วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

ญี่ปุ่น เมื่อยามซากุระผลิบาน ตอน 7.1 ผิดแพลนจากที่วางไว้ เลยต้องจัดแผนเที่ยวใหม่อย่างเร่งด่วน ไปลงตัวที่เมืองเล็กๆซาวาระ(Sawara) เมืองเก่าสมัยเอโดะ จังหวัดชิบะ


วันนี้เป็นวันที่ 7 ของทริป ตามแพลนวันนี้จะต้องไปเจดีย์ชูเรอิโตะ ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย พร้อมกับไปทะเลสาบคาวากูจิโกะ เหมือนกับที่ผมเคยไปตอนทริป 15 วัน อินเจแปน ตอน 13.1 ขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นเพื่อไปชมวิวเจดีย์ชูเรอิโตะ(CHUREITO PAGODA) ขนาบข้างฟูจิซังอันโด่งดัง เดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามคำเรียกร้องที่พี่ที่ไปด้วยเขาอยากไป
ผมตั้งเวลาตื่นนอนเช้ามืดนี้เวลาตี 5 เพราะต้องเดินทางไกลเลยตั้องตื่นเช้ามากๆ พอได้เวลาปลุกก็จัดแจงลงไปอาบน้ำที่ชั้นอาบน้ำ แล้วกลับมาที่เตียงแคปซูลตามเดิม พอมาถึงเห็นมีเมสเสจจากเมสเซ็นเจอร์ส่งมาตอนเวลา 5.33 น. ข้อความว่า "หัวเข่าขวาที่เคยผ่ามีอาการเจ็บ ลองเดินดูแล้วลงน้ำหนักไม่ไหว กลัวไปแล้วเจ็บกว่าเดิม" ผมนึกในใจ ทำไมไม่ส่งมาก่อนไปอาบน้ำนะ จะได้ไม่รีบตื่นนอน จะได้นอนต่อเลย ก็เป็นอันว่า วันนี้ก็ทริปล่มเช่นเคยครับพี่น้อง

เนื่องจากทริปล่มแล้ว ผมเลยไม่รีบออกไปเช้าแล้วหล่ะ ก็เลยนอนหลับต่อครับ จริงๆก็ง่วงมากๆนะครับ นอนไปหลายชั่วโมงจนตื่นมาอีกที 10 โมงกว่า โห....สายมากๆ งั้นรีบลงไปข้างนอกดีกว่า คิดอะไรไม่ออกว่าจะไปไหนดี นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานีอุเอโนะก่อน แล้วค่อยๆคิด หาไปหามา เอาสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนและต้องอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเพราะสายแล้ว ไปๆมาๆ ไปได้ที่นี่ครับ Sawara, known as better than Edo ซาวาระเป็นเมืองเล็กๆเมืองนึงในจังหวัดชิบะ อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวคือไปทางสนามบินนาริตะนั่นเอง เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมสมัยเอโดะ มีศาลเจ้าที่สวยงามสร้างมากว่า 2000 ปีมาแล้ว งั้นไม่ต้องคิดมากจัดแผนไปที่นี่เลย โดยไปลงสถานี Sawara ในจังหวัดชิบะกัน 


เนื่องจากขณะนี้เวลา 11 โมงนิดๆ เลยใช้บริการ Hyperdia เว็บที่มีประโยชน์มากที่สุดในการเดินทางในญี่ปุ่น เลือกต้นทาง Ueno Station ปลายทาง Sawara Station ได้เส้นทางตามที่แสดงครับ ไปลงที่สถานีนิปโปริก่อน แล้วนั่งรถไฟสายเคเซไปลงสถานีเคเซนาริตะ(สายที่ไปสนามบินนาริตะนั่นเอง แต่ลงก่อนที่จะถึงสนามบิน) แล้วเดินอีก 6 นาทีไปขึ้นรถไฟ JR ที่สถานีนาริตะ แล้วลงที่สถานีซาวาระ ก็ถึงแล้ว


จากตารางเวลาที่ Hyperdia หามาให้ ผมรีบเดินขึ้นไปชานชาลาของรถไฟสาย JR Joban Line แล้วก็ยืนรอ มาคิดอีกที จริงๆผมควรจะไปขึ้นสาย Keisei Main Line ที่สถานี Keisei Ueno ซะเลย เพราะเป็นต้นทางด้วย แต่ตอนนั้นมันนึกไม่ถึงจริงๆครับ เวลามีให้คิดน้อยมากๆ


พอขึ้นรถไฟมาเสร็จแค่ 3 นาทีก็ถึงสถานีนิปโปริแล้ว ผมลงมาก็มายืนหาป้ายรถไฟสายเคเซที่จะไปเคเซนาริตะ หาชานชาลากันให้วุ่น ก็ยังไม่เจอจนเลยเวลา 11.19 น.ที่รถไฟสายเคเซจะออก ก็เลยเดินไปตรงจุดอื่น อ้าว ไปเจอทางเข้า แล้วเดินไปลึกๆจนมาถึงตรงนี้ โอ้ว....สายเคเซมันอยู่คนละอาคารกันนั่นเอง มิน่าหาชานชาลาในตอนที่ลงมาไม่เจอสักที งั้นเข้าไปทางเข้าข้างในกันครับ


เข้ามาก็งงๆนะครับเนี่ย ต้องขึ้นไปชั้น 2 ชั้นชานชาลา สายเคเซจะว่าไปไม่เคยลงสถานีอื่นเลยนอกจากต้นทาง-ปลายทาง เคเซอุเอโน-สนามบินนาริตะ เทอร์มินอล 2 ตลอด สถานีอื่นเลยไม่คุ้นแฮะ


แล้วก็มาถึงสถานีเคเซนาริตะในเวลา 12.40 น.


เดินออกมาจากสถานีก็จะเจอกับวิวแบบนี้ เดินไปทางซ้ายมือเพื่อไปสถานีนาริตะที่อยู่ตรงหน้าโน้น พอได้เห็นตัวสถานีแล้ว ดูเวลาที่เที่ยวรถไฟต่อไปจะออก โอ้ว..... 13.41 น. อีกตั้งเกือบชั่วโมง นี่แหล่ะที่พลาดตอนหารถไฟสายเคเซ เลยรอนานเลยกว่าอีกเที่ยวจะมาอีก เพราะเป็นชนบทด้วย รถไฟเลยไม่ถี่


งั้นก็เดินออกมาหาอะไรทานฆ่าเวลาไปด้วยดีกว่า เดินย้อนมาตามทางที่มาจากสถานีเคเซนาริตะเหมือนเดิม ไปเจอร้านนี้เข้าให้ ก็ดูน่าทานนะครับ ยากิโซบะ


ได้จานนี้มาครับ ที่สำคัญมีโต๊ะให้นั่งด้วยแหล่ะ อันนี้สำคัญ


แล้วก็เดินกลับไปที่สถานีนาริตะต่อ เข้ามาข้างในชานชาลา รถไฟมาแล้วทางด้านซ้ายมือ มาเร็วกว่าเวลาออกจริง 12 นาที ไม่มีอะไรทำก็เดินเข้าไปนั่งเลยดีกว่า


14.09 น. รถไฟก็มาจอดที่สถานีซาวาระ(Sawara Station)


ตรงนี้ด้านหน้าสถานีซาวาระ(Sawara Station) ยินดีต้อนรับสู่เมืองเก่าสมัยเอโดะจ้าาาา



นี่คือแผนที่เส้นทางที่ผมเดินเท้าจากสถานีซาวาระ(ตำแหน่งสถานีผิดนะครับ จริงๆต้องอยู่เลยมาทางขวามือที่มีร้านสะดวกซื้ออยู่)ไปสถานที่ต่างๆจนไปสิ้นสุดที่พิพิธภัณฑ์ Inō Tadataka


จากสถานีเดินตรงไปจะเจอกัน Sawara Tourist Information Center (เอารูปตอนขากลับมาครั้งที่ 2 มาลง) เข้าไปก่อนเลยครับ เพราะไม่ได้เตรียมข้อมูลมาเลย สดมากๆ เลยต้องหาตัวช่วยครับ เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเป็นลุงแก่ๆ ซึ่งก็สนทนาภาษาอังกฤษได้นะครับ แต่รอคิวนิดนึง มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเองกำลังถามแกอยู่ครับ แถมถามยาวซะด้วยสิ


พอถึงคิว ลุงแกก็อธิบายสถานที่เที่ยวในเมืองนี้ครับ คือพื้นที่สีเหลืองและสีส้มตามคลองโอโนะ(Ono River) โดยเฉพาะสีส้มเป็นพื้นที่ชั้นใน มีบ้านพักของ Inō Tadataka นักสำรวจและคนเขียนแผนที่ญี่ปุ่นสมัยใหม่ด้วยครับ


มีใครจะส่งโปสการ์ดมั้ย??? ถ้าย้อนไป 10 กว่าปีที่แล้ว คงได้ส่งโปสการ์ดกลับไทยแล้วหล่ะครับ มาสมัยนี้หมดไฟแว้ววว ฝากคลับเรารักโปสการ์ดในพันทิปหน่อยนะครับ


จริงๆว่าจะเช่าจักรยานขี่ไปแต่หาร้านเช่าไม่เจองั้นเดินไปเรื่อยๆดีกว่า ดันเดินมาเส้นนี้ ไม่ได้เดินขนานคลองโอโนะ


ถึงแล้วครับ จุดเริ่มต้น


แชะมุมนี้ เมืองเก่าสมัยเอโดะ


อีกมุมสวยๆมุมนึง


เดินไปอีกนิด มีเรือให้ล่องด้วย


คนพาล่องเรือก็รอนักท่องเที่ยวอยู่นะ แต่วันนี้เงียบมากๆ


สะพานไม้อันนี้ชื่อว่า Hibashi(樋橋) หรือสะพาน Jya-Jya ที่มีน้ำไหลตกลงมาจากสะพานตรงด้านข้าง(มองดูตรงข้างสะพานดีๆครับ) แล้วตกลงไปในคลองโอโนะทุกๆ 30 นาที แต่ตอนไปนี่ผมไม่เห็นนะครับ สงสัยต้องยืนรอนานกว่านั้นถึงจะเห็น แต่เอาหล่ะ ก็ได้มาเจอกับตาตัวเองว่าจะมีน้ำไหลแล้วหล่ะ


ด้านซ้ายเป็นอดีตบ้านของ Inō Tadataka คนทำแผนที่ญี่ปุ่น


ส่วนทางขวาคือร้านอาหาร Miyasada ยังคงอนุรักษ์แนวเอโดะไว้


มาชมเรือนำเที่ยวกัน ตอนนี้คนนำเที่ยวหายไปไหนแล้ว 555


แล้วก็เดินไปทางซ้ายมือของสะพาน(หันกลับไปยังทางที่เดินเข้ามา)


ด้านซ้ายมือเป็นพิพิธภัณฑ์ Inō Tadataka (伊能忠敬記念館) แต่วันนี้ปิด เลยอดเข้าไปดูครับ ก็เป็นอันจบสำหรับพื้นที่อนุรักษ์สมัยเอโดะรอบคลองโอโนะกันแล้ว ขอพักขาประเดี๋ยว ตอนหน้าจะใช้แรงขาอย่างเดียวเดินไปไกลถึงศาลเจ้าคาโตริ(Katori Jingu Shrine) ศาลเจ้าที่มีอายุมากกว่า 2000 พันปี พร้อมกับชมซากุระบานไปในตัว ซึ่งจะเป็นจุดสุดท้ายของซากุระบานของทริปนี้แล้วครับ


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น