วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Incredible Sikkim (สิกขิม) ตอน 3.5 ชมวิวเขื่อนพลังน้ำ ผ่านสามแยกชุงถัง ก่อนจะเข้าหมู่บ้านลาเชน เก็บภาพดาวหมุนครั้งแรกในชีวิต


มาต่อกันในตอนย่อยนี้ของวันที่ 3 กันครับ เราจะเดินทางต่อจากตอนย่อยที่แล้ว ผ่านจุดหินสไลด์ ข้ามแม่น้ำลำธารไปมา แวะชมเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า ก่อนจะผ่านจุดตรวจ Permit ที่ด่านชุงถังและเลี้ยวซ้ายไปหมู่บ้านลาเชนต่อไป


14.46 น.ก็ข้ามสะพานเหล็กแห่งนี้


เจอทางที่มีหินถล่มช่วงหนักสุดของเส้นทางแล้วครับ เยอะมากจริงๆ หน้าฝนคงผ่านไปลำบากแน่ๆ


ตรงจุดนี้ครับที่กำลังขับผ่านส่วนที่แคบของถนนและมีน้ำไฟเซาะถนนตลอด ด้านล่างก็เหวสูงชัน อันตรายมาก นั่งไปลุ้นไปเลยทีเดียว


ผ่านมาตรงจุดที่มีสะพานเหล็กแบลี่ย์เก่าขาด หรือเขาอาจจะวางแบบนั้นก็ได้ แต่ดูแล้วน่ากลัว


ลำธารมีน้ำใสไหลแรง เขาว่ามีปลาเทราท์ด้วย แต่ห้ามชาวบ้านจับ


ผ่านสะพานขึงของเก่าที่เลิกใช้งานแล้ว


กำลังจะข้ามผ่านสะพานปูนที่แข็งแรงจุดหนึ่งครับ เนื่องจากระยะความกว้างของลำธารมาก เลยต้องใช้สะพานปูนแทน


แล้วก็จอดแวะพักรถบ้าง พักดื่มชานมร้อนก่อน แก้วละ 20 รูปี


แล้วก็ไปต่อ เจออุโมงค์ที่ทางการกำลังสร้างอยู่ คงได้อีก 2-3 ปีข้างหน้า ร่นระยะทางได้


โค้งข้างหน้านี้สวยครับ แต่ภาพเบลอไปหน่อย รถกำลังวิ่งอยู่

เอ๊ะ...มองเห็นอะไรอยู่ด้านล่าง เหมือนจะมีงานก่อสร้างอะไรสักอย่าง


นั่นไง...รถจอดแวะพักพร้อมกับให้ถ่ายรูป เป็นเขื่อนพลังน้ำที่กำลังก่อสร้าง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านั่นเอง โดยจะดักน้ำจากแม่น้ำลาชุง และแม่น้ำลาเลนที่ไหลมารวมกัน


วิวขุนเขาที่มีไอหมอกก็สวยเช่นกัน


อีกวิวหนึ่งของเขื่อนพลังน้ำครับ สีน้ำเป็นสีเทอควอยซ์เลยทีเดียว ชอบๆ


นี่คือ Gurudwara Nanak Lama Chungthang วัดที่ถึงก่อนถึงด่านตรวจ Permit ที่ 3 แยกชุงถัง


ต้องข้ามสะพานนี้ก่อน คือสะพานข้ามแม่น้ำลาเชนนั่นเอง แล้วก็ต้องจอดเพื่อตรวจ Permit ที่ด่านตรวจอีกครั้ง ณ 3 แยกชุงถัง แต่ถ่ายรูปมาไม่ได้นะครับ เข้มเหลือเกิน เอาจุดใน Google map ไปละกัน


หลังจากด่านตรวจ คราวนี้ก็ขับไปตามถนนลาเชน ซึ่งขนานไปตามแม่น้ำลาเชนที่เห็นทางซ้ายมือ


ถนนช่วงนี้รถน้อยมากๆ มีคันเราคันเดียวเลย ใกล้มืดแล้วด้วยสิ


ผ่านจุดที่โม่หินให้มีขนาดย่อยๆหรือเปล่า


เรียกว่าดงหินใหญ่เลยครับ เห็นแล้วก็นึกถึงอดีตที่เคยทำงานนะครับ


น้ำไหลแรงเชียว ท่าจะเย็นน่าดู  ล่องแก่งได้สบายเลย


ดูเวลาในรถแล้ว บ่าย 4.12 แล้วนะจ๊ะ ช่วงนี้อากาศเย็นมากๆ


ชมวิวไปเรื่อยๆครับ ผมถ่ายมาแบบไม่อั้น


เจอวัว 1 ตัว ระหว่างทาง


แหงนไปมองวิวภูเขาด้านบน โห...หิมะคลุมอยู่


ผ่านช่วงที่น้ำกัดเซาะ


มุมมองจากด้านบน โดยเป็นวิวที่เราผ่านมานั่นเอง


อ้าว...แล้วก็มาเจอรถใหญ่ ต้องถอยหลีกทางกันให้วุ่นเลย ดีที่ไม่มีรถมาด้านหลัง


น้ำใสน่าลงไปเล่น


วิวหมู่บ้าน


คงหนาวยะเยือกนะ ไม่น่าเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในป่าอันกว้างใหญ่


และก็มาถึงช่วงที่ถนนราดยางแล้ว นุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย


เห็นไอหมอกและหิมัที่ปกคลุมด้านบนยอดเขาแล้ว ก็ให้นึกว่า สงสัยคืนนี้ตายแน่ๆ คงหนาวน่าดู


กำลังจะข้ามผ่านสะพาน กว้างทีเดียวนะครับ


ขุนเขา


หนาวๆ


17.30 น.ก็มาถึง Hotel Snow Retreat แล้วจ้า มืดเลยนะเนี่ย แต่กว่าจะเจอก็หานานนิดหน่อย เพราะจุดใน Google map มันไม่ถูก แต่ผมแจ้งเปลี่ยนแล้วครับ น่าจะใกล้เคียงกว่าเดิม


นี่ครับ ห้องพักเรา B1 อยู่ชั้น 2


สภาพภายในห้อง กว้างมากๆ เตียงก็ใหญ่ สะอาดดีครับ แต่ตอนนี้ไฟยังไม่มานะครับ ใช้ไฟฉุกเฉินอยู่ ไฟมาตอนไหนตอบไม่ได้


ภายในห้องน้ำ ภาพเบลอไปหน่อย


มุมกระจกและ TV


อาหารกำลังทำอยู่ เลยเอากล้องไปตั้งเตรียมถ่ายดาวก่อนที่ระเบียงห้อง หนาวมากๆ รอเขาเนียกไปทานเมื่อทำเสร็จ


แล้วก็ลงมาทาน ตามที่สั่งไว้ เยอะมาก ทานไม่ไหมด


ทานอาหารมื้อเย็นแบบซึ้งๆ ท่ามกลางแสงเทียน เพราะไม่มีไฟใช้ 555


ทานเสร็จก็ขุ้นมาที่ห้อง ตอนนี้ไปมาแล้ว และขอ Heater มาด้วย 1 อัน ราคาคืนละ 300 รูปี  แต่ขอบอกว่า ตัวเล็กมากๆ ยังหนาวเหมือนเดิม


หลังจากตั้งกล้อง และ set โน่นนี้ จนได้ภาพดาวหมุน Startrail แบบนี้ ครั้งแรกเลยนะครับ ชอบๆ


ฝากภาพดาวเคลื่อนไหวนี้ไว้ครับ ก่อนจะนอนแบบหนาวเหน็บในคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้มาติดตามกันต่อ เราจะไป Chopta กัน


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น