เข้ามาสู่วันที่ 4 ของทริปแล้ว วันนี้แพลนว่าจะไปดูตลาดปลา Tsukiji Fish Market อันโด่งดังของเมืองโตเกียว เนื่องจากเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกทีเดียว มีสินค้าที่เป็นอาหารทะเลซื้อขายประมาณ 2,000 ตันต่อวัน เปิดให้ชมเวลา 5.25 - 6.15 น. สำหรับการชมประมูลปลา หลังจากนั้นให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติเวลา 09.00 น.เป็นต้นไปครับ
เนื่องจากตลาดปลาซึกิจินี้ใช้งานมานาน ไม่สามารถรองรับผู้คนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาดูการประมูลปลาทูน่ากันมากขึ้น จึงมีแผนที่จะย้ายไปอยู่ที่ Toyosu ในเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่จะถึงนี้
หลังเสร็จจากชมตลาดปลาซึกิจิ ผมก็จะไปไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามาคุระ ที่อยู่ทางตอนใต้ของโตเกียวต่อไป แผนการเดินทางวันนี้จึงออกมาดังนี้
DAY4 (12 มกราคม 2559) : ชมตลาดปลา Tsukiji-ทาน Sushi/ข้าวหน้าปลาดิบ - ไปไหว้พระใหญ่วัด ไดบุตสึ คามาคูระ
เช้าวันนี้อากาศไม่เป็นใจ มีฝนพรำๆลงมาแต่เช้าเลย อากาศที่เย็นอยู่แล้วทำให้ยิ่งเย็นยะเยือกเข้าไปอีก ผมไม่ได้เตรียมร่มมาด้วย แต่ไม่เป็นไรใช้ฮู้ดจากเสื้อกันหนาวพอคลุมศีรษะกันฝนได้
จากสถานีรถไฟใต้ดิน Iriya(H18) ให้ขึ้นรถไฟไปลงสถานี Naka-okachimachi(H16) เลยจากสถานีอูเอโนะ(H17) ไป 1 สถานี แล้วเดินอีก 6 นาที(กลัวจังว่ามันต้องเดิน 12 นาที) ไปขึ้นรถไฟที่สถานี Ueno-okachimachi(E09) แล้วขึ้นสาย Oedo line ไปลงสถานี Tsujkijishijo(E18) ซึ่งใกล้ทางเดินไปตลาดปลาซึกิจิมากที่สุดแล้ว ไม่ใช่สถานี Tsukiji เฉยๆนะครับ
จากสถานี Iriya ก็มาถึงสถานี Naka-okachimachi(H16) แล้ว เดินต่อไปตามทางครับ
แล้วก็มาถึงสถานี Ueno-okachimachi(E09) รอรถไฟสักครู่
ลงจากรถไฟที่สถานี Tsujkijishijo(E18) ใหเดินตามป้ายที่แสดงทางออก(Exit) A1 For Tsukiji Market ไม่หลงแน่ๆ
โผล่พื้นดินมาก็จะเจอกับทางม้าลาย ให้เดินตรงไปตามรูปที่ถ่ายด้านบนนะครับ ตามผู้ชายด้านซ้ายมือที่กำลังเดินไป แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปตามทิศเดียวกับรถ 6 ล้อสีขาว
เลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอแบบนี้เดินเข้าไปตรงที่เขากั้นแบริเออร์สีเขียวอ่ะครับ สำหรับทางคนเดิน
เข้ามาก็จะมืดๆเล็กน้อยเพราะเหมือนอยู่ในอุโมงค์ เดินไปเรื่อยๆครับ
จะมีคนมาแจกแผนที่ตลาปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market Map) (ตอนแรกคิดว่าใบปลิวขายอะไรสักอย่างเหมือนในไทยเรา 555) รับไปด้วยก็จะได้ทราบว่าอะไรอยู่ตำแหน่งไหนบ้างครับ อย่างภาพด้านบน
เดินมาสักพักก็จะเห็นร้านซูชิ/ข้าวหน้าปลาดิบ หยุดยืนดู แต่ขอไปชมตลาดปลาที่เป็น Wholesale area ก่อนแล้วค่อยมาแวะทานอาหารก่อนกลับ
เดินเข้าไปจะเป็นร้านขายของมีหลายอย่าง
เช่นร้านนี้ขายมีดตัดเนื้อปลานั่นเอง
ส่วนร้านนี้ขายเนื้อปลาแห้ง ชิมฟรี นำไปใส่ลงในซุปได้อร่อยเลิศ อิอิ
เดินมาถึงตรงส่วนกลางพื้นที่แล้ว มุมนี้ผมมองไปด้านขวามือ ต้องเดินต่อไปข้างในด้านซ้ายมือครับ
เฉอะแฉะไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับมีน้ำเน่าเหมือนตลาดสดในไทยเรา รถขนสินค้าวิ่งขวักไขว่ เดินมาก็ระวังดีๆครับ แต่เขาก็ไม่ได้วิ่งเร็วอะไรหรอก เรื่อง safety ญี่ปุ่นสุดยอดอยู่แล้ว แต่เราก็ควรระวังด้วยยิ่งดี
ชมสินค้าไปเรื่อยๆนะครับ ถ่ายมาเยอะมาก ราคาก็น่าสนใจทีเดียว คืออะไรบ้างก็ไม่รู้ 555
โอ้ววว....ด้านซ็ายมือปลาไหลย่างหรือเปล่าครับ??? ราคาโดนมากๆ แต่ถ้าซื้อจะไปอุ่นไปซื้อข้าวเพิ่มตรงไหนอีก ลำบากแท้
พ่อค้าคนนี้กำลังผ่าปลาสดๆครับ
ปลาอะไรตัวยาวๆเรียวๆ เขาเอาไปทำเมนูอะไรน้าาา
คล้ายๆหอยเชลล์ ตัวใหญ่มากๆ อันนี้น่าจะเผามาแล้วหรือเปล่า
ปลาอะไรก็ไม่รู้ ดูเขาใช้มีดแล้วก็เสียวไปครับ
อันนี้คล้ายๆมันสมอง หรือเป็นไส้อะไรสักอย่าง
หอย 2 ชนิด ซ้ายมือหอยกาบ ขวามือหอยคราง หรือเปล่า??? เดาไปเรื่อย ความรู้เรื่องพวกนี้เป็นศูนย์กินอย่างเดียว
ท่านพี่ท่านนี้กำลังเลาะตรงครีบของปลา ตัวใหญ่ดีแท้
อ่า....ปลาไหลย่างซีอิ๊วแน่ๆ อยากกินมากๆเลยครับ กลับจากดูที่นี่ต้องไปหาทานให้จงได้ สัญญากับตัวเอง
กลับมาชมบรรยากาศร้านโดยรอบบ้าง เวลานี้ร้านรวงใกล้จะปิดเต็มทีแล้ว ล้างพื้นล้างอุแกรณ์กันแล้วครับ จริงๆก็ล้างตั้งแต่ผมาหล่ะครับ
ถ้าเดินตรงไปอีกก็จะเจอกับแม่น้ำซ^มิดะ(Sumida river) แล้วครับ ที่นี่รถโฟล์คลิฟท์ใช้แก๊สนะครับ ประหยัดดี
เลอะเทอะตามประสาตลาดสดครับ เดี๋ยวก็คงล้างพื้นทำความสะอาด
เดินวนมาเจอพ่อค้าคนนี้กำลังหั่นปลาทูน่าพอดี ตัวใหญ่ดีครับ
ซูมไปดูเนื้อปลาใกล้ๆ ปลาทูน่าทำไมมันเหมือนเนื้อหมูหรือเนื้อวัวจังเลยครับ แปลกเนอะ
อีกช็อตหนึ่ง กำลังแล่แยกออกเป็นชิ้นๆอยู่พอดี ภาพสั่นไปหน่อยครับ
มาดูคลิปวิดีโอสั้นๆกันบ้างครับ
ลังนี้หอยอะไรไม่รู้ น่าจะหวานเมื่อทำกับข้าวนะครับ
อ่าา....มาเจอกับไข่หอยเม่นแล้ว อยากกินๆ ขายเป็นแพ็คกล่องใสๆ ซ์้อไปโซ้ยกับข้าวอุ่นๆ เหยาะซอสนิด ฟินไปเลย 555
มาถึงร้านนี้ เขาใช้ลวดหรือเหล็กแหลมแหย่เข้าไปที่ปาก หรือโพรงอะไรสักอย่างของปลา ดูน่ากลัวมากๆครับ อึ๋ยยยย
ปูขนครับ เอาไปทำเมนูอะไรดีเอ่ย??
บรรยากาศร้านต่างๆ
นี่เลยครับ ปลาทูน่าแช่แข็ง แช่ในอุณหภูมิเย็นมากๆ แข็งมากๆ แล้วเวลาตัดหรือหั่นทำอย่างไร??
ก็นี่เลยครับ ใช้เลื่อยอัตโนมัติ คมกริ๊บ แต่ระวังมือดด้วยนะครับ
ส่วนนี่เป็นหัวปลาและเศษปลา เอาไปต้มเป็นน้ำซุปหรือเปล่านะครับ
กลับมาเจอหอยสดๆอีกแล้ว คงหวานกรุบกรอบ
ซาชิมิทูน่า สีสวยมากๆ ขายเป็นแพ็ค 2,000 เยน 600 บาทเอง ไม่แพงๆ
แล้วก็ได้เวลาออกมาแล้ว ฝนยังคงตกพรำๆ อากาศหนาวมากๆ คลุมฮู้ดตลอดเลย
ได้เวลาหาร้านข้าวหน้าปลาดิบ หรือซูชิทานแล้วครับ ซอยนี้ร้านต่างๆคนต่อคิวเยอะมากๆๆ
2 ร้านนี้น่าจะเป็นร้านดัง คนเลยมายืนคอยเข้าคิวรอทานไม่ลดละ ส่วนผมขอบายครับ ไปหาร้านอื่นก่อน
มาอีกซอย เออ...ร้านนี้ก็คนเยอะ สงสัยจะไม่ได้ทานแล้วม้างงงง
แต่ครับ....ร้านนี้คนยืนรอคิวไม่เยอะ ผมยืนถ่ายเรื่อยๆ สุดท้ายยืนรอคิวซะเลย เอาร้านนี้แหล่ะ คนรอคิวก่อนผม 4 คนเองมั้ง เลยยืนต่อ มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาคอยจัดคิวและสอบถามเมนูที่เราจะเลือกล่วงหน้า พร้อมกับเก็บเงินเลยนะครับ ผมเลือกไปเลือกมา ซูชิราคาเกือบๆเท่าข้าวหน้าปลาดิบเลย แต่มันชิ้นเล็ก สุดท้ายเลือกข้าวหน้าปลาดิบรวมครับ 2,200 เยน จัดไป จริงๆก็เสียดายนะ ถ้าเป็นที่อื่นผมไม่จ่ายราคาขนาดนี้หรอก แต่นี่หยวนให้กับตลาดปลาซึกิจิครับ
ไม่นานมากก็ถึงคิวผมแล้ว เข้าไปด้านในพออุ่นขึ้นมา นั่งทานหน้าเคาน์เตอร์แบบร้านญี่ปุ่นแท้ มาเสริฟชาร้อนและน้ำซุปก่อน เหลือเมนูหลักที่จะตามมาภายหลัง
นี่ครับ รายการเมนูอาหารที่สามารถเลือกก่อนเข้ามาข้างใน ของผมเมนูที่ 3 จากด้านบน Uni Sakura Don มาเป็นชุดพร้อมซุปมิโสะ ราคา 2,200 เยน กระเป๋าฟีบเลย
มาเสริฟแล้วครับ สมกับราคานะครับ ไม่เสียดายเงินเลยเมื่อเห็นของจริงและได้ทดลองทานแล้ว มีไข่หอยเม่นด้วยนี่สิ ฟินมากๆ
สภาพสุดท้ายหลังผ่านไป 10-15 นาที 555 ไม่เหลือ
ทานเสร็จแล้วก็เดินอ้อมมาอีกทาง แต่ก็มาบรรจบทางลงไปสถานี Tsukijishijo เหมือนกับขามา
แล้วมาตามกันต่อ โดยตอนย่อยหน้าจะพาไปไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามาคุระ ห่างออกไปทางตอนใต้ของโตเกียว ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมงเลยครับ
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น