มาต่อตอนสุดท้ายของวันที่ 2 ครับ หลังจากที่จบภารกิจที่เมืองใหม่โอไดบะแล้ว ตอนแรกคิดว่าคงมืดกลับย่านอูเอโนะดีกว่า แต่พอดูเวลาแล้วก็ยังไม่ดึกมากนัก อีกทั้งมีพาสโตเกียวเมโทรแล้ว จะกลัวอะไร ใช้เดินทางไปมาให้มันคุ้มดีกว่า เลยเป็นที่มาว่าจะเดินทางต่อไปเยี่ยมน้องหมาซื่อสัตย์กับเจ้าของที่ย่านชิบูย่าก่อน แล้วค่อยกลับที่พัก แถมไปเดินข้าม 5 แยกที่ใครๆที่ไปโตเกียวก็ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าผู้คนคับคั่งขนาดไหนถึงกับได้ติดแยกที่คับคั่งมากที่สุดอันโลกเลยครับ
ประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว โดยขากลับไม่ได้กลับทางเดิม แต่ใช้สถานี Tokyo Teleport ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินเส้น Rinkai line วิ่งระหว่างเมืองโอไดบะ กับโตเกียวส่วนกลาง ถ้านึกว่าจะขึ้นสายไหนต่อที่สถานีไหนไม่ออก บอก Hyperdia ได้ครับ โดยผมจะลงสุดสายที่สถานี Shin-Kiba ก่อนแล้วต่อรถไฟใต้ดินของโตเกียวเมโทรอีกทีเพราะสามารถใช้พาสขึ้นฟรีได้ โดยเส้นทางที่ขึ้นรถไฟเป็นดังนี้ --->
click
ลงเข้าไปชั้นล่างที่ชานชาลา ดูจากป้ายไฟ ด้านซ้ายไป Shin-kiba อีก 7 นาทีครับ สถานีนี้โล่งมากๆ อ้อ อันนี้ต้องจ่ายค่าตั๋วโดยบัตรพาสโมเองนะครับ พาส 3 วันไม่ครอบคลุม
รถไฟมาแล้วครับ ตรงเวลาเป็นปกติของญี่ปุ่นเขา
ก่อนลงจากรถไฟ ภายในสวยงามครับ ราคาตั๋วเที่ยวนี้คือ
270 เยน แต่ใช้บัตรพาสโม่จะราคาลดลงกว่านี้นิดนึงครับ
เมื่อถึงสถานี Shin-kiba ซึ่งสถานีนี้ก็จะเป็นต้นสายของรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสาย Yurakucho Line ซึ่งสามารถใช้พาส 3 วัน ได้แล้วนะครับ โดยเราจะต่อไปสถานี NAGATACHO เลยครับ ใช้เวลา 17 นาที
พอถึงสถานี NAGATACHO แล้ว ก็เดินลงไปตามทางครับ ทางบันไดเลื่อนนี้ชันน่าดูเลย ซึ่งเราจะขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Hanzomon Line กันต่อ ให้ดูช่องที่เขียนว่า for Shibuya, CHUO-RINKAN ซึ่งจะเป็น Platform 3 ด้านซ้ายมือนั่นเอง
เลือก Platform 3 เที่ยวรถไฟใกล้สุดก็มาถึงเวลา 20.12 น.
รถไฟมาแล้วครับ สีส้มสวยเชียว
จริงๆนั่งแค่ 7 นาทีเองนะครับ แต่ๆๆๆๆ ผมนั่งเลยอีกแว้ววว ในใจเข้าใจว่าสุดสายไงครับ แต่จริงๆมันต่อไปอีก เปลี่ยนจาก Tokyo Metro เป็น rapid งงเลย เลยต้องลงสถานีต่อไปและเดินกลับมาอีกฝั่งเพื่อรอรถไฟกลับไปสถานีชิบูย่า ฮือๆ นั่งเลยบ่อยจัง บัตรพาสเหมาะกับผมที่สุดแล้ว อิอิ
ในที่สุดก็มาถึงสถานีชิบูย่าครับ มองหาทางออกหมายเลข 8 สังเกตง่ายมากคือมีรูปเจ้าหมา
ฮาจิโกะ อยู่ด้วยนะครับ นั่นแหล่ะ เป็นทางออกไปยังจัตุรัสรูปปั้นฮาจิโกะ(Hachiko-mae square)
เดินออกมาด้านนอก จะมีกำแพงของสถานีทำเป็นรูปปั้นนูนต่ำเจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์"ฮาจิโกะ"หลากหลายท่วงท่าเลยครับ
แล้วก็เดินหารูปปั้นเจ้าหมาตัวนี้ แต่....หาไม่เจออีกแล้ว งงๆหลงๆจังเลยผม แต่ไม่เป็นไร ไปดู 5 แยกชิบูย่าที่โด่งดังกันดีกว่าครับ ข้างหน้าโน่น อากาศก็หนาวเย็นเชียว
ผู้คนกำลังรอเดินข้ามแยกครับ ตื่นเต้นมากๆ อิอิ คนอย่างเยอะเลย เอ๊ะ ฝั่งตรงข้ามถ้ามองไม่ผิด สตาร์บัคส์นะครับ วิวดีชะมัดเลย
ป่ะ....เริ่มเดินข้ามกันแล้ว ความรู้สึกนะตอนนั้น ตื่นเต้นจริงๆ มาถึงจนได้นะเรา แถมคนเดียวด้วยสิ อิอิ
แล้วก็เดินข้ามกลับมาครับ พอให้ได้บรรยากาศร่วมก่อน เจอน้องคนนี้กำลังเล่นดนตรีอันนี้อยู่ แสงน้อยภาพเลยไหวนะครับ
วนไปมาวนมาก็เจอรูปปั้นฮาจิโกะจนได้ แอบอยู่นี่เอง ต้องหาจังหวะคนว่างๆครับ เพราะคนจะมาถ่ายกับรูปปั้นนี้เยอะครับ พอว่างก็กดมาเลย
พอได้รูปแล้ว ก็เดินข้าม 5 แยกที่วุ่นวายที่สุดในโลกกันอีกครั้ง มุมนี้ยืนจับภาพให้สูงขึ้นจากพื้นปกติครับ
เดินเข้าซอย F21 นี้ดีกว่า ลายแทงไม่มี มาเอาบรรยากาศเฉยๆ
แล้วก็วกเข้าไปในร้านสตาร์บัคส์ซะหน่อย เดินขึ้นชั้น 2 ครับ ดูว่ามีที่นั่งเหลือมั้ย จะสั่งกินสักแก้วพร้อมชมวิว แต่ปรากฎว่าเต็มครับท่าน!!! ก็เลยได้แค่ถ่ายเก็บวิวผ่านกระจกมาแค่นั้น
ปล.เพิ่งรู้ว่าฝั่งสถานีรถไฟใต้ดินเป็นห้างโตคิว
เดินลงไปดูร้านต่างๆต่อ
อากาศหนาวเย็นดีจัง ชอบๆ สนใจเข้าคาราโอเกะกันมั้ย??
เดินชมบรรยากาศร้านรวงต่างๆจนอิ่ม(แค่อิ่มตาแต่ยังไม่อิ่มท้อง) ก็มายืนรอข้ามแยกกลับไปฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง
ป่ะๆ เดินกันไป แล้วก็ได้เวลากลับไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับสถานีอูเอโนะกันแล้ว ใช้สายกินซ่านะครับ 26 นาทีด้วยกัน
แล้วก็มาโผล่ด้านบนนี้ งงๆเหมือนเดิมเพราะคนละจุดกับที่เคยขึ้นมาจากสถานีอูเอโนะ
เดินสำรวจร้าน 7-11 ซะหน่อย ราคาก็โอเคนะครับ ไม่ได้แพงมาก แต่ที่ถ่ายมาให้ดูเพราะ มันมีภาษาไทยกำกับด้วยนะสิครับ สุดยอดมากเลย
เดินต่อไป ผ่านจุดนี้ จุดที่เคยเดินหลงตอนขาออกจากสถานีรถไฟอูเอโนะ Kei Skyliner เมื่อวานนี้
ทางเดินเข้าตลาดอะเมยะโยโกะ ตลาดขายของอันโด่งดังย่านอูเอโนะนี้ ไว้จะมาเดินดูในวันหลัง
แล้วก็มาหยุดยืนเอาตรงร้านนี้ อยู่ฝั่งตรงข้ามทางเดินไปสถานีอูเอโนะ ดูแล้วน่ากินบวกกับราคาไม่แพงด้วยสิ ลองๆ วิธีการก็ง่าย ดูรูปเมนูที่เราอยากทาน แล้วมันจะมีเลขกำกับไว้ เอาเงินไปหยอดกับตู้อัตโนมัติแล้วเลือกเมนูที่เป็นตัวเลขครับ ถ้าเงินหยอดเกินก็จะทอนออกมาครับ ได้ใบเมนูแล้วก็ยื่นให้ทางเจ๊ผู้หญิงคนนี้ เลือกเส้นอีกครั้ง เส้นดำ เส้นเหลือง หรือเส้นอุด้ง ได้ตามชอบใจ
มีพวกแบบซื้อมเพิ่มด้วยนะครับ เช่นอะไรทอกกรอบสักอย่าง ไข่ออนเซ็น และผักทอดกรอบ ราคาก็ตามป้ายกำกับครับ
แล้วก็ได้ชามนี้มา เป็นราเมงที่มีไข่ออนเซ็นด้วยแฮะ นึกไม่ถึงว่าจะมีและเยอะมากๆ 440 เยนเองนะเนี่ย ฟินมากๆเลยครับ อร่อยฝุดๆรับประกัน แถมซู้ดปากแบบคนญี่ปุ่นเวลาเขาทานราเมงด้วย อิอิ
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินกลับไปที่สถานีอูเอโนะนั่งรถไฟไปสถานีอิริยะ กลับที่พักต่อไป แวะซื้อน้ำเปล่า 1 ขวดก่อนเข้าที่พักด้วยครับ แล้วมาติดตามกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ดูซิว่าพรุ่งนี้จะมีแผนไปเที่ยวไหนต่อ ราตรีสวัสดิ์ครับ
อ่านต่อในวันรุ่งขึ้น
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น