[ตอน 1] [ตอน 2.1] [ตอน 2.2] [ตอน 3.1] [ตอน 3.2] [ตอน 3.3] [ตอน 3.4] [ตอน 3.5] [ตอน 4.1] [ตอน 4.2] [ตอน 4.3] [ตอน 4.4] [ตอน 4.5] [ตอน 5] [ตอน 6.1] [ตอน 6.2] [ตอน 7.1] [ตอน 7.2] [ตอน 8]
รถบัสที่นั่งมาถึงสถานีโทบุ-นิกโกะ แต่ไปจอดอีกป้ายหนึ่งไม่ใช่ป้ายเดิมกับขามา ตอนแรกตกใจคิดว่าจะไม่จอดซะอีก 555 แล้วก็เดินเข้ามาที่ตัวสถานีรถไฟ ตอนแรกกะจะเถลไถลหาอะไรทานก่อนขึ้นรถไฟซะหน่อย แต่พอมาดูเวลารถไฟออกเที่ยวต่อไปแล้ว เวลา 16.28 น. เหลืออีก 14 นาที กลัวจะรีบๆ เลยเข้าไปข้างในชานชาลาและเตรียมขึ้นรถไฟดีกว่า
ก็มาเจอกับรถไฟ 2 ขบวนจอดคู่กันอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนฝาแฝดกันเพราะคนละสี ขบวนที่ผมจะขึ้นคือขบวนซ้ายมือ หน้าตาคล้ายขบวนขามามากๆ ตัวเลขขบวนก็คล้ายๆกัน แต่ดูดีๆ คนละขบวนกันครับ ขามาเลขขบวน 62102 ส่วนขบวนที่นั่งกลับนี้เลขขบวน 62201 (3 ตัวหลังสลับกัน ใบ้หวย 555)
ขบวนนี้จะวิ่งสายแค่สถานี MINAMI-KURIHASHI ดังนั้นจึงต้องต่อขบวนที่ 2
เพื่อให้เห็นภาพก็ต้องดูตารางเวลารถไฟโทบุขากลับตารางนี้ กรอบสีเขียวคือรอบเวลาที่ผมจะนั่งกลับ ถ้าพลาดรอบนี้ก็ต้องรอเวลาอีกชั่วโมงนิดๆเลย คือ 17.32 น. ในรอบต่อไป(รอบเวลาที่ตัวหนังสือสีเทาเท่านั้น นอกนั้นเป็นรถไฟพิเศษที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
ถ้าดูเส้นทางรถไฟจาก Google Map ก็จะเป็นดังภาพครับ
ระหว่างทางจะพบเจอกับต้นซากุระที่กำลังบานอยู่เรียงรายด้วยครับ ต้นนี้น่าจะบริเวณสถานี SHIN-OHIRASHITA
ช่วงนี้รถไฟกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ทำให้ชมซากุระได้นานขึ้น สวยงามครับ ไปไหนก็เจอแต่ซากุระ เสียดายบริเวณนิกโกะไม่ยักจะเจอแฮะ คงมีต้นไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงแทน
18.12 น. รถไฟมาจอดที่สถานีสุดท้าย สถานี MINAMI-KURIHASHI
แล้วก็รอรถไฟขบวนที่ 2 ต่อไป นั่นไง...กำลังแล่นมาแล้ว
18.15 น. มาจอดเร็วกว่าเวลาออกอยู่ถึง 5 นาทีด้วยกัน
18.31 น.ก็ได้เวลาลงที่สถานี TOBU-DOBUTSU-KOEN แล้วมารออีกฝั่งทางด้านขวามือเพื่อขึ้นรถไฟขบวนที่ 3 ขบวนนี้ต่อไป
19.16 น. ก็ถึงสถานี HIKIFUNE ย้ายมาฝั่งซ้ายมือขึ้นรถไฟขบวนที่ 4 ขบวนสุดท้ายต่อไป (หลายขบวนจัด)
นั่งไม่นาน เวลา 19.22 น. รถไฟก็มาถึงสถานีอาซากุสะแล้ว ถ่ายมุมนี้มาให้ดูว่า ตัวรถไฟไม่สามารถเข้ามาในชานชาลาของสถานีได้หมดทุกตู้รถไฟ อย่างที่บอกไป ผมนั่งตู้สุดท้ายของขบวน ตอนแรกก็รอจนหยุดสนิทจะได้ลง แต่เห็นผู้โดยสาร(ญี่ปุ่น)คนอื่นที่นั่งตู้สุดท้ายมาด้วยกันเขาเดินไปตู้ข้างหน้ากันแล้ว ไอ้เราก็งงๆว่าจะเดินไปทำไม ก็แค่รอรถไฟจอดสนิทแล้วก็ลงก็แค่นั้น แต่พอจอดสนิทมันลงไม่ได้จริงๆครับ เพราะประตูรถไฟไม่เปิดเนื่องจากมันเข้ามาในชานชาลาไม่ได้ ต้องเดินไปตู้อื่นที่อยู่ข้างหน้าแล้วออกจากตู้นั้นจริงๆ เกือบจะต้องนั่งรถไฟกลับไปสถานีที่มาแล้ว 555 อันนี้เพิ่งเคยเจอกรณีแบบนี้เลยครับ ฝากไว้ละกัน
ก่อนจะออกจากสถานีอาซากุสะ เห็นรถไฟขบวนนี้หน้าตาหัวรถไฟแปลกดี น่าจะเป็นขบวนพิเศษอะไรสักอย่าง
ออกมาจากสถานีก็เดินข้ามฝั่งไปซื้อแซนวิชที่ร้าน 7-11 ฝั่งตรงกันข้ามเลย รองท้องก่อน
แล้วก็ข้ามฝั่งกลับมาฝั่งแม่น้ำสุมิดะอีกครั้ง เริ่มเดินชมซากุระยามค่ำยืนอีกจุด(กล้อง/เลนส์มีปัญหานะครับ ภาพเลยห่วยๆ)
ตรงบริเวณนี้คนมาฮานามิตอนกลางคืนเยอะแยะเชียว ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่มากัน
เดินเก็บบรรยากาศริมแม่น้ำสุมิดะไปเรื่อยๆครับ
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง เคียงคู่กับโตเกียวสกายทรี ได้อย่างสวยงามเลย
มาดูภาพอนิเมชั่นเรือกำลังเคลื่อนตัวบ้าง สะพานที่เห็นคือสะพานที่รถไฟจากสถานีอาซากุสะ(สายโทบุ) แล่นข้ามไปสถานีโตเกียวสกายทรีนะครับ
คนมาฮานามิเยอะมาก
แล้วคนนั้นไปยืนอะไรบนรั้วหล่ะนั่น
เดินจนเลยมาอีกฝั่งของสะพาน เก็บภาพที่รถไฟกำลังแล่นผ่านแล้วเดินกลับ
ตรงลานนี้มีนิทรรศการภาพวาดของเด็กๆด้วยครับ
ขออีกภาพก่อนเดินทางกลับ
เดินมาที่หน้าวัดเซ็นโซจิอีกครั้ง
แล้วก็เดินไปหาร้านอาหาร ตึกนี้น่าจะเป็นโรงหนัง
ได้ข้าวหน้าหน้าหมูกับไข่ออนเซ็นมา 1 ชุด
แล้วก็มาถึงที่โรงแรม 1 Night 1980 Yen มาแวะชั้น 2 เพิ่งเปิดเป็นชั้นให้มานั่งคุยทานอาหารได้ไม่นานก่อนผมมาพัก เลยเอาขนมและเบียร์เย็นๆมาทานก่อนจะกลับไปที่พักข้างบน ก็จบไป 1 วันกับนิกโกะมรดกโลก ไว้พรุ่งนี้จะไปไหนมาติดตามกันครับ
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น