วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เวียดนาม(เหนือ)...ฮานอย-ซาปา-ฮาลองเบย์ ตอน 4 เดินทาง 4 ชั่วโมงเพื่อไปอ่าวฮาลอง มรดกโลกของเวียดนาม


วันนี้เป็นวันที่ 4 ของทริปเวียดนามแล้วครับ หลังจากเมื่อวานค่ำเราได้เดินทางออกจากสถานีรถไฟเลาไค ทางตอนเหนือติดชายแดนจีนของเวียดนาม รถไฟก็พาเรามาถึงเมืองฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามอีกครั้งประมาณตี 5 ครึ่ง พอรถไฟเทียบชานชาลาสถานีฮานอย เราทั้ง 4 คนเดินออกมาจากสถานีพร้อมกับมีคนขับแท๊กซี่เข้ามาสอบถามว่าจะไปไหน ผมเลือกอยู่นานจนไปถามคนขับว่าเราจะไปที่โรงแรม Rising Dragon Grand คนแรกบอกผ่านราคาเยอะมากเป็นแสนดอง เลยไปถามอีกคนจนต่อรองเหลือ 70,000 VND เป็นอันว่าตกลง

ช่วงเช้าๆแบบนี้ถนนที่ฮานอยโล่งมาก รถขับสบายไม่นานประมาณ 10 นาทีก็พาเราทั้ง 4 คนมาถึงที่โรงแรมย่านโอลควอเตอร์ หรือถนน 36 สาย ย่านคล้ายๆตรอกข้าวสารบ้านเรา เข้าไปเช็คอินที่โรงแรมก็จะมีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับเรา โดยที่ฝากของได้ ส่วนเข้าห้องต้องรอตอนช่วงบ่าย ซึ่งเราก็ทราบดี แต่ขออาบน้ำชำระร่างกายกันก่อน ก็ใช้ได้โดยไม่เสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด

วันนี้ตามโปรแกรมเราจะไปเที่ยวอ่าวฮาลองหรือ ฮาลองเบย์กัน โดยทัวร์จะนำรถมารับที่โรงแรมนี้ตอนประมาณ 8 โมงเช้า อาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวมารอที่ล๊อบบี้หน้าโรงแรม แต่เนื่องจากพรุ่งนี้เราจะต้องเช็คเอาท์แต่เช้าตรู่เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินจึงไม่มีเวลาทานอาหารเช้าของโรงแรม ทางโรงแรมจึงให้เลือกว่าทานมื้อเช้าในวันนี้ก่อนแทนได้ ซึ่งเราก็ตอบตกลงและรู้สึกดีกับโรงแรมมากๆครับ


ทานอาหารเช้าเสร็จมานั่งรอ... 8 โมงก็แล้วเอ๊ะ ทำไมรถยังไม่มาซะที ร้อนใจกลัวตกรถ ก้เลยให้ทางรีเซฟชั่นโทรไปถามตามเบอร์ของทัวร์ ได้ความว่ากำลังไปรับคนอื่นๆกำลังมา รอดตัวไป

รถมารับจริงๆ 8 โมงเกือบครึ่ง จะมีน้องผู้หญิงเสื้อสีแดงเดินมาถามที่โรงแรม เป็นอันว่าใช่ทัวร์เรา ก็ไปขึ้นรถกัน รถตระเวนรับนักท่องเที่ยวอีกสักพักก็เดินทางออกถนนใหญ่ จะบอกว่ามีนักท่องเที่ยวคนไทยมาด้วยอีกครับ


รถผ่านอาคารทรงกระบอกคล้ายๆ ป้อมปราการ ดูเก่าๆแปลกตาดี


ผ่านร้านตัดผมท่านชายแบบโอเพ่นแอร์ คงเย็นสบายดีจัง side road barber


ไกด์สาวบอกกับนักท่องเที่ยวว่าเราจะแวะพักกลางทางที่ศูนย์หัตถกรรมคนพิการ มีห้องน้ำ เลือกซื้อสินค้า หรือจะบริจาคเงินก็ได้ตามกำลังทรัพย์ 


งานแกะสลักสวยงามจริงๆ


หลายคนทำผลงานอย่างขมักเขม้น ผลงานก็ออกมาสวยไม่แพ้คนปกติเลยครับ


มีทั้งภาพวาด และอื่นๆ ให้เลือกซื้อตามใจชอบ


 เที่ยงครึ่งรถก็พานักท่องเที่ยวมาถึงท่าเรือแล้ว ไกด์สาวนำพวกเราเดินไปที่อาคารข้างหน้านี้ ต้องซื้อตั๋วเรือก่อนโดยไกด์จัดการให้หมด ยืนรออย่างเดียวครับ


เรือเราลำไหนเนี่ย? ท่าเรือเขาสะอาดดีครับ ถ้าเป็นพี่ไทยก็คงต้องมีขยะเยอะแยะเชียว


เรือเราจอดอยู่ตรงนี้เอง เดินลงเข้าไปนั่งกันเลยครับ


อ่าวฮาลองดูแล้วก็คล้ายๆกับอ่าวพังงาในไทยเรา มีเขาหินปูนน้อยใหญ่เรียงตัวกลางอ่าวอยู่รายรอบ แต่ที่นี่จะกว้างกว่าในไทยเรา แต่บรรยากาศคล้ายกันมากครับ


พอแต่ละคนเลือกโต๊ะนั่งกันแล้ว ก็จะมีอาหารมาเสริฟกันเลย พอดีกับเรือแล่นออกจากท่า อาหารก็อย่าไปคาดหวังมากครับ พอทานได้แต่รสชาติจะออกแนวเค็มหลายเมนูเลย เรื่องกุ้งหรืออาหรทะเลสดๆบอกเลยไม่มี หรือเจ้าอื่นมีก็ไม่รู้แฮะ


เรือดูดทรายหรือเปล่านะ


เรือแล่นไปด้วยความเร็วปานกลาง เริ่มกำลังเข้าช่องแคบตรงข้างหน้าแล้ว


เรือน้อยใหญ่หลายลำมุ่งหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน วันนี้ทัวร์ลงเยอะมากทีเดียว เพราะเป็นวันเสาร์หรือเปล่าไม่แน่ใจ


ไกด์บอกนักท่องเที่ยวให้หันไปดูเขาคล้ายสุนัข ซึ่งก็เหมือนจริงๆนะครับ


และไฮไลท์อีกจุดหนึ่งก็คือ ไกด์บอกให้หยิบธนบัตรฉบับละ 200,000 VND มาดู จะเห็นรูปในธนบัตรคือเขาที่อยู่ตรงหน้านั่นเองครับ ใช่จริงๆด้วย


และก็มาถึงจุดที่เรือต้องจอดพักเพื่อให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน หรือพายคายัคกัน ซึ่งราคาพายคายัคนั้นได้รวมอยู่ในราคาทัวร์อ่าวฮาลองไปแล้ว ไม่ต้องเสียอีก แต่ก็มีปัญหาเล็กน้อยเหมือนกัน ซึ่งคนที่ดูแลเรือคายัคไม่ยอมให้พายฟรีบอกต้องเสียอีก 20,000 VND ค่าที่ต้องจ่ายให้เจ้าหน้าที่เวลาพายลอดถ้ำที่อยู่ไกลออกไป ไกด์เราช่วยเข้าไปคุยอยู่นานพอควร สุดท้ายยอมแต่ให้นักท่องเที่ยวสัญญาว่าจะไม่พายลอดถ้ำที่อยู่ไกลออกไปเพราะเจ้าหน้าที่เขาจะเก็บเงินเจ้าของคายัค เราก็โอเคไม่ได้พายไปไกลขนาดนั้น


จริงๆแล้วถ้าลักษณะเรืออย่างนี้มันคือเรือแคนูหรือเปล่านะ ไม่เหมือนคายัคที่เคยพายในภาคใต้ของไทยเรา พายไปไม่ไกลมากนักเพราะกลัวเตลิดครับ ก็พายใกล้ๆรอบๆ สนุกดี พายได้เกือบๆครึ่งชั่วโมงก็กลับเข้าโป๊เพราะเหนื่อย 555


บริเวณนี้จะมีแพของชาวประมงอยู่เยอะเลย พวกเขาอาศัยอยู่แถวนี้หล่ะครับ คล้ายๆเกาะปันหยีที่อ่าวพังงาเรา


หลังจากพายเรือคายัคกันจนเหนื่อย เรือก็แล่นพามาที่นี่เป็นที่สุดท้ายของทัวร์ นั่นคือถ้ำเด่าโก๋(Dao Go) หรือถ้ำสวรรค์ เรือจอดเทียบท่าแล้ว ก็เดินต่อไปตามทางเดินเลยครับ


ก่อนเข้าถ้ำก็ต้องมีการบรรยายสรุปประวัติของถ้ำและอื่นๆกับคนในกรุ๊ปทัวร์กันก่อนครับ ไกด์น้องคนนี้โอเคเลยครับ เทคแคร์ดี (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ต้องเดินขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับ


ถ่ายกับป้ายทางเข้า (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


เข้าไปข้างในก็ถึงกับตะลึงกับความสวยงามของแสงไฟหลากสีที่คนเวียดนามเขาทำไว้ เมืองไทยเราน่าจะประดับแสงสีแบบนี้ในถ้ำบ้างนะครับ เข้าไปหลายถ้ำมีแต่ไฟธรรมดาดูไม่ดึงดูดเอาซะเลย (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ดูไปเรื่อยๆครับ ที่จริงทางไกด์เขาสามารถเล่าเรื่องราวแล้วเปรี่ยบเทียบหินงอกหินย้อนต่างๆกับตัวละครที่เล่าเรื่องไปได้อย่างลงตัวมากๆครับ แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว น่าจะคล้ายตำนานของเวียดนามเขา (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


อันนี้สีม่วงสวยมาเชียว (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ดูเป็นมิติมากๆเลยนะครับ ต้องขอชมเชยคนที่ประดับไฟ (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ดูไปไม่เบื่อครับ และอีกอย่างไม่เหม็นขี้ค้างคาวเหมือนถ้ำในไทยเรา (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ตรงจุดนี้เป็นจุดที่มีแสงภายนอกลอดป่านเข้ามา ดูแล้วคล้ายๆถ้ำอุสุที่จ.ตากบ้านเรา ยังไงยังงั้นเลย (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


เหมือนเต่ามั้ยครับ มีคนเอาเงินไปวางไว้บนกระดองมันด้วย (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


อีกจุดที่สวยงามด้วยไฟสีฟ้า ไกด์บอกว่าเป็นหมีพูห์นอนหงาย เห็นหัวแหลมๆมั้ยเอ่ย? (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ตรงนี้มองไปด้านบนตรงกลางเหมือนชายหญิงยืนคู่จับมือกันอยู่ (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


ดูที่เงานะครับ เหมือนหญิงสาวมั้ยเอ่ย? (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)


คราวนี้มาดูหินแปลกๆชุดสุดท้ายก่อนจะออกจากถ้ำกัน เห็นอะไรมั้ยครับ?? (ถ้ำสวรรค์ หรือ ถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) ฮาลองเบย์)

แท่งสีฟ้าๆ คือของผู้ชาย และกลมๆมีปุ่มตรงกลางด้านล่างสีส้มๆ คือนมของผู้หญิงนั่นเอง ถ่ายมาแบบคู่กัน ออกจะดูทะลึ่งเล็กน้อย ไกด์สาวไม่ได้เฉลยให้นักท่องเที่ยวแต่ให้ตอบกันเอง 555


ออกจากถ้ำมาก็จะเป็นวิวมุมสูงมองเห็นเรือหลายลำกำลังจอดอยู่ที่ท่านี้เพื่อมาชมถ้ำสวรรค์ และฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปเห็นสะพานแขวนอยู่ลางๆ


ลงมาด้านล่างก็จะมีม้าหินให้นั่งชมวิวด้วยครับ งั้นขอแวะถ่ายซะหน่อย


หลังจากเสร็จจากชมถ้ำสวรรค์ เรือก็แล่นกลับเข้าฝั่ง ต่อจากนั้นก็ต้องรอรถที่จะกลับไปฮานอย แต่รถไม่อยู่ ไปไหนก็ไม่รู้ เซ็งไปตามๆกัน ร้อนก็ร้อน นักท่องเที่ยวเลยต้องหาร้านว่างๆนั่งรอรถกัน ส่วนใหญ่จะสั่งไอศครีมที่ตู้ไอศครีมกินฆ่าเวลา พอสักพัก 10-15 นาทีรถก็มา ไม่รู้หายไปไหน ไกด์สาวต้องขอโทษขอโพยใหญ่ โอเคไม่เป็นไรครับ

รถมาถึงก็ขึ้นรถกัน นั่งจนก้นเมื่อย เพราะต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงด้วยกันถึงจะถึงฮานอย แถมฝนตกอีกเลยช้ากันไปใหญ่ สุดท้ายมาถึงฮานอย 2 ทุ่มนิดๆ รีบเข้าโรงแรมที่พักก่อนเลยครับ สัมภาระต่างๆเจ้าหน้าที่โรงแรมเอาเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ห้องขนาดไม่ใหญ่มากแต่สะอาด น่าพัก คืนนี้คงหลับสบาย


เราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเดินหาอะไรทางข้างนอก เพราะยังไม่ได้ทานอาหารเย็นกันเลย มัวอยู่แต่ในรถ ฝนก็ยังตกปรอยๆ สุดท้ายหาร้านอาหารยากมากเพราะทะยอยปิดร้านกันแล้ว เลยไปที่ร้านนี้ ร้าน Vietnam Soul ที่อยู่อาคารเดียวกับคฟฟี้ไฮแลนด์ตอนที่มาในวันแรก สั่งอาหารง่ายๆแล้วของลองเบียร์ไซ่ง่อนซะหน่อย รสชาตินุ่มลิ้นดีครับ แต่แพงไฟหน่อย มื้อนี้หมดไป 335,500 VND 


ก่อนจะกลับโรงแรม ขอไปถ่าย Thap Rua หรือหอคอยเต่ายามค่ำคืนหน่อยครับ เสร็จแล้วก็เดินกลับไปยังโรงแรมที่พัก ไกลมากๆครับ แถมอ้าวด้วย



ปรากฎว่าระหว่างเดินกลับ ฝนปรอยมาอีกแล้ว แต่ไม่รู้จะหลบยังไงก็เดินต่อไป แถมเดินไปโรงแรมยังหลงถนนอีกครับ หาไม่เจอ ยอมรับเลยว่าที่นี่ถนนเหมือนๆกัน หลงง่ายมาก เลยเข้าไปถามตำรวจ ตำรวจก็ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะรู้เรื่องอีก แต่ก็บอกมาจนได้ สุดท้ายกลับถึงโรงแรมอาบน้ำอีก คราวนี้หลับยาวเลย

พอเช้าวันรุ่งขึ้นโปรแกรมก็ไม่มีแล้ว ต้องนั่งรถไปสนามบินอย่างเดียว ต้องตื่นเช้ามืดตี 5 เพื่อรอรถมารับที่โรงแรมไปสนามบินตอน 6 โมงเช้า มีไฟล์ทบิน 9.00 น.ครับ FD 2783 และก็กลับมาถึงไทยโดยปลอดภัยด้วยเวลาบินชั่วโมงกว่าๆ เป็นอันว่าจบทริปเวียดนาม(เหนือ) ที่ได้ไปเยือนจนได้ แล้วค่อยมาชมกันอีกครั้งกับเวียดนามในครั้งที่ 2 คราวนี้จองไปเวียดนาม(ใต้) เมืองโฮจิมินห์ไว้ปีหน้าโน่นเลย แล้วเจอกันใหม่ครับ สวัสดี...

สรุปค่าทัวร์และค่าใช้จ่ายหลักๆ
1.Pick up service from airport = $15/car
2.ตั๋วรถไฟนอนไปซาปา-กลับฮานอย Wooden cabin 4 berths = $32.5x2/person
3.Day Tour to Ha Long Bay = $25/person 
4.Pick up service back to airport = $15/car
5.Hotel in Sapa = $30/room (2 person)
6.Hotel in Hanoi = THB706/room (2 person)
7.เช่ารถมอเตอร์ไซด์ = $6/day 


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ตอนนี้มีเพลนจะไปกัน 2 คนกับพี่ชายครับ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะ ลงเครื่องที่ ฮานอยประมาณ 16:30 อยากนั่งรถไฟไปเลย จะต้องจองตั๋วที่ไหนครับ
    แล้วทัวที่เราจะไป ฮาลองเบย์ เราสามารถ จองที่โรงแรมได้เลย ใช่มั้ยครับ รบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ
    siwawut1985@gmail.com

    ตอบลบ
  2. ลงจากเครื่องแล้วจะไปนั่งรถไฟไปซาปาเลย เกรงว่าจะไม่ทันครับ กว่าจะออกสนามบินอีก
    ส่วนเรื่องจองทัวร์ไปฮาลองสามารถจองที่โรงแรมได้ครับ

    ตอบลบ