[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
กลับมาต่อกันในตอนย่อยนี้ โดยตอนนี้จะเป็นการเดินทางไปเมืองคามาคุระ เมืองที่มีพระใหญ่ไดบุตสึ พระพุทธรูปอมิตาภะองค์ใหญ่หล่อด้วยบรอนซ์ที่เราคุ้นตากันทั่วไป ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ห่างกันประมาณ 50 กม. อยู่ในจังหวัดคานากาวะ ทำให้บัตร 3-day pass ที่ใช้สำหรับรถไฟใต้ดินในโตเกียวไม่สามารถใช้ได้แล้ว ใช้ได้ไกลสุดที่สถานีรถไฟใต้ดิน shimbashi ต่อจากนั้นต้องเสียเงินเองครับ แต่เรามีบัตร IC PASMO สะดวกอยู่แล้ว อย่าไปกลัว อิอิ
ว่ากันว่า ถ้าใครอยากดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมสมัยโบราณนานๆ ควรที่จะลงที่สถานี Kita-Kamakura ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ถึงก่อนสถานีคามาคุระ 1 สถานีนั่นเอง โดยที่นี่จะมีวัด Engaku-ji เป็นวัดในนิกายเซนอันดับ 2 ของเมืองคามาคุระ และใกล้ๆกันก็จะมีวัด Meigetsuin ถ้าจะเดินต่อไปก็จะเจอกับวัด Kenchōji เป็นวัดในนิกายเซนอันดับ 1 ของเมืองคามาคุระเลยทีเดียว เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้ และถ้าเดินต่อไปเรื่อยๆก็จะเจอกับศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gū ซึ่งเป็นศาลเจ้าในนิกายชินโตที่ใหญ่ที่สุด ศาลเจ้านี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นล้านๆ โดยเฉพาะวันขึ้นปีใหม่เพื่อที่จะเห้นแสงพระอาทิตย์ครั้งแรกของปีที่วัดแห่งนี้
ใช้ตัวช่วยจาก Hyperdia จะได้เส้นทางจากสถานี Tsukijishijo ได้ดังภาพด้านบน โดยสิ้นสุดตั๋วฟรีที่สถานี shimbashi ต่อจากนั้นก็เสียค่าตั๋วรถไฟ JR ตามปกติ 800 เยน แต่ถ้าใช้บัตร PASMO จะลดราคาลงเล็กน้อยครับ
ใช้ตัวช่วย แอ๊พ tokyosubway อีกอันเพื่อดูว่าเส้นทางที่เป็นรถไฟใต้ดิน(Tokyo Metro) นั้นถูกต้องมั้ย ก็ใกล้เคียงนะครับ ต่างกันแค่ระยะเวลานิดเดียวเอง ใช้ได้ๆ
ตัดฉับไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Daimon(A09) ครับ รถไฟกำลังเทียบท่าแล้ว
ไม่นานก็มาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน Shimbashi สุดสายที่ใช้บัตร 3-day pass Tokyometro ได้ เดินไปตามป้ายเพื่อหาสถานีรถไฟท้องถิ่น JR ขึ้นครับ
ได้ขึ้นรถไฟ JR แล้ว นั่งไปสักพัก ออกนอกเมืองโตเกียวไปตะวันตกเฉียงใต้ ไม่นานก็มาถึงสถานีโยโกฮาม่า ครึ่งทางของการเดินทางแล้วครับ
แอบถ่ายรถไฟ 2 ชั้น ตู้แบบกรีนคาร์ ชั้น 1 ครับ มีสาวเข้ามาในเฟรมด้วย อิอิ (สังเกตชาวญี่ปุ่นจะใส่แมสค์กันทั้งนั้นนะครับ)
ไม่นานมาก 1 ชม.นิดๆจากสถานี Daimon ก็มาถึงสถานี Kita-Kamakura ลงโลดดด แต่อยากบอกว่า วันนี้หนาวมากๆครับ มีละอองฝนตกลงมาทั้งวัน จะแข็งตายอยู่แล้ววว
นาฬิกาที่สถานีบอกเวลา 13.20 น. แต่อากาศหนาวเย็นฝุดๆ
มีเครื่องให้แตะบัตร IC Card ก่อนออกครับ คือออกแนวชนบทไม่มีที่กั้น จะไม่แตะก็ได้หรือเปล่านะ ยังสงสัย ส่วนด้านบนเป็นป้ายบอกข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวบริเวณสถานีนี้ วัดใกล้ๆนี่เลย 50 เมตร วัด Engaku-ji เดินตรงไปข้างหน้าไม่ต้องเลี้ยวไปทางขวา
เดินมาไม่ไกลก็มาเจอทางเข้าวัดพอดี เดินเข้าไปกันเลยครับ
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน แน่นอนว่ารับบัตร Suica และ PASMO ด้วยนะจ๊ะ แต่ผมจ่ายเงินสดดีกว่า เก็บเงินในบัตรไว้จ่ายค่ารถไฟจะดีที่สุด
ทางด้านหน้าเพื่อจะผ่านอาคารไม้นี้ไป(เรียกไม่ถูกแฮะ)
แหงนมองไปดูด้านบน เป็นการเข้ามุมแบบไม่ใช้ตะปูเลย สวยดีครับ
ตรงนี้เป็นอาคารด้านข้างครับ
วันนี้คนไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเหงากันเลยทีเดียวถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อวานที่ไปศาลเจ้าเมจิ อันนั้นคนอย่างเยอะ อย่างว่า ที่นี่ไกลตัวเมืองหน่อย คนไม่พลุกพล่านดี
เดินเข้าไปข้างใน พระพุทธรูปประธานน่ากลัวเหมือนกันแฮะ จ้องมองมาทางเราพอดีเลย
แล้วก็เดินต่อไปข้างหน้าขึ้นเนินน้อยๆไปครับ จริงๆก็เดินๆตามคนเขาไป
มีสระน้ำด้านซ้ายมือด้วย
ค่อยๆเดินครับ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ อากาศเย็นเป็นใจ แต่คนหายไปแล้ว
ตรงนี้เป็นที่พักผ่อนจิบชานะครับ เข้าไปต้องเสียค่าเข้า 100 เยนด้วย เลยถ่ายมาเฉยๆ
ซูมไปละกันว่าข้างในมีอะไร เป็นพระนิกายเซนครับ แต่งตัวคล้ายๆในหนังอิคิวซังเลย
โอไบอิน(Obaiin) สร้างเป็นสถูปในช่วงศตวรรษที่ 15 ของยุค Engakuji
สำรวจไปเรื่อยๆครับ
สุดทางแล้วครับ ไปต่อไม่ได้แล้ว ก็ลงกลับมาอีกครั้ง
เดินเข้ามาภายใน ตรงนี้เป็นสระน้ำฝั่งตรงข้ามกับสระน้ำที่ผ่านไปตอนแรกครับ
เดินสวนกับท่านนักบวชพอดี ไม่กล้าถ่ายหน้าตรง เลยถ่ายเมื่อท่านเดินผ่านไปแล้วดีกว่า
เดินเข้ามาภายในตรงนี้ จะเจอกับหินแกะสลัก(Stone Carving) พระพุทธเจ้าเยอะมาก
อาคารที่ทำด้วยไม้ เก่าแก่และสวยงามมากครับ ทรงคุณค่าจริงๆ
ตรงนี้อยู่ทางซ้ายมือถ้ามาจากทางเข้า แต่ขากลับจะอยู่ทางขวามือ เข้าไปดูข้างในดีกว่าว่ามีอะไร
ตรงนี้รู้สึกจะเป็นคลังแสงสรรพาวุธนะครับ (Armory) แต่ทำไมใบหน้าพระประธานน่ากลัวจัง อันนี้ยังไม่เข้าใจความหมายมากนัก
เดินสำรวจจนหมดแล้ว ขอพักก่อน ขาดไม่ได้คือเครื่องดื่มอุ่นๆครับ จะอะไรซะอีก ก็กาแฟร้อนกระป๋องไงครับ เลือกอันที่ 2 จากซ้าย คิดว่าจะอร่อย ปรากฎว่าไม่อร่อยเลย WONDA จะจำไว้
แล้วก็ออกจากวัดเดินต่อไปอีกครับ ตรงนี้ที่เห็นจะเป็นบ้านแมวครับ แต่ไหงตอนนี้ไม่มีแมวหรือคนที่เป็นเจ้าของเลยแฮะ สงสัยจะไม่อยู่บ้าน เลยอดชมน้องแมวเลย ฮือๆ
เดินต่อไปอีก รถไฟจากสถานีคามาคุระมาพอดีเลยแฮะ แต่ช่วงนี้อากาศหนาวจริงๆ ต้องใส่ฮู้ดคลุมหัว ไม่งั้นไม่ไหว ส่วนมือก็เอามาซุกกระเป๋ากางเกงครับ หนาวจนมือชาไปหมดแล้ว
พอเจอสามแยกก็เลี้ยวซ้ายถ้าจะไป Yoh Shomei Museum อีก 100 เมตร หรือ วัด Meigetsuin อีก 250 เมตร ผมลองเดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปครับ
เดินมาค่อนข้างไกลทีเดียว ก็ 250 เมตรตามที่บอก ตรงนี้จะเป็นทางเข้าวัดครับ เสียค่าเข้าชมด้วย
ผมแค่ตระเวนถ่ายรูปกระต่ายและเต่าด้านนอก ไม่ได้เข้าไปข้างใน แล้วก็เดินกลับครับ
มีบ้านหลังนี้ออกแนวสมัยใหม่(แนวยุโรป) กำลังจัดงานแต่งงานพอดีเลยครับ ว่าจะเข้าไปเป็นแขกซะหน่อย พอดีเวลาไม่พอเลยผ่านไปครับ
ผมตัดสินใจเดินกลับสถานีรถไฟ Kita-Kamakura แล้วครับ เจอพิพิธภัณฑ์บ้านเก่าคามาคู (鎌倉古民家ミュージアム) ก่อนถึงสถานีรถไฟ ผมเดินต่อไปอีกทางไม่ไหว เพราะไกลเหลือเกิน ส่วนถ้าใครมีกำลังไหว น่องเหล็กเดินมากไม่เป็นอะไรก็เดินต่อไปก็ได้ครับ อีก 2 กม.ก็จะเจอกับวัดและศาลเจ้าอีก พร้อมไปถึงสถานีรถไฟคามาคุระเลย ส่วนผมขอบายไม่ไหวจริงๆ ถนอมเข่าไว้ดีกว่า ยังเหลืออีกหลายวัน
เข้ามาถึงสถานีรถไฟคีตะ-คามาคุระ (Kita-Kamakura) ไม่นานก็มีรถไฟขบวนนี้เข้ามาพอดี ซึ่งจะขึ้นไปลงสถานีหน้า สถานีคามาคุระ แล้วมาตามกันต่อในตอนต่อไป ไปไหว้พระใหญ่ไดบุตสึกันครับ
[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 2.3] [ตอน 2.4] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 3.6] [ตอน 3.7] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 5.1] [ตอน 5.2] [ตอน 5.3] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 6.3] [ตอน 6.4] [ตอน 7]
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น