วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ทุ่งบัวตอง..ดอยหัวแม่คำ ตอน อีกหนึ่งหนทาง กับความลำบากที่จะไปถึง

ทุ่งบัวตอง ดอยหัวแม่คำ
หลังจากที่เรื่องต่างๆได้ผ่านพ้นไปด้วยดี แพลนที่แต่ก่อนพับเก็บไว้ท้ายๆสมอง ได้ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ทริปนี้ถูกหยิบยกมาแบบฉับพลันในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากเบื่อๆ เหงาๆ คิดถึงคนที่จากเราไป
ผมกลับไปค้นหาข้อมูลจากเว็บ TKT อีกครั้ง จำได้ว่าเก็บข้อมูลการเดินทางคร่าวๆไว้บางส่วนจากเพื่อนสมาชิกที่ไปมาเมื่อเดือนที่แล้วพร้อมกับรูปประกอบ

การค้นหาครั้งนี้ก็ได้กระตุ้นให้ผมอยากไปเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเพื่อนสมาชิกท่านนั้นได้กรุณาอัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดตอนที่เขาไปอีกครั้งเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ 10-11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ครั้งนี้สภาพถนนดีขึ้นจากเดิมมาก จากเดิมที่แนะนำเฉพาะ 4WD อย่างเดียวเป็นตอนนี้สามารถใช้รถกระบะธรรมดาขึ้นได้ ทำให้ผมใจชื้นว่าถ้าไปยังพอมีรถสองแถวเหมากล้าไปส่งถึงดอยหัวแม่คำไม่ได้ไปเก้อ

ผมได้ข้อมูลละเอียดชนิดที่เรียกได้ว่า สามารถเดินทางไปได้เองแม้ว่าไม่มีรถส่วนตัวก็ตาม จนวันรุ่งขึ้น(วันศุกร์)ก็ได้สอบถามเพื่อนที่จะไปด้วย ปรากฏว่าไม่ว่าง ซึ่งก็ทำให้ผมต้องเดินทางไปคนเดียวอีกครั้ง แต่ก็คงจะชินอยู่บ้างกับการเดินทางแบบนี้ ข้อมูลสำคัญถูกปริ้นท์เก็บไว้พร้อมกับเบอร์ติดต่อต่างๆที่ท่านผู้นั้นได้ให้รายละเอียดไว้ โทรสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่วนอุทยานดอยหัวแม่คำ ได้ความว่าที่พักที่เป็นบ้านพักเต็มแล้ว เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ราชการ และทหารที่มาในงานเปิดทุ่งบัวตองได้จับจองไว้ เลยกลายเป็นว่า ผมต้องลำบากเพิ่มมานิดนึงเพื่อที่จะต้องหอบหิ้วเต็นท์และถุงนอนไปเอง แต่สุดท้ายเป็นไงเป็นกัน แบกก็แบก ! การเดินทางด้วยรถทัวร์งจึงเริ่มต้นอีกครั้ง (ช่วงเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมได้ขับรถไปเที่ยวทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ และพักที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์)


หลังจากเลิกงาน ผมออกเดินทางจากสระบุรีประมาณห้าโมงครึ่งเห็นจะได้ จากการดูตารางเดินรถกรุงเทพ-เชียงราย หรือกรุงเทพ-แม่สาย ส่วนใหญ่จะเริ่มออกจากหมอชิตประมาณทุ่มครึ่งจนถึงสองทุ่มครึ่ง ในใจก็กลัวไปไม่ทันเวลาออกรถที่หมอชิต เพราะขับรถไปได้สักพักใหญ่ๆ รถก็ดันมาติดบริเวณนวนครนานเกือบ 20 นาที แต่สุดท้ายลุ้นจนตัวโก่งก็มาถึงหมอชิต 2 ตอนประมาณอีก 10 นาที สองทุ่ม เลยรีบสอบถามคนขายตั๋วของสมบัติทัวร์และเลือกเดินทางกับรถ VIP 24 ที่นั่ง ตอนเวลาสองทุ่มครึ่ง

ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาให้ข้อมูลบริษัทรถทัวร์กรุงเทพ-เชียงราย ตามกระทู้ที่ผมตั้งไว้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ


สักพักก็ต้องหอบหิ้วสัมภาระมาขึ้นที่ชานชะลา 40 เพื่อขึ้นรถคันที่อยู่ตรงหน้านี้ รถออกเลทจากเวลาเกือบ 15 นาทีเนื่องจากมีกลุ่มคนประมาณ 10 คนไม่ยอมขึ้นรถเพราะรอเพื่อนที่ยังมาไม่ถึงอีก 1 คน ทำให้คนอื่นๆได้รับผลกระทบไปด้วย


เช้าวันใหม่ วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2550
เจ็ดโมงครึ่ง รถเข้ามาเทียบท่าบขส.จังหวัดเชียงราย ผมรีบจัดแจงไปจองตั๋วเที่ยวกลับกรุงเทพจากสมบัติทัวร์ ซึ่งอยากจะลองนั่งสยามเฟิร์สทัวร์ที่เพื่อนๆได้แนะนำแต่ที่ทำการขายตั๋วยังไม่เปิด

ต่อจากนั้นจึงขึ้นรถสายเชียงราย-แม่สาย เป็นรถเมล์สีเขียวไม่ปรับอากาศ บอกว่าจะไปลงที่ป่าซาง ราคา 20 บาท(จำได้ว่าตอนลงจากแม่สลองครั้งก่อนเที่ยวกลับมาเชียงรายราคาแค่ 15 บาทเอง)


เกือบๆเก้าโมงก็มาถึงสามแยกป่าซาง แวะทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารตรงสามแยก แล้วค่อยมาขึ้นรถสองแถวสีฟ้าที่จอดตามคิวข้างๆร้านมินิมาร์ท


เลือกทานง่ายๆ เป็นข้าวขาหมู ราคา 25 บาท แถมเข้าห้องน้ำฟรีไม่เสียเงิน(3 บาท)


จริงๆแล้วรถสองแถวที่จะไปบ้านเทอดไทยคันที่ผมไปมีคนขึ้นไม่ครบ 7 คนอย่างต่ำ ซึ่งถ้าออกรถก็จะไม่คุ้ม โดยรอนานก็ยังมีมาไม่ครับ มีแค่ผู้หญิง 2 คนซึ่งเป็นชาวเขา และผมอีก 1 คน เลยช่วยกันต่อให้เหลือ 350 บาทจากที่เขาตั้งไว้ว่าเหมา 400 บาท

รถวิ่งตามเขาขึ้นๆลงๆ ทำให้น้องผู้หญิงถึงกับเมารถจึงขอลงที่สามแยกอีก้อก่อน 1 คน ในรูปเป็นวิวเส้นทางที่ตัดเขาครึ่งซีกหลังจากผ่านสามแยกอีก้อไปแล้ว


มาถึงบ้านเทอดไทยเกือบๆสิบเอ็ดโมง ซึ่งก็สุดสายของรถแล้ว แต่ดูๆที่นี่ไม่มีรถต่อไปยังดอยหัวแม่คำ มีแต่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ซึ่งราคา 300 บาท คงไปไม่ได้หรอกเพราะของพะรุงพะรัง เลยลองต่อรองกับพี่คนขับอีกครั้งให้ไปส่งถึงดอยหัวแม่คำ ช่วงนี้ใช้เวลานานมาก เพราะมีคนขับรถสองแถวอีกคนมาร่วมพูดว่าราคาที่เสนอถูกบ้าง ทางไปลำบากบ้าง ระยะทาง 40 กว่ากม.บ้าง จนสุดท้ายตกลงราคากันได้ โดยผมออกราคาเหมาไป และมีพระกับลูกศิษย์อีก 4-5 ท่านไปด้วยโดยไปลงที่บ้านม้งเก้าหลังถึงก่อนดอยหัวแม่คำเล็กน้อย จ่ายราคาปกติ

สภาพถนน 20 กม.สุดท้ายก่อนถึงดอยหัวแม่คำก็เป็นอย่างที่เห็น แต่ดีมากแล้วจากแต่ก่อนที่เป็นเลน


ถึงบริเวณทางเข้างานแล้ว พี่คนขับสอบถามเพื่อนที่ล่วงหน้ามาถึงเส้นทางข้างหน้าว่าเข้าไปได้หรือไม่


ผมดันคิดว่า ณ จุดนี้ไปถึงวนอุทยานไปอีกไม่ไกล เลยให้พี่คนขับจอดส่งผมที่นี่แล้วลงเดินไปเอง แต่ที่ไหนได้ ไกลมากๆ  ดูป้ายที่ลูกศรชี้ก็แปลกๆพิลึก จะให้ดำดินไปหรือไง


มองย้อนมาด้านล่าง เห็นถนนดินแดงที่คดเคี้ยวกับรถสองแถวที่เพิ่งส่งผมเมื่อสักครู่


สองข้างทางเดินเข้าวนอุทยานฯเต็มไปด้วยดอกบัวตองทั้งที่บาน กำลังจะบาน และบ้างก็เหี่ยวไป ผมเดินไปสักพักก็มีรถกระบะของเจ้าหน้าที่ผ่านมาเลยโดยสารติดไปที่ทำการด้วย สนทนากันเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเดินไปไม่ไหวหรอก ไกลมากๆ ผมก็บอกไม่ทราบว่าจะไกลขนาดนี้ แต่ถ้าไม่มีรถมาก็คงต้องเดิน :(


มาถึงแล้ว วนอุทยานดอยหัวแม่คำ เกือบๆเที่ยงครึ่ง


วิวบนลานกางเต็นท์ด้านบนสุดที่เป็นลานจอดฮ.ด้วย


ที่นั่งเดี่ยวๆยังไม่มีผู้ใดจับจอง


มาแล้วกับนางเอกของทริปนี้ ดอยบัวตองหรือ Mexican Sunflower


ด้านหลังที่เห็นเหลืองๆก็ดอกบัวตองสลับกับต้นไม้เขียวๆ


ดงนี้มีหลายๆดอกกำลังบานยิ้มแฉ่งแข่งกับตะวันเลย


ใกล้ๆดูบ้าง


ดอกบัวตองสาวประชันความงามกัน ใครนะจะได้ที่หนึ่ง


นี่เป็นบ้านพักของวนอุทยานครับ บ้านแพซือลอด่อ


บริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นทุ่งขนาดย่อมๆเลย แถมยังมีชานไม้ให้ยืนชมวิวอีกด้วย


มองลงไปด้านล่าง สูงไม่ใช่ย่อย เห็นหลังคาอะไรสักอย่างอยู่ลิบๆ


ช่วงบ่ายๆแบบนี้คงไม่ค่อยเยอะ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ สีเจ็บๆทั้งนั้นเลย


บางดอกก็เริ่มหงิกแล้วนะ
ลืมบอกไปว่า แพลนว่าจะเอาของมาเก็บกางเต็นท์แล้วจะเดินลงไปดูงานด้านล่าง แต่ทำไม่ได้แล้ว เพราะมันไกลมากๆ รถไม่มีซะด้วย ขึ้นมาด้านบนเหมือนติดคุกเลย เศร้าครับ น้ำก็หมดด้วย


นี่ครับ ลานกางเต็นท์ด้านล่าง สังเกตยังไม่ค่อยมีใครมากาง จะมีแค่ 4 เต็นท์ที่กางไว้โดยโดนต้นไม้บังอยู่ แต่ตอนเย็นต้องดูอีกทีว่าคนเยอะหรือไม่


ไม่ใช่จะมีสีเหลืองของดอกบัวตองอย่างเดียว ยังจะมีสีแดงของใบต้นคริสต์มาสด้วย


ส่วนลานกางเต็นท์ด้านบนก็จะเป็นแบบนี้  ใกล้ชิดท้องฟ้าขึ้นไปอีก


สีเหลืองตัดกับสีฟ้า เสียดายที่ไม่มี CPL


หน้าตรง ไม่สวกหมวก


มาดูน้องผึ้งแทะเล็มเกสรมั่งครับ


ในเมื่อไปงานเปิดทุ่งบัวตองที่อยู่ด้านล่างไม่ได้แล้ว เลยกางเต็นท์แล้วนอนหลับหน้าเต็นท์มันซะเลย แหงนหน้าเห็นดวงจันทร์สวยๆเลยกล้องมาซูม 300 mm. แล้วลั่นชัตเตอร์มา 1 รูป


นอนงีบไปได้ชั่วโมงกว่า คนเริ่มทะยอยมาเยอะแล้ว เลยหยิบกล้องเดินไปถ่ายอีกครั้ง ระหว่างทางก็ได้สนทนากับแฟนคู่หนึ่งทะเบียนอุตรดิตถ์ ซึ่งแฟนผู้หญิงเป็นคนน่าน ผู้ชายเป็นคนอุตรดิตถ์ ขับรถมาเที่ยวเรื่อยๆ คุยถูกคอ ผมเลยขอติดรถกลับเข้าเชียงรายในวันรุ่งขึ้น ค่อยใจชื้นหน่อย มีรถกลับแล้ว


แสงยามเย็นสวยกว่ากลางวันเยอะเลย


ด้านบนที่เห็นแหลมๆก็คือบ้านพักวนอุทยานฯ ตอนนี้มีคนจองไว้แล้ว


ดูกันไปเรื่อยๆ


เหลืองสลับเขียว


ดงนี้อยู่หน้าบ้านพัก


ดอกหญ้าหรือเปล่า ถ่ายมาฝาก


แสงใกล้จะหมดวันเข้าไปเต็มทีแล้ว ตรงนี้เป็นจุดชมวิวของบ้านพักวนอุทยาน


อย่างที่บอก บ้านพักของอุทยานมีทหารมาพักแล้ว คันนี้ก็เป็นพาหนะของทหารเหล่านั้น อุ่นใจได้


ในที่สุด ตกเย็นนักท่องเที่ยวที่ไปดูงานเปิดทุ่งบัวตองที่ด้านล่างก็ทะยอยมากางเต็นท์กันที่นี่ ตอนแรกคิดไว้ว่าคงจะไปกางที่ลานด้านบนเพราะวิวสวยกว่าแต่ผิดคาด เนื่องจากทางชันหลายคนเลยจอดแถวนี้แล้วหอบสัมภาระมากางที่นี่แทน แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงดังอะไรเกินเหตุ เป็นปกติธรรมดา ถือว่าคืนนี้สอบผ่าน


เช้าวันใหม่ วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2550
และแล้ว เช้าวันใหม่ของวันก็มาถึง ไม่น่าเชื่อว่าทริปนี้ผมจะได้เห็นทะเลหมอกสวยๆเต็มๆ เพราะเท่าที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นดอยแม่อูคอ ห้วยน้ำดัง ดอยอินท์ ดอยภูคา หรือภูชี้ฟ้าก็ไม่ได้เห็น ฟ้าปิด ครั้งนี้เลยต้องเก้บภาพไว้เยอะซะหน่อยครับ ช่วงนี้เวลาประมาณ 6 โมงเช้า


ซูมเข้าไปใกล้ๆซิ


ทั้งดอกบัวตองและทะเลหมอก เหมาะเจาะกันจริงๆ


นี่ก็ด้วย


เดินหามุมภาพไปเรื่อย


จากพลังซูม เห็นหมอกเริ่มลอยเป็นริ้วๆแล้ว


ภาพนี้หมอกที่เป็นสันตรงกลางแปลกดี


และแล้วพระอาทิตย์ก็โผล่จากสันเขาตรงหน้า


พอโผล่ขึ้นมาก็สาดแสงสุริยะ เป็นสัญญาณว่าเริ่มเช้าวันใหม่ ทุกชีวิตก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด


ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ซูมระยะไหน ทะเลหมอกก็สวยสำหรับผมเสมอ


กลับมาดูดอกบัวตองบ้าง ผึ้งน้อยกำลังทำหน้าที่ของมัน โดยดอมดมเกสรจากดอกหนึ่งไปดอกหนึ่ง ทำให้เกิดการผสมพันธุ์ระหว่างดอกไม้ที่อยู่คนละที่ ตามกลไกของธรรมชาติ ถ้าหากขาดซึ่งผึ้งน้อยแล้ว วัฏจักรนี้ใครจะมาทำแทน ?


แสงแดดเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าทะเลหมอกที่อยู่ตรงหน้าจะสลายไป ยังคงทำหน้าที่ไหลเอื่อยๆต่อไป


เดินขึ้นไปตรงลานกางเต็นท์ด้านบนสุด จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกอีก 600 เมตรแต่รู้สึกว่าไกลพอสมควร ใครจะมาก็แวะไปเที่ยวได้นะครับ ส่วนผมไม่ได้ไป


ภาพสุดท้าย ทะเลหมอก ณ ดอยหัวแม่คำ จ.เชียงราย ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเหมือนกัน กะจะมาถ่ายภาพดอกบังตองอย่างเดียว สุดท้ายทริปนี้แม้ลำบากไปบ้างก็คุ้มครับ เอารูปแม่ไปเที่ยวด้วย 

ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาชม และทักทายกันครับ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวในหน้าหนาวนี้ทุกท่านครับ สวัสดี (_/\_)

==========
ท้ายนี้ขาดไม่ได้คือขอขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลในการเดินทางละเอียดมากๆดังนี้ครับ
คุณตีนดอย @TKT กับภาพสภาพเส้นทางแบบอัพเดทตลอด
คุณกระทิงดอย @TKT เช่นกันกับคุณตีนดอยครับ
คุณ Vectra @TKT ข้อมูลการเดินทางจากกรุงเทพไปจนถึงดอยหัวแม่คำละเอียดมากๆ ขอบคุณมากๆครับ

และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้
พี่กณพ(ชื่อผิดขออภัยด้วย)กับแฟนพี่เขา ที่มีน้ำใจให้ผมติดรถจากดอยหัวแม่คำไปลงที่บขส.เชียงราย และขอบคุณกับส้มหวานๆด้วยนะครับ 

คู่มือเดินทาง(ข้อมูลจากคุณ Vetra)

- สภาพอากาศ และ ความหนาแน่นของดอกบัวตอง 10 - 11 พ.ย. 2550
กลางวันอากาศร้อน แดดจัด ท้องฟ้ากระจ่างปราศจากเมฆ ครับ 
กลางคืนอากาศค่อนข้างหนาว และมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลงอีกประมาณ 1- 2 องศา เมื่อถึงช่วงเทศกาลดอกบัวตองบานที่ดอยหัวแม่คำในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.2550 นี้

ดอกบัวตองบานแล้วราว 70- 80 % คาดว่าจะบานเต็มที่เมื่อเข้าช่วงเทศกาลพอดีครับ


*** บริเวณลานกางเต๊นท์ที่วนอุทยานดอยหัวแม่คำ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง กิจกรรมดูดาวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง
ที่น่าสนใจ สำหรับเพื่อนๆที่ชอบนอนดูดาว อย่าลืมพกพาแผนที่ดาว + BinoC ไปด้วย รับรองไม่ผิดหวังครับ ***

สอบถามรายละเอียดของวนอุทยานดอยหัวแม่คำได้ที่ 
087-1875969 พี่ต่อ
084-4876331 พี่นิรพล


- การเดินทางโดยรถประจำทาง
กรุงเทพ- เชียงราย - บ้านป่าซาง(ปากทางไปดอยแม่สลอง) - บ้านเทอดไทย - ดอยหัวแม่คำ


จากกรุงเทพ-เชียงราย สามารถเลือกใช้รถโดยสารปรับอากาศซึ่งมีให้เลือกหลายบริษัท

บริษัท ขนส่ง จำกัด 999 โทร 02-9362841-48 / 02-9362852-66 ต่อ 442 , 311 


สมบัติทัวร์ โทร 02-9362495-8

เชียงราย - บ้านป่าซาง
สามารถนั่งรถโดยสาร สายเชียงราย - แม่สาย (สาย 1241 ชานชาลาหมายเลข5) รถจะออกทุกๆ 20 นาที ตั้งแต่เวลา 05.50-18.30 น. ขากลับ รถออกจากแม่สาย เวลา 05.45-18.00 น. 
*** ข้อมูล: สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย โทร. 0-5371-1224 ***

บ้านป่าซาง - บ้านเทอดไทย
ท่ารถ 2 แถวไปบ้านเทอดไทยอยู่ตรงปากทางขึ้นแม่สลอง(บ้านป่าซาง) บริเวณซอยข้างมินิมาร์ทครับ
ค่าโดยสาร บ้านป่าซาง - บ้านเทอดไทย 60 บาท
**หากจะเหมารถจากบ้านป่าซาง - ดอยหัวแม่คำก็สามารถกระทำได้ครับ ติดต่อ
081-0240813 ลิเชียน สนนราคาก้อยู่ที่ราว 2000 บาท (ไป - กลับ ) ** พี่อีกคนที่ผมเหมาไป 086-192 2776 


บ้านเทอดไทย - ดอยหัวแม่คำ
ปกติจะไม่มีรถโดยสารประจำทาง ถ้าจะขึ้นดอยหัวแม่คำก็คงต้องเหมารถขึ้นไป 
086-189 3907 ศรีวงค์
089-555 9112 ชื่น เบอร์ 43


วันที่ 17-18 พ.ย. 2550 ทางดอยหัวแม่คำมีการจัดงานดอกบัวตองบาน คิดว่าคงจะมีรถนักท่องเที่ยววิ่งขึ้นลงตลอดวันน่าจะเป็นโอกาสให้คุณเลือก(โบก)ได้ครับ 


*** ข่าวประชาสัมพันธ์ 17-18 พ.ย.2550 มีงานเทศกาลดอกบัวตองบานที่ดอยหัวแม่คำ สอบถามข้อมูล
เพิ่มเติมที่ อ.บ.ต.แม่สลองใน 053-730322 หรือ 086-186 7729 พี่นนทพัฒน์ *** 

- รถกระบะ
ฝนขาดเม็ดไปกว่า 3 สัปดาห์ สภาพพื้นดินโคลนที่เคยลื่น แฉะตอนนี้แห้งแข็งตัวจับเป็นก้อน เพื่อนๆ
สามารถใช้รถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อเดินทางขึ้นไปสู่ดอยหัวแม่คำได้ครับ

=====
ค่าใช้จ่าย
1.รถทัวร์กรุงเทพ-เชียงราย ไป-กลับ  = 873 x 2 = 1,746 บาท
2.ค่ารถเมล์จากบขสไปป่าซาง = 20 บาท
3.ค่าน้ำดื่ม 1 ขวด = 7 บาท
4.ค่าอาหารมื้อเช้าที่สามแยกป่าซาง 25 บาท
5.ค่ารถสองแถวจากป่าซางไปบ้านเทอดไทย = 150 บาท(เหมาไป ออก 3 คน)
6.ค่ารถเหมาจากบ้านเทอดไทยไปดอยหัวแม่คำ = 500 บาท(ทิป 50 บาทต่างหาก)
7.ค่ารถสี่ล้อเล็กจากบขส.ไปบิ๊กซีเชียงราย ไป-กลับ 15 x 2 = 30 บาท
8.ค่ากาแฟเอสเปรสโซ่ = 45 บาท
9.ค่าอาหารเย็น = 30 บาท
10.ค่าจอดรถ 3 คืนที่หมอชิต 2 = 100 x 3 = 300 บาท
รวมทั้งสิ้น = 2,903 บาท
=====

Original Published on www.pantip.com at [ 21 พ.ย. 50 09:44:23 ] as below link

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น