วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2550

หลีเป๊ะ...เกาะสวาท หาดสวรรค์ ภาค 2 ตอน 3 บ๊าย บาย เกาะหลีเป๊ะ (วันอำลาเกาะ)


วันนี้วันสุดท้ายที่จะอยู่บนเกาะสวรรค์แห่งนี้แล้วนะ เสียงปลุกแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ดังมาจากหัวนอน ทำให้ผมต้องควานหาจ้าละหวั่น พอจับเจ้าสิ่งนี้ได้ก็มองดูเวลา อีก 15 นาที 6 โมงเช้า ดูเวลาเสร็จก็ขอให้เทพแห่งความขยันและความขี้เกียจได้เถียงกันในสมองผมว่า สมควรที่จะลุกจากที่นอนมาชมพระอาทิตย์ขึ้นมั๊ย ? เป็นที่น่าดีใจ เทพแห่งความขยันชนะ ผมเลยตื่นมาอีกครั้งหลังจากชั่งใจบนเตียงนอนอยู่หลายนาทีเมื่อเสียงปลุกสิ้นสุดลง

เอาอีกแล้วนะ ที่ผมต้องลุกขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดทรายหน้าเกาะหลีเป๊ะเพียงคนเดียว คงปล่อยให้แฟนผมนอนหลับใหลจากความเหนื่อยที่ได้เจอะเจอกับการดำน้ำมาราธอนเมื่อวานนี้แบบเต็มวัน


หลังจากสลึมสลืมลุกจากเตียงได้ ผมก็คว้าอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเก็บภาพครั้งนี้ จะเป็นอะไรเสียไม่ได้นอกจากกล้องคอมแพ็คคู่กายและขาตั้งกล้องราคาไม่กี่ร้อยบาท โดยไม่สนใจแม้กระทั่งแว่นตาที่ตัวเองได้ถอดวางไว้หลังหัวนอน เช้านี้ยังพอมีแสงรำไรอยู่บ้าง ไฟฉายที่หยิบมาดูจะไม่เป็นประโยชน์แต่ประการใด ผมเดินมึนงงไปเรื่อยๆผ่านอันดามันรีสอร์ทซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวใต้ได้ตื่นมาอาบเหนือเหมือนกัน เช้ามืดนี้ก็ไม่ได้มีแต่ผมคนเดียวสินะ

เดินผ่านรีสอร์ทไปก็จะเจอกับชายหาดสีขาวของฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น จะมีเต็นท์ปักอยู่ 1-2 หลังของนักท่องเที่ยวที่รักความเป็นอยู่ง่ายๆมาพักผ่อนริมชายหาดแห่งนี้ พอถึงจุดที่คิดว่าสวยแล้วจึงเริ่มกางขาตั้งกล้องพร้อมๆกับล็อคตัวกล้องกับขาตั้งกล้องนั้น

ไหนลองเปิดกล้องดูซิ....แทบไม่น่าเชื่อว่า "เปิดไม่ติด !!!" ผมงงอยู่สักครู่ก็ถึงบางอ้อ....เฮ้อ....ไอ้เรามันถอดแบตฯออกจากกล้องเพื่อมาชาร์จเมื่อคืนนี้นี่ แล้วตอนออกมาก็เห็นแต่ดันลืมเอามาด้วย !! เวรหล่ะทีนี้ จะทำอย่างไรดี แต่ลองเสี่ยงดวงกลับไปเอาดีกว่า เพราะเห็นว่าแสงยังไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ พระอาทิตย์คงรอเราได้

กลับมาอีกครั้งกับความกระหืดกระหอบที่รู้สึกได้ของตัวเอง ครั้งนี้ไปเอาแบตฯแล้วไปเอาแว่นมาใส่ด้วย พระอาทิตย์ยังคงรอเราอยู่จริงๆ 6:14 น.ก็ได้เก็บรูปนี้แบบท้องฟ้าขมุกขมัว ท่าทางฝนคงจะตกซะหล่ะมั้ง


เห็นมุมในภาพแรกยังไม่ถูกใจ ย้ายมุมมาถ่ายตรงนี้บ้าง ยังพอที่จะได้เห็นฉากเรือมากกว่าหนึ่งลำอยู่ในรูป


และแล้วผมก็ได้ภาพสุดคลาสสิคของพระอาทิตย์ขึ้น ณ หลีเป๊ะ...เกาะสวาท หาดสวรรค์ นี้เมื่ตอนเวลาประมาณ 6:29 น.


ถ่ายรูปไปเพลินๆ ฝนก็ค่อยๆตกลงมาจากฟากฟ้า ผมก็ยังไม่สะท้าน ได้แต่ลองกลับแสงไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกภาระกิจและวิ่งกลับไปหลบฝนที่ร้านอาหารของอันดามันรีสอร์ท ฝนมาพร้อมกับลม พัดจนใบต้นมะพร้าวไหวสั่นไปหมด สงสัยคงอัดอั้นมานานแล้วหลังจากที่ตกปรอยๆมาวันสองวันที่ผ่านมา


ผมติดฝนอยู่ที่อันดามันรีสอร์ทนานถึง 20 นาที ไม่มีอะไรทำเลยหยิบโทรศัพท์มารายงานสดๆจากหลีเป๊ะดีกว่า แต่หลังจากที่ฝนพอซาลงมาบ้าง ผมก็ตัดสินใจเดินตากฝนไปที่เม้าเท่นตามเดิม แต่ก็ไปได้แค่ค่อนทาง เพราะฝนก็กระหน่ำลงมาอีกแล้ว ผมเลยต้องเสียเวลารออีกครั้งเป็นครั้งที่สองที่ศาลาชมวิวที่เท้าเท่นนี้

ไม่น่าเชื่อว่าเกาะอาดังที่เคยปรากฏกายอยู่เบื้องหน้ามาบัดนี้ได้อันตธานหายไปกับสายฝนแล้ว คงเห็นก็เพียงภาพมัวๆปิดกั้นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาะนี้ดังที่เห็นในรูป


ในยามนี้ภาพที่เห็นก็มัวๆ เสียงที่กระทบแก้วหูก็มีแต่เสียงฝน เฮ้อ.....วันนี้เราจะกลับเข้าฝั่งได้มั๊ย


เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมต้องหยิบมือถือมาถ่ายรูปพร้อมๆกับรายงานสดๆไปด้วย ดีใจที่ยังพอมีเพื่อนๆเข้ามาแจมในกระทู้นั้น โดยเฉพาะขวัญใจชาว BP ป้าเกษนั่นเอง ซึ่งก็เข้ามาทักทายกันด้วย

ชะโงกผ่านศาลาชมวิวไปแล้วก็ให้น่าตกใจเมื่อเห็นธงสีขาวที่ปักไว้ของ KARMA BAR นั้นเอนลงอย่างสุดๆเมื่อต้องเจอกับลมฝนอันแรงพอตัว

แต่หลังจากรออยู่ที่นี่ได้ 40 นาที ฝนก็เริ่มซามาอีกครั้ง ผมไม่รอแล้ว เลยเดินตากฝนปรอยๆเข้าที่พักที่ตั้งอยู่แถวที่สามต่อไปด้านหลัง


เห็นใครๆเขามาดำน้ำที่นี่แล้วแพ้แตนทะเล ผมเลยขอโชว์มั่ง อย่างนี้พอไหวไหม ?


ดูนาฬิกาเกือบ 9 โมงเช้าแล้วเหมือนกัน เราคงต้องรีบไปทานอาหารเช้าและเก็บสัมภาระไปวางไว้เตรียมกลับฝั่งแล้ว

ฟ้าหลังฝนทำให้โต๊ะอาหารที่อยู่รอบนอกซึ่งไม่มีหลังคา มาครานี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยแม้สักคนมานั่งทาน


ทานอาหารไปก็ชมวิวเกาะอาดังไป


เจ้าตั๋วขากลับชุดนี้แหล่ะที่ทพเอาเราเกือบไม่ได้ดลับปากบารา ดีที่คุณโกหงวนเคลียร์ให้


เวลาประมาณ 9:30 น. เรากับพี่บ่าวคนเรือก็เดินลงไปด้านล่างเตรียมที่จะลงเรือไปขึ้นสปีดโบทอีกที ก่อนเดินเลยผ่านขอชักภาพเปลน่านอน(เสียดายที่ผมกะว่าจะมานอนที่เปลนี้แต่ไม่มีเวลาเลย ของ KARMA BAR


นักท่องเที่ยวหลายคนย่ำลงบนหาดทรายเพื่อเดินทางไปลงเรือหางยาวที่เตรียมไว้


ก่อนลงเรือ เราสองคนสัญญาว่าเราจะไม่ลืมน้ำทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ ณ เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้เลย


ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา 9:34 น.เราก็จำใจอำลาจากเกาะสวรรค์แห่งนี้แล้ว เหลือเพียงความทรงจำดีๆอีกหนึ่งความทรงจำ แล้วเราจะกลับมาใหม่นะ...เราให้สัญญา


เรือแล่นอ้อมซากตอม่อปูนอันเก่า เพื่อไปเตรียมขึ้นเรือโดยผ่านหาดซันไลท์อีกครั้ง น้ำทะเลใสกิ๊กเชียว


ทำไมมาครั้งนี้เรือใหญ่ที่มาจอดจึงเปลี่ยนที่จอดหล่ะเนี่ย ครั้งที่แล้วยังจอดระหว่างเกาะอาดังกับหลีเป๊ะเลย แต่มาคราวนี้จอดลอยลำใกล้ๆเกาะกะ หรือจะเป็นเรื่องหลบลมทะเลก็ไม่ทราบได้


ทายซิว่าเรือเราลำไหน....สปีดโบทด้านขวาไง

แต่พอขึ้นจากเรือหางลงเรือสปีดโบท เราก็ต้องงุนงงอีกครั้ง งงจริงๆ เพราะเวลาคนเรือขอดูตั๋ว เราก็ส่งตั๋วดังรูปที่ 15 ให้ไป แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คนเรือตอบกลับมาว่า "เรือของตั๋วใบนี้ออกไปตอน 9 โมงเช้าแล้ว" อ้าว....เฮ้ย....เป็นไปได้ยังไง ?!?! ก็เห็นบอกว่ามี 2 รอบ คือ 9 โมงกับ 10 โมง ไง และคนจองให้เราก็คุณโกหงวนซะด้วย เรื่องบริษัทอะไรผมไม่ได้สนใจหรอก มิน่า....มันมีข้อผิดพลาดตะหงิดๆตั้งแต่ตอนขามาแล้ว คือเรือเปลี่ยนเป็นลำสีแดง และยังไม่ได้เติมน้ำมันด้วย และอีกข้อคือ เรือดันมาจอดที่หาดพัทยาซะนี่ เล่นเอางงไปเลยตอนขามา แต่ก็ยังไม่นึกว่าจะมามีอะไรเกิดขึ้นอีกครั้งตอนขากลับ ทำไงดีหล่ะ เพราะเรือหางก็กำลังจะไปแล้ว ส่วนเจ้าสปีดโบทลำนี้มันก็จะไม่ให้ขึ้น แล้วเราจะไปที่ไหนหล่ะ ? หรือลงทะเล ฮือๆ  สุดท้ายก็โทรไปหาคุณโกหงวน แล้วให้แกเคลียร์ให้กับคนเรือ ซึ่งหลังจากคนเรือได้คุยกับโกหงวนทางโทรศัพท์ผมแล้ว คนเรือก็ขอตั๋วเราไปและให้ขึ้นเรือได้ เฮ้อ.....ผมเลยรีบโทรไปบอกเนตรที่ซื้อตั๋วมาแบบเดียวกับเราว่าระวังตรงจุดนี้ด้วย


พอคนครบ เรือก็แล่นแบบสปีดจริงๆ ผมจับเวลาตอนออกจากหลีเป๊ะจนถึงท่าเรือปากบาราโดยเรือไม่ได้แวะที่จุดใดเลย เรือใช้เวลาแล่นประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ใช้ความเร็วเฉลี่ย 46 กม./ชม.(จับจาก GPS Garmin iQue 3600)


ถึงปากบาราเกือบๆเที่ยง เราไม่รีบร้อน มองหารถตู้ที่ไปสถานีรถไฟหาดใหญ่ แล้วนำกระเป๋าเป้ไปวางจองที่ไว้ก่อน เสร็จแล้วก็ทักทายกับไกด์นกและไกด์สุที่อาดังซีทัวร์ โดยครั้งที่แล้วเรามาใช้บริการกันที่นี่ สองไกด์ของเราดูแลเราอย่างดี ทั้งคู่จำเราได้ ทักทายกันสนุกสนาน โดยเฉพาะนก นกเป็นคนคุยสนุกบอกกับเราว่าสอบผ่านไกด์แล้ว และคุยเรื่องขำๆกันหลายอย่างเกี่ยวกับครั้งที่แล้ว เช่น นีโม เพราะจริงๆแล้วตอนนั้นนกยังไม่รู้จักนีโม่เลย ก็สนุกสนานกันไปพร้อมๆกับแลกเบอร์โทรกันเพื่อจะได้ติดต่อสอบถามข้อมูลกัน นกบอกว่าจะได้งานที่ภูเก็ตเหมือนกัน ไว้หมดหน้าเที่ยวที่นี่ก็จะไปภูเก็ต ซึ่งเราก็บอกว่าจะตามไปใช้บริการ

ก่อนจะออกจากปากบารา เราฝากท้องไว้กับร้านข้างๆ ทานแบบเร่งรีบแทบตายเกรงว่าจะตกรถ แต่สุดท้ายก็ได้ไป รถตู้ไปถึงตลาดกิมหยงประมาณ 14:30 น.ระหว่างทางฝนตกตลอด เราตัดสินใจไปที่สนามบินหาดใหญ่เลย ไม่เสียเวลาเดินเที่ยวที่ตลาดกิมหยงแล้ว

เราเดินข้ามสะพานเพื่อข้ามทางรถไฟมาอีกที ขอเก็บภาพไว้ก่อนจะเดินไปขึ้นรถสองแถวคิวขนส่ง-สนามบินที่จอดรออยู่ไม่ไกล


มาถึงสนามบินบ่ายสามกว่าๆ เวลาอย่างนี้จะมีอะไรดีไปกว่า คาปูชิโน่เย็นๆสักแก้วพร้อมๆกับพายบลูเบอรี่ เพิ่งมาทราบทีหลังว่าซื้อคาปูฯกับพายแล้วพายจะลดราคาถึง 50% งั้นได้ลดๆๆ  ร้านกาแฟนี้ผมมาแวะทุกครั้งที่มาถึงสนามบินหาดใหญ่เลย


เจ้าแอร์เอเชียผมเปลี่ยนเวลาเครื่องออกเป็น 17:45 น. เฮ้ย....เปลี่ยนเวลาแล้วทำไมไม่ยอม SMS มาบอก แต่ไม่เป็นไร เพราะเปลี่ยนเวลาออกช้าไปอีก 50 นาที ถือว่ายอมรับได้


เวลาผ่านไปเหมือนโกหก....19:12 น. เราก็มาถึงที่สุวรรณภูมิแล้ว เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกัน ที่มาถึงสุวรรณภูมิแล้วเครื่องได้เทียบงวงช้าง เยๆ ดีใจจัง แอร์เย็นๆด้วย


จริงๆมันควรที่จะจบแล้วแหล่ะ แต่ผมอยากเก็บภาพต่อในกรณีที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมาจอด มาถึงอาคารผู้โดยสารก็ให้ไปรอรถ ณ จุดรอรถที่เขียนว่า SHUTTLE BUS ซึ่งอยู่ชั้น 2 หรือ 4 โดยอยู่ระหว่างประตู 2 กับ 3 ตรงตามที่คุณ CR128 ได้เคยเข้ามาบอกไว้ ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่นี่จะมีรถบัสสีขาวให้ขึ้นฟรีโดยรถจะไปจอดที่จุดจอดรถขสมก.ที่อยู่ด้านนอกของอาคารผู้โดยสารอีกที


พอรถ SHUTTLE BUS จอดเสร็จก็เดินลงไปหารถเมล์สายที่ตัวเองจะไปเลย ส่วนเราเดินไปช่องนี้ สาย 552 ครับ ไปบางนา-สำโรง-ปากน้ำ

ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามกันมาจบจบ มีความสุขทุกครั้งกับย่างก้าวที่เดินไปในโลกกว้าง สวัสดีครับ 

ปล. อย่าลืมดูทุกตอนนะ ผมทำชุดนี้ด้วยใจครับ เสียเวลามากโดยเฉพาะตอนแรกที่มีคลิปวีดีโอ เพราะต้องแปลงไฟล์เป็น .wmv ก่อนแล้วค่อยโหลดไป YouTube ส่วนตอนต่อมาก็ปะการัง 7 สีที่ร่องน้ำจาบัง ผมเสียเวลากับการเลือกรูปมาลงซึ่งมีอยู่เป็นร้อยๆรูป อันสุดท้ายตอนโลกใต้ทะเลที่เกาะราวี เสียเวลากับการเลือกรูปใต้น้ำเพื่อมาลงในรูปเดี่ยวๆที่มี 6 รูปอยู่ด้วยกัน

==========
เครดิตสำหรับเพื่อนๆที่ให้ข้อมูล ก่อนไปครั้งที่ 2 
ninue : ขอบคุณที่ช่วยลองโทรไปจองที่พักที่เม้าเท่นให้ และตอบเรื่องราคาเหมาเรือทั้งสองวัน
noo_jar : ขอบคุณที่ช่วยลองโทรไปจองที่พักที่เม้าเท่นให้
แฟนสวย : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำและเรื่องเกี่ยวกับที่พักอาดัง
.. (nikonos) : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่ emporium
Conundrum : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่สยามพารากอน
dodoman : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่ Sport World
หนูกำลังอารมณ์ดี : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่รถไฟฟ้าชิดลม
skyrocket : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่งานที่สิริกิต์
Cheesecakesmile : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่งานที่สิริกิต์
miller31 : ขอบคุณที่แนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ดำน้ำที่ DECHATHLON --> ผมไปซื้อที่นี่มาแล้วครับ ถูกดี
วิศวกรน้อย บางมด : ขอบคุณที่แนะนำรถโดยสารสาย 558 จากสุวรรณภูมิกลับเซ็นทรัลบางนา
CR128 : ขอบคุณที่แนะนำวิธีการเดินทางอย่างละเอียดมากๆ จากสุวรรณภูมิกลับเซ็นทรัลบางนา โดยผมได้ทำตามคุณ CR128 ทุกประการไม่ผิดหวังเลยครับ
ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน : ขอบคุณที่แนะนำรถแท็กซี่จากสุวรรณภูมิกลับเซ็นทรัลบางนา
แป้งแดง : ขอบคุณที่มายืนยันวิธีการเดินทางแบบคุณ CR128 จากสุวรรณภูมิกลับเซ็นทรัลบางนา ไม่ได้เจอป้าแป้งนานเลยนะครับ(ในกระทู้)
Pink_Purple : ขอบคุณที่แนะนำให้ขึ้นรถแท็กซี่แบบลักไก่จากสุวรรณภูมิกลับเซ็นทรัลบางนา
Capo : ขอบคุณที่เพิ่มความรู้เรื่อง codec ของไฟล์ AVI ครับ
lilycu : ขอบคุณที่แนะนำโปรแกรม cinemaforge แปลงไฟล์ .avi ไปเป็นไฟล์ .wmv โดยผมได้ทดลองใช้และใช้ได้ดีทีเดียวครับ
priceless : ขอบคุณที่แนะนำโปรแกรม tmpeg
และอีกหลายๆคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อครับ flower

เว็บไซท์ที่เกี่ยวข้องและเบอร์โทรติดต่อ
http://www.kohlipethailand.com/travel_info.html <--- เว็บข้อมูลเกาะหลีเป๊ะล้วนๆ
http://www.kohlipethailand.com/island_map.html <--- แผนที่เกาะหลีเป๊ะพร้อมสถานที่สำคัญต่างๆ
http://www.mt-resort.com/ <--- เว็บเม้าเท่นรีสอร์ท
เบอร์โทรเม้าเท่นรีสอร์ท : 074 728 131, 089 738 4580(เบอร์ตรงคุณโกหงวน)
sea@holiday <--- จองสปีดโบท 089 655 5707

สรุปค่าใช้จ่าย
วันแรก 23 มีนาคม 2550
-ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แอร์เอเชีย 2 คน = 4,787.18 บาท
-ค่าแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิ = 170+20 = 190 บาท 
-ค่ากาแฟเอสเปรสโซ่+โกโก้ร้อน = 75+60 = 135 บาท
-ค่ารถสองแถวจากสนามบินหาดใหญ่ไปตลาดกิมหยง = 20x2 = 40 บาท
-ค่ารถตู้จากหาดใหญ่ไปปากบารา = 100 x 2 + 20 = 220 บาท
-ค่าตั๋วเรือไป-กลับ สปีดโบท = 1,100 x 2 = 2,200 บาท
-ค่าทิปคนเรือ = ? บาท
-ค่าอาหารเย็นที่เม้าเท่น(กับข้าว 3 อย่าง) = 415+180(Alcohol) = 595 บาท 

วันที่สอง 24 มีนาคม 2550
-ค่าอาหารเช้า(อเมริกันเบรคฟาสท์+ข้าวต้มปลา) + อาหารกล่องไปทานกลางวันที่เกาะ = (150+60) + (60+75) = 345 บาท
-ค่าอาหารเย็นที่เม้าเท่น(กับข้าว 3 อย่าง) = 460 บาท
-จ่ายค่าเหมาเรือทั้ง  2 วัน(ครึ่งวันบ่ายวันแรก+เต็มวันวันที่สอง) = 600(ไป 6 คน) + 1,400(ไป 4 คน) = ตก 2 คน = 900 บาท + ทิปคนเรือ ? บาท 

วันที่สาม 25 มีนาคม 2550
-ค่าอาหารเช้า(ข้าวต้มปลา 2 ชาม) = 60x2 = 120 บาท
-ค่าที่พักห้องพัดลม 2 คืน = 600x2 = 1,200 บาท
-ค่ารถตู้จากปากบาราไปตลาดกิมหยง = 100x2 = 200 บาท
-ค่ารถสองแถวจากตลาดกิมหยงไปสนามบินหาดใหญ่ = 20x2 = 40 บาท
-ค่าอาหารว่างที่สนามบิน(คาปูฯ+โกโก้เย็น+พายบลูเบอรี่) = 175 บาท
-ค่ารถเมล์จากสุวรรณภูมิไปเซ็นทรัล = 28x2 = 56 บาท
รวมทั้งหมด = 11,623.18 บาท หรือ 5,811.59 บาท/คน
แบ่งเป็น
ค่าเดินทาง = 7,693.18 บาท
ค่าเหมาเรือ(วันครึ่ง) = 900 บาท 
ค่าที่พัก = 1,200 บาท
ค่ากิน = 1,830 บาท 
ทั้งหมดต่อ 2 คน

ข้อมูลน่าสนใจจาก GPS iQue 3600
========== 
-ความเร็วเฉลี่ยของสปีดโบท = 46 กม./ชม.
-เรือออกเดินทางจากหลีเป๊ะประมาณ 10:20 น. ถึงท่าเรือปากบารา 11:40 น. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที

Original Published on www.pantip.com at [ 2 เม.ย. 50 21:01:52 ] as below link


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น