วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

Incredible Sikkim (สิกขิม) ตอน 6 จากกังต๊อก(Gangtok) นั่งรถยาวๆลงใต้ไปดาร์จีลิ่ง(Darjeeling) แวะชมวิวรายทาง จนถึงจุดชมวิวที่ไม่มีในแผนที่ คนพื้นที่เท่านั้นถึงจะรู้!


วันนี้ต้องตื่นเช้ากันอีกวัน เพราะต้องออกเดินทางไกลไปดาจีลิ่ง(Darjeeling) ระยะทางคร่าวๆจากโรงแรมพอมรา กังต๊อกไปโรงแรม Magnolia Darjeeling ก็ประมาณ 125 กม. ใช้เวลาโดยประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง 555 ไกลอยู่ครับ เป็นการเดินทางออกจากสิกขิม กลับมาที่เบงกอลตะวันตก(West Bengal) ตรงชายแดนที่รังโป(Rangpo Check Post) ก็ต้องทำเรื่องออกจากสิกขิมเหนือตอนก่อนออก แล้วก็ข้ามแม่น้ำรังโป(Rangpo river) แม่น้ำที่แบ่งรัฐสิกขิมกับรัฐเบงกอลตะวันตกแยกออกจากกันตามธรรมชาติ เนื่องจากรูปเยอะ มีแวะรายทางพอสมควร เลยแบ่งวันนี้เป็น 3 ตอนย่อยด้วยกัน ตอนย่อยแรกจะเป็นการเดินทางจากโรงแรมพอมรา กังต๊อก ค่อยๆออกจากสิกขิมแล้วไปสิ้นสุดที่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นรูปปั้น Guru Padmasambhava ณ Samdruptse บนเนินเขาทางขวามือ และ รูปปั้นพระศิวะ ณ Solophok Chardham บนเนินเขาทางซ้ายมือ ที่หันหน้าชนกัน ณ เมืองนัมชิ(Namchi) เมืองหลวงของสิกขิมใต้ ก่อนที่จะถึงจุดแวะพักและชมวิว Lamahatta Mountain View อยู่เล็กน้อย



เส้นทางการเดินทางจากโรงแรมพอมรา กังต๊อกไปยังจุดชมวิวก่อนถึง Lamahatta Mountain View


นาฬิกาจากมือถือดังเตือนตอนเวลา 6.00 น.พอดี ได้เวลาลุกขึ้นไปชมวิวคันเชงจุงก้าอีกครั้ง ณ เวลานี้แสงยังไม่ดีเท่าไหร่ เลยกลับไปนอนอีกครั้ง 555


แล้วตื่นมาดูอีกทีตอน 6.45 น. โอเคแดดมาแล้ว แต่ไม่ได้เห็นแสงสีทองๆกระทบคันเจนจุงก้าเหมือนกับเช้าวันที่ 2 ที่มาในกังต็อก แต่ไม่เป็นไร


ซูมไปดูใกล้ๆครับ ยอดเขาที่เห็นคือ ยอดเขาคันเชงจุงก้า ยอดเขาในเทือกเขาหิมาลัยที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก เอเวอร์เรสต์(เนปาล) และ เคทู K2(พรมแดนจีน-ปากีสถาน)


วันนี้คนขับดันมารับสาย 8 โมงเพิ่งมาถึงปั๊มน้ำมันจอดเติมพลังให้เต็ม เพราะต้องเดินทางไกลลงใต้จ้า


ระหว่าทางก็จะเจอกับรถท่องเที่ยวเป็นเพื่อนร่วมทางกันไป


8.42 น.รถก็มาถึงใกล้ด่านรังโปแล้ว


คนรถเตรียมเอกสารให้เราทั้ง 2 เพื่อบอกว่าเรากำลังจะออกจากรัฐสิกขิมแล้วนะ ช็อตนี้แอบถ่ายในรถเพราะกลัวจะโดนห้ามถ่ายรูปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเอา


แล้วก็ข้ามสะพานรังโปที่ข้ามแม่น้ำรังโป เขตแบ่งรัฐสิกขิมและรัฐเบงกอลตะวันตกตามธรรมชาติ


กลับมาสู่เบงกอลตะวันตกแล้ว ฝุ่นเพียบเลย


ผ่านสามแยกอะไรก็ไม่รู้ แต่เรายังคงมุ่งหน้าตรงไปเลียบแม่น้ำรังโปไปเรื่อยๆ


นี่ครับ ทางลงเขาลาดชันพอควร ขับช้าๆ มองเห็นวิวแม่น้ำรังโปข้างหน้าที่ ณ ตอนนี้น้ำแห้งมากๆ


มีลิงจ๋อข้างทางด้วยแฮะ


แล้วก็ข้ามอีกสะพานนึง คราวนี้ข้ามแม่น้ำที่ชื่อว่า Andheri Khola River


ช่วงนี้ต้นไม้ใหญ่คล้ายๆต้นยางในไทยเราเลยครับ แต่คงไม่ใช่


เจอคุณป้าคนนี้แบกใบไม้อะไรเยอะเชียว

แล้วรถก็มาจอดแวะตรงนี้ครับ มีร้านอยู่เยอะเชียว ส่วนใหญ่จะแวะจอดเติมพลังงานกัน จากแผนที่จะตั้งอยู่ริมแม่น้ำทีสตา(Teesta River)


เข้าร้านนี้ดีกว่า เห็นซาโมซ่าน่ากิน อิอิ


ส่วนเพื่อนผมก็ไปซื้อส้มร้านตรงข้ามครับ


อ่า...มาแว้ววว อยากกินซาโมซ่า คล้ายๆกระหรี่พัพ มีน้ำซอสด้วย และกาแฟร้อน 1 แก้ว


เห็นขวดน้ำอัดลมแบบนี้แล้วนึกถึงตอนเด็กๆครับ


แล้วก็ออกเดินทางอีกครั้ง ตรงนี้จะเป็น 3 แยก


ขับไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้เวลาข้ามสะพานทีสตา(Teesta Bridge)


ขับวนขึ้นเขาอีกครั้ง เห็นน้ำในแม่น้ำทีสตาสีเทอร์ค้อยสวยจัง


แวะตรงนี้ก่อนครับ


จุดชมวิว Lovers Meet View Point


เป็นจุดชมวิวที่แม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกัน นั่นคือแม่น้ำ Rangeet ทางด้านซ้าย กับแม่น้ำทีสตา(Teesta River) ทางขวาในแนวยาว หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า The confluence of Teesta and Rangee


ซูมไปดูกันครับ สามเหลี่ยมฝั่งซ็ายเป็นรัฐสิกขิมนะครับ ทางขวาและทางล่างเป็นรัฐเบงกอลตะวันตก


ซูมใกล้ๆอีกครั้งจะเห็นมีคนมาตั้งแค้มป์กันด้วย มีหาดทรายเล็กๆ


แล้วเราก็ไปต่อครับ ไม่นานก็ถึงไร่ชา Peshok Tea estate


แวะไร่ชาอีกครั้ง ชมวิวชาสวยๆ มาหาหนอนชาเขียวกัน อิอิ


กว้างใหญ่ทีเดียว บนเนินโน้นก็ปลูกหมด มีถนนคั่นกลาง


ใกล้ๆกันมีหมาท้องถิ่นกำลังหลับสบายเลย


ขับไปเรื่อยๆ ขึ้นเนินไปช้าๆ คนขับเราก็มาหยุดที่ตรงนี้ บอกเราให้ลงมาชมวิวอีกครั้ง พิกัดประมาณนี้นะครับ ไม่ได้มาร์คเป๊ะๆ ยังงงว่าวิวอะไรนะ ไม่เห็นมีใครอะไรเลย


แล้วคนขับก็ชี้ให้เราดูไปทางเขาไกลๆโน้น ทั้งซ้ายมือและขวามือ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ จนต้องซูมไป โอ้วววว......สุดยอดมากครับ ทางเนินเขาทางขวามือคือ รูปปั้น Guru Padmasambhava ณ Samdruptse และบนเนินเขาทางซ้ายมือคือ รูปปั้นพระศิวะ ณ Solophok Chardham ที่หันหน้าชนกัน ณ เมืองนัมชิ(Namchi) เมืองหลวงของสิกขิมใต้ คือต้องคนที่รู้สถานที่จริงๆถึงจะให้เราจอดชมวิว เพราะมันไม่มีป้ายบอกเป็นทางการนะครับ จอดรถก็จอดแบบแอบๆ นับถือๆ

แล้วก็ต้องขอจบตอนย่อย แล้วมาติดตามในตอนหน้า จะเป็นจุดแวะพักและชมวิว Lamahatta Mountain View ซึ่งอยู่ถัดไปไม่เกิน 10 นาที และก็จะแวะตามรายทางจนถึงโรงแรมที่พักในดาร์จีลิ่งกัน


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น