วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

Incredible Sikkim (สิกขิม) ตอน 5 เริ่มต้นปีใหม่ 2560 ด้วยการตื่นเช้าฝ่าเส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ไปยังหุบเขายุมถัง(Yumthang Valley) 'Valley of Flowers'


หลังจากห่างหายไป 1 ปีกว่าๆ จากตอน 4.5 ที่ค้างไว้ ก็กลับมาเขียนบันทึกเดินทางกันต่อในตอน 5 555 สาเหตุที่ตอนนั้นขี้เกียจเขียนต่อมากๆคือ รูปในวันนี้(วันที่ 5 ที่ไปยุมถังและกลับกังต๊อก) เยอะมากๆ 800 กว่ารูป กดชัตเตอร์กันสนั่นเลย พอเอารูปมาดูแล้ว เป็นลมดีกว่า ขี้เกียจมาเลือกรูปลงเอามากๆ เลยทำให้ลากยาวไม่ได้เขียนบันทึกสักที แล้วพอเวลาผ่านไปก็ดันมีทริปอื่นเข้ามาอีก คือ 15 วัน อินเจแปน ช่วงส่งท้ายปีเก่า 2017 ต้อนรับปีใหม่ 2018 ก็ต้องลงบันทึกเดินทางนี้ก่อน ครั้นพอผ่านมาช่วงมีนาคม 2018 ก็ดันมีทริปไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นอีก เลยทำให้ไม่มีเวลามาเขียนต่อเลยจริงๆ ตอนนี้ว่างแล้วเลยกลับมาเขียนต่อให้เสร็จครับ

จากตอนที่แล้ว วันนี้จะต้องไปยุมถังซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติ(Yumthang Valley Natural Reserve) หรือหุบเขายุมถัง ของสิกขิม อินเดีย หรือรู้จักกันในนาม หุบเขาแห่งดอกไม้(Valley of Flowers) มีกุหลาบพันปีอยู่มากถึง 24 สายพันธุ์ด้วยกัน เป็นหุบเขาคล้ายๆ Nubra Valley ในลาดักห์ อยู่ทางตอนเหนือของลาชุงไปอีก เกือบจะติดชายแดนจีนแล้ว และเหนือไปอีกจากยุมถังจะเป็นที่ราบกว้างๆ เรียกว่า Zero Point แต่น่าเสียดายวันที่เราไปและช่วงเวลานั้นมันไปไม่ได้ครับ หิมะตกจนทางขาด ก็เลยอดไปตามๆกัน เพราะแพลนว่าจะไปด้วย คงเหลือเพียงยุมถังหุบเขาท่ามกลางหิมะละกัน โดยตอนย่อยนี้จะเป็นการนั่งรถจากโรงแรมที่พักในลาชุงแล้วขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปถึงยุมถัง เนื่องจากระหว่างทางนั้นหฤโหดมากๆ น้องๆเส้นทางไปหุบเขานูบร้าในลาดักห์ เลยเป็นตอนที่ต้องละเอียดนิดนึงเพราะเส้นทางก็สวยงาม และเจออุปสรรคระหว่างทางด้วย จึงนำมาก่อนที่จะไปถึงยุมถังจริงๆ การเดินทางเส้นนี้และครั้งนี้ทำให้รู้ว่า คนขับรถบนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะนั้นสำคัญมากๆ เราโชคดีมากๆที่ได้คนขับรถพิเศษในครั้งนี้ ดูเอาละกันครับ คนขับรถที่ขับมารับเราจากสนามบินบักโดกราพอมาเส้นนี้ยังไม่ขับเองเลย ต้องมีคนขับอีกคนมาขับในเส้นทางนี้โดยเฉพาะ ร่ายยาวแล้ว มาติดตามกันครับ


ประมาณ 6 โมงเช้า พวกเราก็ต้องตื่นกันแล้วครับ เพราะต้องเดินทางกันแต่เช้าตรู่เลย วิวนี้คือวิวที่มองลงไปจากระเบียงห้องชั้น 2 ครับ ทางที่จะไปคือไปทางขวามือวนเขาต่อไป


เนื่องจากรออาหารเช้าไม่ได้เพราะออกเช้า เลยขอให้ทางโรงแรมเขาทำขนมปังปิ้งและกาแฟแค่นั้นพอ


ด้านหน้าโรงแรมที่พักครับ Royal Lachung คนขับพร้อม เราพร้อมก็ไปกันเล้ยยยย


รถค่อยๆไต่เขาไปเรื่อยๆ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง กม.6 จากลาชุง ก็มาเจอเจ้าวัวดำเขาสวยระหว่างทาง กำลังนอนอาบแดดอยู่


ไม่ถึง 10 นาทีจากวัวดำก็ขอให้คนขับจอดรถก่อน เพื่อลงไปเก็บภาพสวยๆระหว่างทาง เจอธงมนต์เป็นไม่ได้


ซูมเขาลูกหน้านี้นี้ซิ ขุนเขายิ่งใหญ่ยิ่งนัก


เดินมาเรื่อยๆครับ รถเองก็จะตามมาเก็บเราเพื่อไม่ให้ย้อนไปมา


ชอบมุมนี้ หมอกปกคลุมยอดจนไม่เห็นปลายยอดเขาเลย นึกถึงเขาแมทเธอร์ฮอร์น สวิสขึ้นมาทันที มีเมฆมาคลุมตลอด


ส่วนเขานี้อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันครับ


ธงพวกนี้ที่ปักไว้มีความหมายนะครับ แต่ขอโทษทีผมจำไม่ได้แล้ว


เดินมาถึงซุ้ม Shingba Rhododendron Sanctuary สถานที่ที่เป็นดงกุหลาบพันปีนั่นเอง แต่ช่วงที่มายังไม่ถึงฤดูที่กุหลาบพันปีบาน เลยไม่ได้เห็น แต่ไม่เป็นไร ผมไปเห็นมาแล้วที่พูนฮิลล์ เนปาล เมื่อปี 2008 เดือนเมษายนนั่นเอง


แล้วก็นั่งรถเคลื่อนตัวต่อไป เจอหินแปลกๆ ระหว่างทาง มีสีแดงๆ ก้อนใหญ่ๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร หรือปฏิกิริยาเคมีอันใด


ขับรถขึ้นเขาวนไปครับ ตามคันโน้นไปเลย ช่วงนี้รถไม่ได้เยอะเลย วิวภูเขาหิมะตรงด้านหน้าตระหง่านดีแท้ ชอบๆ


ส่วนคันนี้กำลังขับตามก้นมา


วิวคล้ายๆ เนปาล ลาดักห์ มองไปทางไหนก็เจอแต่ภูเขาหิมะ สวยงามมากๆ


กลับมาสู่เส้นทางที่เป็นที่ราบบ้างแล้ว


แต่สุดท้ายก็ไปต่อไม่ได้ครับ ต้องจอดรอ มันคืออะไรกัน ทำไมต้องจอด ได้ความว่า รถข้างหน้าไปไม่ได้ถนนลื่นเพราะหิมะ เลยต้องรอให้รถคันหน้าผ่านไปให้ได้ก่อน เหมือนบรรยากาศตอนไปหุบเขานูบร้ายังไงยังงั้นเลยครับ แต่ออกมายืนรอข้างนอกนี่หนาวมากกกก


นี่ครับ ตอนไปหุบเขานูบร้า ลาดักห์ ต้องจอดรอเพราะรถข้างหน้าติดหล่ม ไปไม่ได้ คนอินเดียนี่เขาออกมาช่วยกันนะครับ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะถ้าช้า เขาก็ช้าไปด้วยเพราะมันไปไม่ได้นั่นเอง 555


ในเมื่อยังไปไม่ได้ งั้นถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆเลยละกัน สังเกตจะมีเห็นต้นไม้ที่คล้ายๆจะโดนโค่นตรงตีนเขา เหมือนหินใหญ่จากบนเขาถล่มลงมาเลย


วิวมุมนี้ก็สวยดีครับ


เดินสำรวจจนหนาวไปทั้งตัว รีบเข้าภายในรถดีกว่า


ซูมไปดูต้นไม้ที่พังบริเวณตีนเขา และก็ได้เวลาออกเดินทางต่อครับ


ทางเริ่มห่วยแล้ว ทั้งหิมะที่กองบนพื้นถนนและพื้นตะปุ่มตะปั่มจากหิน ทำให้ต้องขับช้ามากๆ เว้นระยะห่างจากคันหน้าเยอะๆ


แล้วก็มาสู่จุดที่พื้นถนนเต็มไปด้วยหิมะที่ตกลงมาจากเมื่อคืน


ก่อนจะถึงน้ำพุร้อน(Hot Spring) ซึ่งอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แฮะ เพราะไม่ได้แวะ


อีกจุดที่เต็มไปด้วยหินสีแดง แปลกตาดีจริงๆ


ประมาณ 8.06 น.ก็ต้องมาหยุดรถอีกครั้งที่จุดนี้ อะไรอีกหล่ะทีนี้ เห็นด้านไกลๆมั้ยครับ? มันเป็นทางที่ต้องเลี้ยวขึ้นเนินไปทางขวามือ แต่รถที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ(ที่จอดหันหน้าไปทางขวา) ผ่านขึ้นไปไม่ได้สักที เห็นเลยนะครับว่า พอเร่งเครื่องขึ้นไปก็ลื่นไถลกลับลงมาทุกครั้ง เพราะพื้นมันลื่นจากหิมะมากๆ ดูแล้วน่ากลัวมากๆเลย คนขับคันอื่นๆเลยโบกมือและเดินไปให้รถคันดังกล่าวถอยมาตั้งหลักก่อน เสียเวลาคันอื่นเขาที่ต้องมารอ พอคันนั้นถอยมาแอบๆด้านซ้าย รถคันผมก็รีบแซงขึ้นไปก่อนเลยครับ ผมนี่เสียวมากๆ กลัวจะเป็นแบบคันนั้นที่ไถลลงมา แต่.....


ผลคือ.....ขับผ่านมาได้อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย บอกเลย คนขับรถคนนี้สุดยอดมากๆ ฝีมือเยี่ยมเลย อย่างที่เกริ่นนำว่า โชคดีครับที่ได้คนขับเก่งๆแบบนี้มาขับให้เรา ถ้าได้แบบคันก่อนหน้านี้คงมีหวังตกเขาไม่ก็หัวใจวายไปข้างนึง อ้อ...พอขับขึ้นเนินมาได้ เจอพวกคนที่เดินมาก่อน โบกมือจะขอขึ้นรถด้วย 555 แต่ไม่จอดครับ รอรถเอ็งที่อยู่ด้านล่างไปละกัน


2 ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปหมด


ณ จุดนี้ หลักกม.บอกเราว่า เหลืออีก 2 กม.ก็จะถึงยุมถังแล้ว เส้นทางข้างหน้าก็ไม่ชันแล้ว สักพักก็ถึง แล้วไว้มาชมวิวสวยๆ แบบกดชัตเตอร์มารัวๆ ที่ยุมถังในตอนต่อไปนะครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น