วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2550

หลีเป๊ะ...เกาะสวาท หาดสวรรค์ ภาค 2 ตอน 2 ปะการัง 7 สีที่ร่องน้ำจาบัง, หินซ้อน คือความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลเมืองไทย


หลังจากที่เมื่อคืนนอนหลับไปร้อนไป ขนาดเปิดพัดลมแล้วก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางในวันแรกบวกกับการไปดำน้ำเลยเมื่อมาถึงเกาะนั้น ยังไม่ทำให้ผมนั้นนอนจนสลบไสลไปได้ 

เมื่อเสียงปลุกจากมือถือได้ดังขึ้นในเวลาอีกสิบห้านาที 6 โมงเช้า ผมแค่ลืมตามาชำเลืองดูเวลาเฉยๆพร้อมกับกดปิดมัน ในใจคิดว่าเช้านี้คงตื่นไม่ไหวแล้ว ขอไม่ตื่นไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่หาด sunlight ดังที่เคยคิดไว้เมื่อวานละกัน ได้แต่นึกปลอมใจตัวเองว่า "พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาถ่ายก็ทัน" ไม่ใช่อะไร ความขี้เกียจมาครอบงำจนยกเหตุมาอ้างต่างๆนานาเพื่อผัดวันประกันพรุ่งตามนิสัยไม่ดีของผม

วันนี้นัดกับคนเรือที่จะเหมาไปเวลา 9 โมงเช้า คุณโกหงวนเป็นคนจัดการจองให้ ราคายังไม่พูดถึงด้วยซ้ำ ส่วนเหมาเรือเมื่อวานผมก็ยังไม่ได้จ่ายเงิน ซึ่งผมเองก็ยังไม่ถามเพราะไว้ใจแก จะมาโก่งราคาตอนจ่ายเงินทีหลังสุดก็ให้มันรู้กันไป

ปล. เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมภาพ รบกวนกดปุ่ม F11 หรือ เลือกขยายหน้าจอแบบ Full Screen ด้วยครับ


เราออกจากห้องพักมาที่ร้านอาหารของรีสอร์ทเวลาประมาณ 8:37 น. เห็นทะเลใสๆกับเรือสปีดโบ้ทที่ลอยลำอยู่ระหว่างอาดังและหลีเป๊ะเพื่อมารับคนกลับปากบารา ทำให้ต้องหยิบกล้องมาชักภาพเก็บไว้เป็นภาพแรกของเช้าวันใหม่นี้


เราต้องรีบสั่งอาหารเช้าเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ทัน 9 โมงที่เรือจะออกไปดำน้ำ แต่จริงๆแล้วเรากลัวจะไปรับคุณเนตร,โอ๋,หน่องและเพื่อนที่พักที่เกาะอาดังเมื่อคืนมากกว่า แต่ไม่กี่นาที เนตรได้โทรเข้ามาบอกกับเราว่าขอเวลาอีก 20 นาที เป็น 9:20 น. ค่อยมารับที่ชายหาดแหลมสน เกาะอาดัง เราเลยไม่เร่งรีบมากนัก

อาหารเช้าวันนี้ดูจะแพงเป็นพิเศษสำหรับของผม เพราะสั่งอาหารเช้าแบบอเมริกันซึ่งคิดเงินแล้วเสียดายตังค์จัง รู้งี้สั่งข้าวต้มปลาหรือหมูแบบแฟนผมดีกว่า

ระหว่างทานอาหารไปก็เขียนโปสการ์ดที่ตัวเองทำเองกับมือและได้นำมาจากกรุงเทพเพื่อที่จะมาส่งให้เพื่อนๆดังที่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกๆ จะเป็นใครซะที่ไหน ก็เพื่อนจาก BP ด้วยกันนี่เอง แม้ไม่ได้เจอหน้าค่าตา เพียงสื่อสารกันผ่านตัวอักษรก็พอที่จะเชื่อมสัมพันธภาพและมิตรภาพที่ดีๆแล้ว


ทานเสร็จก็เตรียมตัวลงไปรอเรือที่จะมารับเราไปดำน้ำแบบเต็มวันกันที่ชายหาดด้านล่างของเม้าเท่นรีสอร์ท มาครั้งนี้น้ำลดจนเห็นสันทรายปรากฏสวยงามมาก


น้ำทะเลใสๆมองเห็นพื้นล่างแบบนี้ต้องยอมให้เขาเลย อาดัง-หลีเป๊ะ


คุณโกหงวนแกบริการลูกค้าดีมาก เราเดินลงไปที่หาดทรายก็เห็นแกคอยต้อนรับและจัดแจงช่วยกดเรือเพื่อให้ขึ้นเรือได้สะดวกขึ้น  อย่างนี้นี่แหล่ะ ใครๆถึงได้มาพักที่เม้าเท่นรีสอร์ทแห่งนี้


พี่บ่าวกัปตันเรือของเราในวันนี้ แล่นเรือไปรับเสื้อชูชีพจากเรือลำอื่นที่อยู่กลางทะเลใกล้ๆก่อน เนื่องจากบนเรือเราไม่มีเสื้อชูชีพเหลืออยู่เลย จะมีตัวหนึ่งก็รู้สึกจะใช้ไม่ได้


หลังจากไปรับเสื้อชูชีพแล้ว เรือก็มุ่งหน้าไปเกาะอาดังที่ชายหาดแหลมสน เพื่อไปรับเพื่อนอีก 4 คน แต่ระหว่างทางก่อนจะไปถึงเนตรก็ได้โทรมาบอกกับเราว่าอีก 2 คนหาตัวไม่เจอแล้ว สงสัยไปจอยกับลำอื่น เพราะลงมาจากผาชะโดแล้วไม่เห็นที่โรงอาหาร

เนตรกับโอ๋ได้เดินขึ้นไป ณ จุดชมวิวผาชะโดมาเมื่อเช้านี้แล้ว เนตรเล่าให้เราฟังว่าใช้เวลาเป็นชั่วโมงไปกลับแหน่ะ ทางก็ไม่ดี มีบางจุดต้องคลาน 4 ขาด้วย โห....อะไรจะขนาดนั้น


พี่บ่าวถามเราว่าจะไปไหนบ้าง ทำอย่างกับเราเป็นไกด์ซะเองเลย ผมเลยบอกไปว่าไปที่จาบังอันดับแรกเลย และเมื่อได้ลงน้ำ รูปที่เห็นใต้ทะเลอันแรกเลยก็คือ "ปลาทีน" ครับ


พอผมกับแฟนลงน้ำปุ๊บ พร้อมกับฟินใหม่คู่กาย เรารีบว่ายปรี่ไปหาปะการัง 7 สีที่ดูมาแล้วเมื่อวานนี้แต่ยังไม่หนำใจ วันนี้เลยมาซ่อม

ช่วงสายๆแบบนี้นำนิ่งมาก ไม่ต้องจกจับเชือกแต่อย่างใด รู้สึกวันนี้ทัวร์ใหญ่ๆจะมาลงเยอะเช่น วาสนาทัวร์ นักท่องเที่ยวเลยเยอะไปนิด แต่เป็นที่น่าเสียดาย น้องๆพี่ๆป้าๆน้าๆนั้นคงเป็นมือใหม่ ไม่มีใครยอมปล่อยจากเชือกมาลอยเหนือน้ำชมความงามของปะการัง 7 สีสักกะคนเลย ปล่อยให้ผมกับแฟนกับคนอื่นคนหรือสองคน มาชมอย่างสบายตาไม่มีใครมาแย่ง

ภาพแรกที่เห็นก็เป็นดังเช่นนี้ ใครมาดูครั้งแรกต้องถึงกับตกตะลึงมากๆในสีสันที่สด ฉูดฉาดตา ขนาดเรามาเป็นครั้งที่สองยังตื่นเต้นไม่หาย


เข้ามาดูใกล้ๆด้วยกันสิครับ


สายๆนี้มีแสงแดดมากพอที่จะไม่ทำให้ภาพใต้น้ำแตกอย่างที่เห็นเมื่อวานเย็น


เป็นบางช่วงก็จะมีฝูงปลาว่ายกันเข้ามาอย่างฝูงชนเข้ามาประท้วงก็ไม่ผิดนัก


ดำไปมาจนเพลินก็โพล่มาดูฝูงชนที่มากันบ้าง โอ้โห...เยอะไม่ใช่เล่นเลยนะ แต่ทำไมครับ ทำไมเกาะแต่เชือกหล่ะ ไม่ว่ายมาดูปะการังตรงที่ผมลอยตัวอยู่นี่ไงหล่ะ ไกด์เขาไม่บอกลูกทัวร์เลย


จากการดำน้ำดูปะการัง 7 สีที่ร่องน้ำจาบังนี้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน(ครั้งแรก 1 ครั้ง, เมื่อวาน 1 ครั้ง และวันนี้อีก 1 ครั้ง) ผมค้นพบว่า จริงๆแล้วตรงจุดนี้มีปะการังอ่อนอยู่ด้วยกัน 2 กอใหญ่ๆที่อยู่ติดกัน อย่างที่ผมถ่ายรูปมานั่นไง ส่วนอีกกอหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปพอประมาณแต่ไม่ไกลนัก จะมีพื้นของหินเป็นสีเหลืองอร่ามสวยงามมาก มีปะการังอ่อนขึ้นอยู่ไม่เกิน 5 พุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสีแดงเข้มกับสีชมพูสลับขาว ฉะนั้น ใครที่จะไปดำดูก็ให้สังเกตและว่ายไปหาเองเมื่อไปถึงนะครับ เพราะบางคนก็ไม่ได้ว่ายไปถึงกอนี้อย่างเช่นเนตรและโอ๋เพื่อนร่วมทริปเราไง น่าเสียดาย


ไม่แน่ใจว่าอันสีน้ำตาลมีเส้นสีขาวเขาเรียกว่าอะไร


อย่างที่บอกไว้ ปะการังอ่อนสีแดงเข้มจะมี ณ กอนี้เท่านั้น สวยงามมาก


กลับมาที่กอใหญ่อีกครั้ง ผมชอบปะการังอ่อนสีส้มเป็นพิเศษ เห็นแล้วอยากดื่มน้ำส้มไบเล่ขึ้นมาทันทีเลย


ฝูงปลาดูจะว่ายวนเวียนมามากมายหลายตัวแล้ว แต่แปลกใจว่าทำไมมีแต่ปลาชนิดเดิมๆ ไม่เห็นปลาแปลกว่ายมาบรเวณนี้มั่ง


อยากให้เห็นภาพมุมกว้างว่ามี 2 กอใหญ่ๆอยู่ติดๆกันอย่างที่เห็นในภาพ


โอย...สีส้มอีกแล้ว สวยบาดใจ


ดูให้เบื่อกันไปเลย


ตรงจุดนี้ผมถ่ายมาไม่เยอะหรอก แค่ 85 รูปเอง 555 แถมยังตั้งค่าความละเอียดมากสุด+super fine ด้วยนา


ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามายัดเยียดความสุขที่ยากจะลืมเลือนของโลกใต้น้ำแห่งนี้ นามว่า "จาบัง"


ภาพนี้ได้เห็นการวางตัวของปะการังอ่อนหลากสีสันได้อย่างลงตัวทีเดียว


เราดำที่จุดนี้ครึ่งชั่วโมงกว่าไม่เบื่อเลยยย นี่แหล่ะข้อดีที่ไม่ได้มาแบบทัวร์ เพราะสามารถดำตรงจุดไหนก่อนหลังและระยะเวลาเท่าไหร่ก็ได้ตามใจเรา


โอ้ย...สีส้มอีกแล้ว เป็นคนแพ้สีส้มดูไม่ได้ สังเกตข้างๆปะการังอ่อนจะมีดอกไม้ทะเลเหมือนกัน แต่ยักกะไม่มีเจ้านี่โม่นะ


ชมพูจุฬาฯ ภาพสุดท้ายแล้วสำหรับปะการัง 7 สีที่ร่องน้ำจาบัง มาครั้งนี้ถือว่าคุ้มมากๆ ได้ดำดู ณ จุดนี้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน แต่ถึงจะได้ดำบ่อยก็ยังไม่รู้สึกเบื่อเลย


10:40 น. ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังเกาะหินซ้อนแล้ว ระหว่างทางได้เห็นเรือแปลกๆ คล้ายๆกับเรือสมัยเก่าเลย ไม่เหมือนเรือประมงหรือเรือนักท่องเที่ยวทั่วไป

จากจาบังไปหินซ้อนนั้น ใช้เวลามากโขอยู่ทีเดียว ประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ดังนั้นเหมาเรือแบบเกาะใกล้ๆก็จะไม่ไปหินซ้อนหรือหมู่เกาะดงนันเอง เนื่องจากไกลต้องเสียค่าน้ำมันมาก


มาถึงแล้วหินซ้อน เหมือนน้องหมาอย่างที่คุณ Happy Holiday ว่าไว้มั๊ย ?


ครั้งนี้เรือไม่ได้อ้อมไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร มุมนี้ก็ยังไหว เรือแล่นเข้าไปใกล้จนรู้สึกว่ามันใหญ่จริงๆ


มีสาวบางคนอยากจับมันด้วยมือเปล่าๆด้วย แต่มุมยังไม่ให้เท่าไหร่


และแล้วหลังจากดูหินซ้อนเสร็จ เรือก็พากลับมาบริเวณใกล้ๆนี้แหล่ะ ละแวกนี้เขาเรียกหมู่เกาะดงกัน เราจะมาดำน้ำดูปะการัง 7 สีจุดนี้เป็นจุดที่ 2 ของวัน

พอลงน้ำไปก็เห็นปลาเสือแหวกว่ายเต็มไปหมด แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ "แตนทะเล" หรือ แพลงตอนชนิดหนึ่งที่มีสารที่ทำให้มนุษย์เราแสบๆคันๆไปตามผิวหนัง มาจุดนี้ขอบอกได้เลยว่า แตนทะเลเยอะมากๆๆๆ ผมเจอต่อยทั้งตัวเลย ปากก็เจอ แต่....ไม่เข็ดครับ ก็ในเมื่อใต้ท้องทะเลสวยอย่างนี้จะไปกลัวทำไม กลัวอย่างเดียวคือไม่ได้ภาพสวยๆกลับมาต่างหากหล่ะ


ดำไปครั้งแรกยังหาจุดไม่เจอ เจอแต่ลึกๆลงไปและมีแบบกระจาย ไม่สวย แถมยังน้ำขุ่นอีก แต่พอว่ายไปเรื่อยๆก็เจอเจ้าพุ่มสีแดงสดนี้ขึ้นอยู่ซอยหินเลย


ว่ายข้ามไปอีกนิดหลังหิน ก็จะเจออย่างที่เห็นในรูป เป็นดงเลย สีสันหลากหลายกว่าจาบังเยอะเลย(เหมือนที่คุณแฟนสวยได้เคยบอกไว้)


หลบอยู่ที่หลังหินก้อนใหญ่นี้เอง


สีชมพูสลับขาว สีแดงเข้ม สีส้ม สีเหลือง


ในกลุ่มปะการังอ่อนจะมีดอกไม้ทะเล บ้านของนีโม่แทรกตัวอีกเช่นเคย แถมยังมีปลาสีฟ้าว่ายวนตรวจการเหมือนเดิม


ปะการังอ่อนสีชมพูอย่างกับนมรสสตรอเบอรี่เลยแฮะ


ไม่รู้จะบรรยายอะไรอีกแล้ว


เห็นแล้วแทบละลาย หลากหลายสีทีเดียว


กลับมาดูภาพมุมกว้างมั่ง จะเห็นปะการังอ่อนเกาะอยู่ที่โขดหินสีขาว


จุดปะการังที่หินซ้อนนี้มีเป็นผืน กว้างใหญ่ดี สามารถว่ายไปมาได้


จุดนี้อีกเช่นกัน เห็นหลายๆคนลงมาแล้วก็จับเชือกอย่างเดียวไม่ได้ว่ายเข้ามาดูตรงบรเวณนี้


ปะการังสีส้มอีกแล้ว ช๊อบ...ชอบ


มาดูกลุ่มดอกไม้ทะเลบ้าง แต่แปลก ไม่ยักเจอนีโม่สักตัว คิดถึงจัง เจ้านี่โม่เอ๋ย


ตอนที่ดำน้ำดูปะการังอยู่ไม่เบื่อ พอตอนมาโพสต์รูปก็ไม่เบื่อเช่นกัน มีความสุขที่อยากจะแบ่งปัน


หลากหลายมุมมองและตำแหน่งนะครับ ปะการังอ่อนสีเหลืองนี้แปลกตาเราจริงๆ ไม่ค่อยได้เห็นนัก


บอกได้คำเดียวว่าสวยมาก


สวยกว่าจาบังอย่างที่คุณแฟนสวยว่าไว้จริงๆ


สีส้มกลับมาอีกแล้ว


กลับมาดูภาพมุมกว้างบ้าง


ปะการังสีเหลืองหรือสีน้ำปูนใส รู้สึกจะมีที่นี่แต่ที่จาบังไม่มี


การเรียงตัวอย่างสวยงามหลากหลายสี ใครนับได้ครบ 7 สีบ้าง


สีสันฉูดฉาดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว


ขบจบด้วยภาพสุดท้าย น้ำใจน้องพี่"สีชมพู" ณ จุดดำดูปะการัง 7 สีที่เกาะหินซ้อน แล้วคอยติดตามต่อไปในตอนใหม่ เราจะพาไปทานอาหารเที่ยงที่เกาะที่มีคนเรียกและเขียนผิดมากที่สุดก็ว่าได้นั่นคือเกาะ รอกอย, รอคอย, รอกวย, ลอกอย, ลอกวย ฯลฯ และไปดำดูปะการัง 7 สีต่อที่เกาะผึ้ง ผ่านมาดำดูสัตว์น้ำนานาชนิดที่หาดทรายขาว เกาะราวี และสุดท้ายที่เกาะกะ ก่อนจะทรหดเดินขึ้นจุดชมวิวผาชะโดคนเดียวในตอนเย็นๆของวัน 

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ ราตรีสวัสดิ์ (_/\_)

Original Published on www.pantip.com at [ 29 มี.ค. 50 22:55:07 ] as below link
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/03/E5272684/E5272684.html



เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น