อมชมวิวไปชิลล์ๆ มีป้ายบอกให้ระวังเหยี่ยวด้วยนะครับ บอกว่าเหยี่ยวเหล่านี้ต้องการอาหาร จะบินจากข้างหลังมาเพื่อเอาอาหารไป จงอยปากที่แหลมจะทำอันตรายกับคุณ ให้ระวังด้วย!
วิวชิลล์ๆมากครับ เย็นยะเยือก นั่งสักพักก็ต้องเคลื่อนย้าย เพราะหนาวเหลือเกิน มีลมพัดมา
เดินผ่านมีองค์พระพุทธเจ้าล้อมรอบด้วยเทพ
ลงมาชั้นล่างสุด เจอสระน้ำอีกแล้ว
เดินเข้าไปในถ้ำเบ็งเต็ง (Benten-kutsu Cave)
จะเจอกับรูปปั้นเบ็นไซเต็ง (Benzaiten) เทพีแห่งความรู้, ความงาม และศิลปะ เต็มไปหมด
ข้างในจะมืดๆ มีเพียงแสงจากเทียนและแสงไฟที่ส่องให้สว่าง เข้าไปลอดตรงทางนี้เลยครับ
เดินเข้าไปภายใน รูปปั้นเบ็นไซเต็งเต็มไปหมด
แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องกลับกันแล้ว เดินผ่านร้านขายถั่วชนิดต่างๆ น่ากินจัง
ออกมาแล้วเพิ่งเจอเหยี่ยว ใครเจอเขาว่าโชคดีนะครับ จำได้ว่าเจอบินผ่านที่พูนฮิลล์ เนปาล, ตอนเล่นน้ำทะเลที่หลีเป๊ะ
ร้านขนมร้านนี้ดูน่ากินจัง เสียดายยังไม่หิวง่ะ ใกล้ทางเข้ากับสถานีรถไฟ Hase
กลับไปที่สถานี Hase และขึ้นรถไฟไปลงสถานีคามาคุระ คนเยอะพอควรครับ เริ่มเปิดไฟแล้ว
ผมเห็นเด็กนักเรียนที่นี่สะพายกระเป๋าสีเหลืองแบบนี้แปลกใจมากๆไม่เคยเห็น เลยรีบเดินไปถ่ายเก็บภาพไว้ หมวกก็แปลกๆไม่เหมือนใคร เป็นเด็กนักเรียนหญิงครับ สงสัยเป็นชุดประจำโรงเรียนของเขา
ตัดฉับมาที่สถานีโยโกฮาม่า โดยขึ้นรถไฟมาจากสถานีคามาคุระ และมารอรถไฟสาย Tokyu Toyoko/Minatomirai Line Exp. เพื่อไปลงสถานีชิบูย่าครับ
ถึงแล้วสถานีชิบูย่า เดินข้ามสะพานลอยภายในสถานี ตรงนี้ยังไม่เคยเดินมาครับ
ชมวิวแยกไฟแดง แต่คนละที่ที่มีคนข้ามเยอะๆ ดูเสร็จแล้วก็กลับอูเอโนะ 555
มาถึงอูเอฌนะแล้วครับ เวลาเกือบ 1 ทุ่ม ดูอุณหภูมิบนตึกแจ้งว่า 5 องศาเซลเซียส หนาวๆ
ก็เลยต้องหาอะไรอุ่นๆทาน ผมติดใจราเมงเมื่อวันก่อนที่ร้านย่านอูเอโนะ เลยกลับมาทานอีกครั้ง ราคาก็ไม่แพงแถมอร่อยด้วย ซู้ดปากดังๆเมื่อเส้นเข้าปากนะครับ อร่อยอย่าให้เซ่ดดดด
ยืนรอข้ามถนนไปยังฝั่งสถานีรถไฟใต้ดิน ด้านบนคือทางสำหรับให้รถไฟ JR วิ่งสาย Yamanote Line
ชมมินิคอนเสิร์ตข้างทางก่อนครับ
อันนี้เป็นผังขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ จากสถานีอูเอโนะ
แล้วก็มาถึงทางเดินจากสถานี Iriya ไปที่พักครับ เจอตู้กดน้ำอัตโนมัติ ก่อนหน้านี้ไม่ได้สังเกต มาครั้งนี้หยุดดู อ้าว มีถั่วแดงต้มน้ำตาลด้วย คนละยี่ห้อกับตอนที่ทานที่วัดฮาเสะเดระ ราคาก็ถูกกว่าด้วย กลายเป็นว่าวันนี้กิน 2 กระป๋องเลย อิอิ ฟินกันไป
แล้วมาติดตามกันต่อในวันที่ 5 ครับ ดูว่าผมจะไปที่ไหนอีก ใบ้ให้ว่าไปหาไข่ดำทาน อิอิ
[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น