หลังจากที่กล้องผมออกอาการเอ๋อๆ ตอนกลับมาจากทริปเลตรัง ผมเองก็ยังไม่มีแม้เวลาจะเอากล้องดังกล่าวไปซ่อมที่ศูนย์แคนอน กอปรกับช่วงนั้นมีเรื่องหลายๆอย่างรุมเร้าเข้ามาในชีวิต เลยต้องขอพักการออกตะลอนไปชั่วขณะ ดังที่เพื่อนบางคนเห็นได้จากชื่อตอน sign in ที่ MSN ว่า "หยุดตะลอนไม่มีกำหนด" แต่โชคก็ยังพอที่จะเข้าข้างผมบ้าง อะไรหลายๆอย่างคลี่คลายไปด้วยดี ผมพอที่จะมีเวลาปลีกตัวไปข้างนอกบ้าง หลังจากที่เต็มใจอยู่บ้านงดเที่ยวมาเกือบ 2 เดือนเต็ม
เล็งๆไว้คงหนีไม่พ้นงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ของชาวด่านซ้าย จ.เลย ปีนี้ต้องไปให้ได้ เพราะไปมาแล้วตอนปี 48 เป็นงานประเพณีที่สนุกมาก ทั้งงานมีแต่เสียงหัวเราะ รอยยิ้มเปื้อนเต็มใบหน้านักท่องเที่ยวจากแดนไกลตลอดสองแก้ม น่าเสียดายที่ปีที่แล้วผมก็มีเรื่องทุกข์ใจอีก เลยไม่ได้ไปร่วมงานประเพณีปีที่แล้ว ปีนี้ก็คงต้องถ่ายโทษอีกเช่นเคย
ก่อนไปงานผีตาโขนครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นงานที่ผมเตรียมอุปกรณ์ต่างๆอย่างครบครันเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อ Inkjet Printer และกระดาษโปสการ์ดเพื่อมาพิมพ์โปสการ์ดที่ถ่ายจากฝีมือตัวเองครั้งที่ไปมาเมื่อสองปีก่อนมาเตรียมไว้เพื่อไม่ให้พลาดก่อนส่งกลับมา ไม่อยากจะแอบๆไปพิมพ์ที่บริษัทแล้ว เกรงใจจริงๆ และที่สำคัญกว่านั้นคือ ปีนี้ทางบริษัทไปรษณีย์ไทยได้เล็งเห็นว่าเป็นประเพณีที่ควรอนุรักษ์ไว้ เลยได้ฤกษ์พิมพ์สแตมป์ชุดงานประเพณีผีตาโขนขึ้นเป็นปีแรก มีจำหน่ายวันแรกคือวันเริ่มงานในวันที่ 23 มิถุนายน 2550 ถ้าโชคดีวันที่ไปนี้มีขาย เพื่อนๆที่จะได้รับโปสการ์ดจะได้โปสการ์ดที่ติดสแตมป์ชุดผีตาโขนนี้ไปด้วยเลย
โปสการ์ดก็ได้แล้ว สแตมป์ก็มีเตรียมไปแล้ว(กรณีไม่มีสแตมป์ผีตาโขนขาย)จะขาดก็แต่อุปกรณ์สำคัญที่สุดนั่นก็คือ กล้องถ่ายรูปนั่นเอง เพราะกล้องก็ยังไม่ซ่อม คงไม่มีใช้ทันงานแน่นอน ครั้นจะไปแบบไม่มีกล้องก็คงไม่ใช่ผมแน่นอน สู้ไม่ไปซะดีกว่า ทำอย่างไรดี เล็งๆไว้ก็ค่ายหนอนเหมือนเดิม ตัดสินใจอยู่หลายๆครั้ง จึงลงตัวเมื่อวันอาทิตย์ก่อนไปเพียง 1 สัปดาห์ สงสัยต้องลองกล้องใหม่ไปด้วยถ่ายไปด้วยหล่ะมั้งคราวนี้
เวลา 05:32 น. แสงแรกของวันใหม่เริ่มทาบขอบฟ้าแล้ว ขณะนั้นกำลังอยู่หล่มสักพอดี เลยได้จอดรถลองกล้องใหม่กับแสงแรกของวัน ดูซิว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
ขับมาตอนกลางคืน แมลงตามท้องนาเยอะมาก เลยได้เศษของมันติดตามกระจกหน้ารถไปเที่ยวด้วย GPS GARMIN iQue 3600 บอกกับเราว่าจะไปถึงวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย วัดที่มีพิพิธภัณฑ์เรื่องราวผีตาโขน เวลาประมาณ 7:58 น.
เรามาถึงที่ลานจอดรถ อ.ด่านซ้าย จริงๆประมาณ 8:05 น. โดยรวมแล้วใช้เวลาเดินทาง กรุงเทพ(บางนา)-ด่านซ้าย = 5 ชม. 15 นาที
หน้ากากผีตาโขนอันแรกของปีนี้ที่ผมได้เก็บภาพซึ่งติดไว้ที่ร้านข้างทางสายที่ไปที่ทำการอ.ด่านซ้าย เส้นที่มีการละเล่นกัน
ปีนี้เรามาถึงเช้าเลยมีเวลาเดินชมพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนที่อยู่ภายในวัดโพนชัย ไม่เหมือนกับปีก่อน ที่มาถึงก็ 10 โมงกว่าแล้ว ขบวนกำลังจะเดินพอดี
กล่าวกันว่า การแห่ผีตาโขนเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่า กลับสู่เมืองบรรดาผีป่าหลายตนและสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกกันว่า "ผีตามคน" หรือ "ผีตาขน" จนกลายมาเป็น "ผีตาโขน" อย่างในปัจจุบัน
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า
ต้นกำเนิดของพิธีผีตาโขนนี้ไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัด แต่ก็พอที่จะท้าวความไปยังตำนานทางพุทธศาสนา ได้ว่า ในชาติก่อนหน้าที่จะถือกำเนิดมาเป็นพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงถือกำเนิดเป็นเจ้าชาย ผู้เป็นที่รักยิ่งของ ทวยราษฎร์ ทรงพระนามว่า พระเวสสันดร กล่าวกันว่าพระองค์ทรงเสด็จออกนอกพระนครไปเป็นเวลานานเสีย จนเหล่าพสกนิกรของพระองค์ลืมพระองค์ไปแล้ว และยังคิดว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ไปเสียแล้วด้วยซ้ำไป แต่จู่ๆ พระองค์ก็เสด็จกลับมา พสกนิกรของพระองค์ต่างปลื้ม ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันเฉลิมฉลองการ เสด็จกลับมาอย่างเอิกเกริกส่งเสียงดังกึกก้อง จนกระทั่งปลุกผู้ที่ตายไปแล้วให้มาเข้าร่วมสนุกสนานรื่นเริงไปด้วย
ผีตาโขน ในขบวนแห่จะแยกเป็น 2 ชนิดคือ ผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนเล็ก
ผีตาโขนใหญ่ ทำเป็นหุ่นรูปผีทำจากไม้ไผ่สานมีขนาดใหญ่กว่าคนธรรมดาประมาณ 2 เท่าประดับตกแต่งรูปร่างหน้าตาด้วยเศษวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เวลาแห่ คนเล่นจะต้องเข้าไปอยู่ข้างในตัวหุ่น แต่ละปีจะทำผีตาโขนใหญ่เพียง 2 ตัว คือผีตาโขนชาย1ตัวและหญิง1ตัว สังเกตจากเครื่องเพศปรากฏชัดเจนที่ตัวหุ่น ผู้มีหน้าที่ทำผีตาโขนใหญ่จะมีเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะคนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำ การทำก็ต้องได้รับอนุญาตจากผีหรือเจ้าก่อน ถ้าได้รับอนุญาตแล้วต้องทำทุกปีหรือทำติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี
ผีตาโขนเล็ก ผีตาโขนเล็กเป็นการละเล่นของเด็ก ไม่ว่าเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ทั้งผู้หญิงชาย มีสิทธิ์ทำและเข้าร่วมสนุกได้ทุกคน แต่ผู้หญิงไม่ค่อยเข้าร่วมเพราะเป็นการเล่นค่อนข้างผาดโผนและซุกซน
พอเกือบสิบโมงเราก็เดินออกมาจากวัดโพนชัย เพื่อเดินไปตามถนนที่จัดตั้งขบวนผี แต่แล้วขบวนผีชุดดำก็เดินมาเป็นขบวนมาจริงๆ
สงสารน้าๆทั้งสามจังเลย ทาผิวดำแล้วยังไม่พอ ยังจะต้องยืนตากแดดเกือบชม.อีก
แอบบแคนดิดหน้ากากผีตาโขนที่สาวชาวญี่ปุ่นชอบจนถือแนบไว้กับตัว
ผีตนนี้สีชมพู มีสักยันต์ตรงหน้ากากด้วยนะ
แล้วผมก็เดินเข้าไปถ่ายรูปที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนชุมชนบ้านด่านซ้าย เป็นจังหวะพอดีที่เครื่องบินปล่อยนักโดดร่มลงมาทำพิธีเปิด
ผีก็ผีเหอะ สนใจนักโดร่มเหมือนกับคนด้วยนะเนี่ย
กลับมาดูขบวนกันอีก ผีจากช่องแอร์ถือลูกตัวน้อย
มองหน้าหาเรื่อง
ต่อไปไม่บรรยายแล้วนะครับ โพสต์รูปอย่างเดียว ดูเพลินๆ
ลวดลายหน้ากากอันนี้สวยจริงๆ
อีกกลุ่มหนึ่ง
เดินเข้ามาจะทำร้ายหรือเปล่าเนี่ย
ดิ้นๆ
แหม....โชว์อาวุธเชียวน้า
หมากกะแหล่ง คือกระพวนหรือกระดิ่งที่ห้อยด้านท้ายของผีตาโขนเพื่อให้เกิดเสียงเมื่อเดินไปมา เข้ากับจังหวะดนตรี
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เดินขบวนซะที หลังจากรอจนตัวดำแล้ว
ชุดนี้ตลกดี ผู้หญิงใส่แว่นดำยิ้มฟันขาวไม่ใช่คนนะครับ เป็นหุ่น
ส่วนนี่ ทั้งชายและหญิง
โดนผีเล็งเป้า....หึหึ
โทนชมพูแดง
...
..
ง่วงนอน.....z.zzz.....zzzz....zz
ผีโดเรมอน
รวมมิตร
ผีเด็กอีกแย้ววว แต่ดูหน้ากากจะใหญ่กว่าตัวมากนะ
.
ขอแง้มมาดูโลกภายนอกหน่อยนะคร้า.....ข้างในร้อนและอบจังเลยย
เหนื่อยหรือเมื่อยกันเนี่ย...
...
..
ใกล้หมดยังเนี่ย
ผีเด็กอีกแล้ว
ฉายเดี่ยว
ทำไมครั้งนี้ลูกผีตาโขนไม่เหมือนกับพ่อเลยแฮะ
ผีคู่นี้สีเหลือง intrend เชียว
ตุ๊กตาผีตาโขนตัวนี้ตีกลองได้ด้วยนะ
โห....อาวุธน่ากลัวเจรงๆ
ในบรรดาหน้ากากผีตาโขนทั้งหมด ผมชอบสีแดงที่สุด ให้ภาพที่สีสันสดใส ได้ใจมากๆ
และแล้ว งานเลี้ยงก็มีวันเลิกลา.....ผีตาโขนทะยอยเดินกลับไปที่วัดโพนชัย แต่ก็ยังสนุกกันต่อ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างก็ทะยอยกันกลับจนรถติดขาที่จะไปภูเรือ สักพักฝนเจ้ากรรมก้ดันตกลงมา ดีนะเนี่ยที่งานจบพอดี ไม่งั้นจบเห่แน่ ทั้งช่างกล้องทั้งผีทั้งหลาย
ส่วนเราทั้งสองเห็นว่ารถติดเลยหาร้านก๋วยเตี๋ยวนั่งทานไปพลางๆพร้อมกับเขียนโปสการ์ดและติดสแตมป์ชุดผีตาโขน ซึ่งปรากฏว่ามีขายจริงๆด้วย ชุดละ 110 บาท พอเขียนเสร็จก็กลับเข้าไปที่หน้าที่ว่าการอำเภอใหม่ ไปส่งโปสการ์ดพร้อมกับซื้อเสื้อผีตาโขนมาใส่ ซึ่งปีก่อนก็ซื้อไป(จริงๆแล้วผมก็ใส่เสื้อปี 48 ไปงานแหล่ะ) ซื้อพวงกุญแจและแก้วลายผีตาโขน ต่อจากนั้นเปลี่ยนแผนยังไม่แวะพระธาตุศรีสองรัก โดยไปที่เชียงคานแทน แล้วค่อยมาชมบรรยากาศเชียงคานกันอีกครั้งในกระทู้หน้าครับ
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นกัน กระทู้นี้อาจจะอืดไปหน่อยเพราะต้องการจบรูปผีตาโขนภายในกระทู้เดียว และรบกวนใครที่ได้รับโปสการ์ดเข้ามาลงชื่อในกระทู้นี้เมื่อได้รับถึงมือแล้วครับ ขอบคุณครับ (_/\_)
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น