วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2549

Big Trip ครั้งที่สอง (8 วัน 7 คืน) ตอน 6 จากเมืองสามหมอก(แม่ฮ่องสอน) มุ่งสู่ แม่สะเรียง...วันที่หก


วันนี้หลังจากเที่ยววัดในเมืองแม่ฮ่องสอนที่เหลือ ผมหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปค้างที่อุทยานแห่งชาติสาละวินหน่วยท่าตาฝั่งให้ได้ เพราะหาข้อมูลจากเว็บไซท์แล้วพบว่ามีหาดแท่นแก้ว เป็นหาดทรายขาวละเอียดริมแม่น้ำสาละวิน เหมาะแก่การกางเต็นท์นอนสัมผัสธรรมชาติเป็นยิ่งนัก แต่เป็นเพราะตัวเองโอ้เอ้เสียเวลาในการคุยกับพี่ๆที่พนาฮัทส์นานเกินไป เลยทำให้ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนช้า เลยไปถึงท่าเรือที่บ้านแม่สามแลบก็เย็นแล้วคือหกโมงเย็น หมดเวลาล่องเรือในแม่น้ำสาละวินพอดี


วันนี้ตอนเช้ามีพี่ศรีไทยกับน้องซึ่งเป็นหลานเจ้าของพนาฮัทส์มาเป็นเพื่อนคุยกันอย่างเมามันทั้งเรื่องท่องเที่ยวในเรื่องอื่นๆ

แต่ก่อนหน้านั้น เช้าตรู่ยายน้องแป้ง แม่น้องแป้ง และน้องแป้งนำ CD เพลงเจ้าแม่กวนอิมกับต้นอั่งเปามาฝากเราด้วย ขอบคุณมากครับ

อย่างที่รู้ มาแม่ฮ่องสอนครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว คงเหลือวัดอยู่ไม่กี่วัดในตัวเมืองที่เรายังไม่ได้ไป ครั้งนี้เราไปวัดกำก่อกันดีกว่า


วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอนเหมือนกัน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2433 มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามไม่แพ้วัดอื่น โดยเฉพาะลักษณะพิเศษที่มีหลังคาคลุมทางเดิน ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าไปสู่ศาลา ดังที่เห็นในภาพ


เจดีย์ที่วัดวัดก้ำก่อ (เป็นภาษาไตแปลว่า ดอกบุนนาค)


พระประธานภายในศาลา


เดินออกมาด้านนอกจะเจอกับรูปแกะสลักไม้ น่าจะเป็นวรรณคดีชาดก


ต่อจากนั้นจึงไปยังวัดหัวเวียงหรือวัดกลางเมือง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2406


เข้าไปไหว้พระในศาลากันครับ


มาที่แม่ฮ่องสอนก็จะเจอกับพระพุทธรูปศิลปะแบบไทยใหญ่แทบทั้งสิ้น พระพักตร์งดงามไปอีกแบบหนึ่ง


ย้อนกลับมาที่วิหารพระเจ้าพราละแข่ง 
จัดเป็นสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ที่งดงามมากอีกแห่งหนึ่ง สันนิษฐานว่าสร้างในคราวเดียวกับการสร้างวัด โครงสร้างทั้งหมดของวิหารใช้ไม้เป็นวัสดุ ลักษณะเด่นคือหลังคาแบบเรือนยอดทรงปราสาทซ้อนห้าชั้น ตอนบนสุดประดับด้วยฉัตรทำจากโลหะ หลังคามุงกระเบื้องไม้และมีสังกะสีฉลุประดับตามแบบศิลปะไทยใหญ่


พระเจ้าพาราละแข่ง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องประจำเมืองที่งดงามมาก มีประวัติว่าหล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” ซึ่งเป็นเจ้าพาราละแข่งองค์จริง ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า โดยลุงจองโพหย่า เดินทางไปนิมนต์มา พระเจ้าพาราละแข่งองค์นี้สร้างเป็นท่อนๆ ทั้งหมด 9 ท่อน ล่องมาตามแม่น้ำปาย แล้วนำมาประกอบที่วัดพระนอนและนำมาประดิษฐานที่วัดหัวเวียง หรือวัดกลางเมือง ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง ปัจจุบัน วิหารที่ประดิษฐานพระเจ้าพาราละแข่ง สร้างใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังคงโครงสร้างของวิหารตามรูปแบบเดิมไว้ สำหรับพระเจ้าพราลาแข่งเปิดให้เข้าชมและนมัสการได้เฉพาะในวันพระเท่านั้น ดังนั้นในวันนี้ที่เราเข้าไปชม จึงได้แต่กราบไหว้นอกประตูเหล็กมา แต่ก็ด้วยความสามารถเอากล้องสอดไปถ่ายรูปมาดังที่เห็นครับ


มาที่เมืองสามหมอกแม่ฮ่องสอน 3 สิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องมากราบไหว้คือ วัดจองคำจองกลาง วัดพระธาตุดอยกองมู และพญาสิงหนาทราชา ท่านนี้


ก่อนออกเดินทางไกลไปแม่สะเรียง และบ้านแม่สามแลบ ก็ต้องมีอะไรรองท้องกันก่อน เป็นร้านอาหารในตัวเมืองครับ มีทั้งข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ผมเลือกข้ามมันไก่


เราออกจากตัวเมืองก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว อันนี้คือข้อผิดพลาด ระหว่างทางไปแม่สะเรียงถนนทำลังซ่อมและราดยางอยู่ สภาพดังที่เห็น แย่เอามากๆ แถมเจอรถสมบัติทัวร์ที่ขับจะไปกทม.ขับแบบแย่เอามากๆด้วย ผมเลยขับตามหลังตลอด ไม่ยอมให้แซงไปไหนเลย


บ่ายห้าโมงเราก็มาถึงยังแม่สะเรียง ในใจคิดว่ายังทันที่จะไปลงเรือที่บ้านแม่สามแลบ


จากแม่สะเรียงนั้นต้องขับต่อไปบ้านแม่สามแลบอีก 35 กม. เส้นทางคดโค้งขึ้นเขา แต่ทางพอใช้ ผมเร่งความเร็วตลอดเกรงว่าจะไปไม่ทันเวลา
เราไปถึงที่ท่าเรืออีก 5 นาที 6 โมงเย็น ถามชาวไทยใหญ่ที่นั่งกินหมากปากแดงอยู่ ว่าต้องไปขอทหารนำเรือออกด้านบน ผมรีบวิ่งกระหืดกระหอบไปหาเพื่อจะขออนุญาตไปอช.สาละวินหน่วยท่าตาฝั่ง พี่ทหารคนอื่นบอกว่าใช้เวลาประมาณ 30 นาที น่าจะยังพอไปได้ แต่ให้รอหมู่ก่อน พอหมู่ออกมา ผมอ้อนว่าขับรถมาจากกทม.เพิ่งถึง อยากไปมาก ตอนนี้ก็ยังไม่เลยเวลา 6 โมงเย็น แต่พี่หมู่ไม่ให้ไป คงเกรงเรื่องความปลอดภัย แล้วบอกให้เราไปในวันรุ่งขึ้นละกัน ผมนี่ผิดหวังสุดๆ อันนี้เป็นไฮไลท์เลยนะเนี่ยที่จะไปนอนกางเต็นท์ที่หาดแท่นแก้ว อช.สาละวินอย่างสงบๆ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะไปไม่ได้แล้ว :(


เดินลงมาด้วยความผิดหวัง เดินถ่ายรูปท่าเรืออันโหรงเหรง


อีกรูปครับ


ณ ที่แห่งนี้ ถือเป็นดินแดนตะวันตกสุดที่คนสามารถเข้าไปได้ริมแม่น้ำสาละวินชายแดนไทย-พม่า


หลังจากผิดหวังที่จะไปกางเต็นท์ที่อช.สาละวินหน่วยท่าตาฝั่ง เราจึงต้องกางเต็นท์นอนที่นี่ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติสาละวินเหมือนกัน แต่คนละพื้นที่ ก่อนจะเริ่มเดินทางล่องสาละวินทวนน้ำขึ้นไปยังบ้านท่าตาฝั่งในวันรุ่งขึ้น
แล้วรอติดตามชมนะครับ

Original Published on www.pantip.com at  [ 21 ม.ค. 49 11:46:52 ] as below link
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2006/01/E4041801/E4041801.html


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น