พระอาทิตย์ค่อยๆสาดแสงแรงขึ้นเรื่อยๆสู่ท้องทุ่งสีเขียวๆพร้อมๆกับบ้านหลังน้อยๆของชาวชนบทสวิสเซอร์แลนด์
ประมาณเก้าโมงครึ่งก็มาถึงสุดสายของรถไฟ ณ เมืองเซอร์แม็ท(เซมัท) ผมเข้าไปติดต่อเรื่องจองรถไฟสาย Glacier Express ในวันพรุ่งนี้ที่เราจะต้องเดินทางไปเมือง Chur ไว้ก่อน ค่าจอง 30 CHF ต่อคน แพงมากๆ แล้วก็ถามเรื่องค่ารถแท็กซี่ไปส่งที่ Hostel ที่จองไว้ ราคา 18 CHF เลยกัดฟันลากกระเป๋าไปเองดีกว่า
เดินลากกระเป๋าอันใหญ่ ไม่ถึงไหนดีก็รู้สึกถึงความเหนื่อยและความหนักมากๆ ไกลก็ไกล ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟไปที่พัก Hostel Matterhorn วันนี้จำไปอีกนาน แต่กระนั้นก็ยังแลกมาด้วยวิวเขา Matterhorn ขี้อายสวยๆ อยู่เบื้องหลังนั้น
ซูมเข้าไปใกล้ๆ รอถ่ายตั้งนาน ยังไงๆ ก็ไม่เห็นภาพภูเขาแบบเคลียร์ๆ สักที
ที่พักที่นี่เขาให้เช็คอินหลังจากเวลา 16:00 น.เป็นต้นไป ดังนั้นเราทำได้เพียงแค่ฝากกระเป๋าเท่านั้น แล้วค่อยมาเช็คอินใหม่หลังจากไปขึ้นเขากอนนากราด
เดินกลับมาย้อนเส้นทางเดิมเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟขึ้นเขาสาย Gornergrat ยามนี้เจ้า Matterhorn ก็ยังขี้อายเช่นเดิม ไม่ยอมโผล่หัวมาจากเมฆและหมอกที่ปกคลุม
ช่วงนี้ไม่ว่าจะถ่ายรูปวิวไหน เจ้า Tower Crane ก็ตามมาติดแทบทุกเฟรม เนื่องจากมีการสร้างที่พักและโรงแรมเยอะมากๆ รถสิบล้อก็วิ่งกันฝุ่นตลบทั่วเมืองไปหมด เสียดายไม่ได้ถ่ายรถสิบล้อมาด้วย
มาถึงสถานีขายตั๋วรถไฟขึ้นเขากันแล้ว สถานีตั้งอยู่ตรงข้ามสถานี Zermatt ที่เราเพิ่งลงมาเลย
ซื้อตั๋วไปกลับ(สวิสพาสลด 50%) เสร็จก็เข้าไปขึ้นรถไฟตามเวลาที่แจ้งไว้ แล้วรถไฟฉึกฉักก็ค่อยๆไต่เขาไปอย่างช้าๆ
ในภาพที่เห็นเราจะต้องโค้งขวาเพื่อวิ่งไปตามรางโดยมีหลังคาไม้ครอบอยู่ ทำคล้ายๆกับอุโมงค์
แล้วก็มาถึงสถานี Gornergrat สถานีปลายทางบนยอดเขา ลงจากรถไฟมาก็หนาวทันที
ก่อนจะเดินขึ้นไปขอถ่ายรูปจุดชมวิวที่สถานีก่อน
ผู้คนมาออยืนถ่ายภาพเขาแม็ทเธอร์ฮอร์นเต็มไปหมด เขาแม็ทเธอร์ฮอร์นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ห่างกันไม่นานก็จะมีรถไฟอีกขบวนแล่นขึ้นเขามาพอดี
เจอแล้วหล่ะ เจ้าหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่จะมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่ด้วย แต่ต้องเสียเงินนะครับ ผมเลยถ่ายเฉพาะมันมาเท่านั้น
เดินขึ้นไปยังส่วนของอาคารกันเลย
ขึ้นมาแล้วก็มองย้อนลงกลับไปที่สถานี คนเยอะทีเดียว
ข้างนอกอากาศหนาวยิ่งนักแต่พอเข้ามาภายในอาคารก็อุ่นขึ้นมาทันที ชั้น 2 นี้จะเป็นร้านอาหาร
หิวเล็กน้อย เลยสั่งไส้กรอกกับมันทอดมาทาน
จนแล้วจนรอดเจ้าเขา Matterhorn ก็ไม่เคลียร์ให้เราถ่ายแบบเต็มๆ มีเมฆลอยมาบดบังตลอดเวลา
ด้านนี้เป็นอะไรไม่ทราบ เห็นมีทางเดินเป็นรอยเท้าไปตามธารน้ำแข็งด้วย
โบสถ์เล็กๆที่อยู่บนเขาครับ
เกือบๆบ่ายสองเราก็เตรียมตัวลงกันแล้ว เจอน้องหมาที่ว่างงานไม่มีคนมาถ่ายรูปด้วย เลยนอนหง่าวซะงั้น
พอตอนขาลงในรถไฟก็มีโอกาสเก็บภาพ Matterhorn ที่พอเห็นยอดมาได้เท่านี้ หลายๆคนรีบลดกระจกหน้าต่างและถ่ายภาพกันใหญ่
วิวทางรถไฟที่เราจะต้องลงไป
ระหว่างทางลงเห็นน้องแกะแออัดพากันหลบแดด โชว์บั้นท้ายกันใหญ่
แล้วก็มาถึงสถานีกอนนาการ์ด ลงเดินกลับที่พักต่อไป
ลงมาที่พื้นปกติ เจอรถลากม้ากำลังแล่นสวนมา ข้างๆก็จะมีทำทางอยู่เล็กน้อย แต่เชื่อมั้ยครับ ทำทางแป๊บเดียวก็เสร็จ
แล้วก็เดินกลับมาที่พักเพื่อเช็คอินอีกครั้ง ผ่านโบสถ์ประจำเมืองสวยงามด้านขวามือ
และสุสานด้านซ้ายมือของเหล่านักท่องเที่ยวที่มาจบชีวิตลงจากการพิชิตเขา Matterhorn แห่งนี้
แปลกจัง พบตุ๊กตาแม่มดเต็มไปหมดในเมืองนี้
และดอกไม้สวยๆ
เราเจอรถม้าอีกคันแล้วครับ กุบกับๆๆๆๆ
แวะเลือกซื้อนาฬิกาที่ร้านนี้ซะหน่อยครับ มีวัวสีฟ้าตัวใหญ่หน้าร้าน อิอิ
พอหกโมงเย็นร้านต่างๆก็ทะยอยกันปิดแล้ว เราเลยไม่รู้จะเดินไปไหน เลยต้องกลับที่พักแต่หัววัน ขอจบด้วยภาพรถม้าที่ส่วนใหญ่โรงแรมดังๆจะนำมาใช้รับแขกที่มาพักที่นี่จากสถานีรถไฟครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น