วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557

ล่องใต้ เที่ยวกระบี่ มรกตอันดามัน ตอน 2 พายเรือคายัค ลัดเลาะป่าชายเลน ให้กล้วยลิงแสม ณ อ่าวท่าเลน


วันที่สองของทริปกระบี่ วันนี้เราตั้งใจจะไปพายเรือคายัคกัน ครั้งก่อนที่มากระบี่ผมเคยพายคายัคที่เกาะห้อง(ชมได้ตาม link นี้ มนต์เสน่ห์เมืองร้อยเกาะ...จ.กระบี่ ตอน 2 วันพายเรือคายัค ณ เกาะห้อง) แต่ครั้งนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปพายที่อื่นบ้าง วันนี้ช่วงเช้าเลยไปถามกับเจ้าหน้าที่ที่หน้าล๊อบบี้ว่ามีโปรแกรมทัวร์พายคายัคที่ไหนบ้าง ได้ข้อมูลมาว่ามีทัวร์พายคายัคที่อ่าวท่าเลน โดยออกช่วงบ่ายของวัน 

ผมชอบเจ้าหน้าที่ที่ล๊อบบี้โรงแรมนี้มากครับ เขาไม่ได้คะยั้นคะยอขายทัวร์ให้เราอย่างเดียว แต่เขาโทรไปถามให้เราก่อนด้วยว่า ช่วงวันนี้สามารถพายคายัคที่อ่าวท่าเลนได้มั้ย เพราะแต่ละวันน้ำขึ้นน้ำลงจะไม่เหมือนกัน บางวันอาจพายได้ บางวันอาจพายไม่ได้เพราะน้ำลง ทำให้แห้งเหือดไปหมด สุดท้ายพอวางหูกับคนขายทัวร์แล้ว ก็มาบอกเราว่าวันนี้พายได้ เป็นอันว่า เราตกลงจองไปพายคายัคกันวันนี้ครับ จำนวน 2 คนด้วยกัน คนละ 500 บาท รวมเป็น 1,000 บาทของบริษัททรูลีเชอร์ True leisure Tour & Travel (ไปดูข้อมูลจากโบชัวร์ของทัวร์อื่นๆ ราคาสูงกว่านี้เยอะเลย ยังไงแนะนำอุดหนุนซื้อทัวร์จากโรงแรมนะครับ เดินไปหาเองไม่ได้ถูกกว่าหรอก)


วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557
วันนี้ได้ตื่นสายครับ ออกมาทานอาหารเช้าก็ 10 โมงกว่าๆ ร้านอาหารที่ฝากท้องไว้ก็ร้านเดิมครับ ตรงข้ามกับโรงแรมอ่าวนางกู๊ดวิลล์ มื้อนี้ขอทานราดหน้าทะเล รสชาติก็โอเค เติมพลังก่อนไปพายคายัคกันในช่วงบ่าย (มื้อนี้หมดไป 180 บาท รวมน้ำผลไม้ปั่น 2 แก้วด้วย)


ของคาวหมดไปแล้วก็ไปหาของหวานทานกันต่อ เดินไปตามถนนมุ่งหน้าหาดอ่าวนางทางซ้ายมือจะมีร้านเบเกอรี่ติดแอร์อยู่ เสียดายจำชื่อร้านไม่ได้ เข้าไปทานเค้กช็อคฯ ชิ้นนี้ครับ อร่อยดี ราคาชิ้นละ 85 บาท ทานเสร็จก็เดินท่ามกลางอากาศร้อนๆ กลับมาที่พักดังเดิม เข้าไปแช่แอร์ที่ห้องพักก่อน นัดลงมาอีกทีบ่ายโมงตรงที่ล๊อบบี้ ได้เวลาคร็อกฟี้....zzz......zzzz...zzzz......


คราวนี้รถจากทัวร์ที่มารับเป็นรถตู้แอร์เย็นๆ ไม่ใช่รถกระบะแบบเมื่อวานแล้ว เพราะต้องนั่งรถออกจากอ่าวนางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือไกลพอควร ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ในที่สุดก็มาถึงอ่าวท่าเลน เป็นที่ทำการของทรูลีเชอร์ ที่นี่จะมีกาแฟ, โอวัลติน ให้ลูกค้าชงทานได้ตามสะดวกก่อนออกไปพายคายัค

ก่อนไปทัวร์เราไม่ลืมที่จะซื้อกล้วยแถวหน้าโรงแรมมา 1 หวี เพื่อจะนำมาให้เจ้าลิงแสมที่อยู่แถวป่าโกงกาง วันนี้ไม่รู้โชคดีได้เจอมันหรือเปล่า เพราะเขาบอกว่า บางทีลิงแสมก็ไม่ออกมาให้เห็น ถ้าไม่ออกมาจริงๆ เราก็เอามากินแทนได้ 555


นักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์มาพายคายัคส่วนใหญ่ หรือเรียกได้ว่าทุกคนยกเว้นเรา 2 คนเป็นชาวต่างชาติหมด!! ดูได้จากกรุ๊ปที่ยืนอยู่ด้านหลังโน่น (ปล.มีเด็กหญิงฝรั่งชุดสีแดงแอบมองมายังเราด้วย อิอิ)


ได้เวลาเริ่มพายกันแล้ว ประมาณ 14.20 น. โดยกรุ๊ปฝรั่งกรุ๊ปใหญ่นำทีมไปก่อนโน่น เส้นทางคร่าวๆ คือจากท่านี้พายตัดไปยังสันทรายที่อยู่ข้างหน้า แล้วต้องลงมาลากเรือข้ามสันทรายนิดนึง แล้วพายต่อเพื่อเลี้ยวซ้ายไปที่เขา เข้าไปในลากูนครับ แล้วจะผ่านป่าโกงกางแล้วอ้อมมาออกอีกทีทางด้านซ้ายมือ


แล้วก็มาถึงเราสองคน อิอิ ผมทั้งสะพายกล้องไปด้วย ออกแรงพายไปด้วย ทุลักทุเลน่าดู แถมยังต้องระวังกล้วยที่เอามาด้วยว่าจะหล่นน้ำไปอีก แต่ก็ชอบครับ นึกๆไป เราไปพายมาหลายที่แล้ว ล่าสุดก่อนหน้านี้ไปพายต่างประเทศที่ฮาลองเบย์ เวียดนามเหนือนั่นเอง พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน
(http://athlons.blogspot.com/2013/05/Vietnam-04-HaLongBay.html)


พายมาสักพัก ช่วงแรกๆจะเมื่อยหน่อย แต่สักพักก็ชิน เห็นเรือข้างหน้าด้านซ็ายมั้ยครับ? กำลังลงมาลากเรือข้ามสันทรายไปอีกฝั่ง พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ตอนข้ามสันทรายจะบอกว่าลำบากมากๆ เพราะจากนั่งอยู่บนเรือต้องเดินลงมาลาก หนักก็หนัก แถมไม่ค่อยจะไปอีก ต้องให้ทางสต๊าฟของทัวร์มาช่วยด้วย โดยสต๊าฟเขาพายคายัคมาประกบคู่เราอย่างเดียวเลย สงสัยกลัวหลงหรือออกทะเลแน่ๆ เลย พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน

พอข้ามสันทรายเสร็จก็ลงนั่งบนเรือต่อ รีบจ้ำเอ้าตามเรือลำอื่นๆที่อยู่ข้างหน้าให้ได้ครับ แต่ทำไมฝรั่งมันพายเร๊ว..เร็ว... สงสัยจัง เราพายตามไม่ทันเลยแฮะ


ช่วงนี้คลื่นเริ่มแรงแล้วครับ เพราะมันใกล้ออกทะเลใหญ่ เราต้องพยายามพายเลียบเกาะด้านซ้ายเข้าไว้ แต่ก็ต้องรักษาระยะห่างไปด้วยครับ ไม่งั้นจะชนหินเอา ยากจริงๆ ทั้งที่ก็พายมาหลายครั้งแล้วนะ


ในที่สุดก็แล่นมาจอดตรงหาดเล็กๆของเกาะนี้ก่อน เห็นเขามากันก็เลยเข้ามาแจมด้วย แต่คนเยอะมาก มาจอดทำไมก็ไม่รู้ ไม่มีจุดผูกเชือกเรือซะด้วยสิ กลัวคลื่นซัดออกไปหล่ะยุ่งเลยเรา พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


มองจากชายหาดไปยังทะเลครับ ไม่นานเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็รีบลงเรือพายต่อไปดีกว่า เดี๋ยวจะเสียเวลาเปล่าๆ


มายากอีกจุดก็ตรงต้องพายผ่านช่องแคบนี้แหล่ะ ยากจริงๆนะ ต้องนิ่งมากๆ ไม่งั้นจะไปโดนโขดหินได้


พอผ่านช่องแคบได้ก็โล่งอก ชู 2 นิ้วกันเลยทีเดียว ต่อจากนี้ก็ต้องพายต่อไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าลากูนตามลำสีฟ้าข้างหน้าครับ พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ลากูน หรือ เปรียบเสมือนห้อง หรือแอ่งน้ำที่โดนเขาล้อมรอบไว้ ทำให้น้ำค่อนข้างนิ่ง แต่ก็อาจจะเสียได้ถ้ามันไม่ถ่ายเท ดูอย่างน้ำช่วงนี้ที่เห็นสิครับ จะพบว่ามีฟองเต็มไปหมดเลย พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ผ่านช่วงที่น้ำเป็นฟองก็มาถึงช่วงน้ำเริ่มใสแบบเดิมบ้างแล้ว ช่วงนี้เราพายแบบสบายๆมาก เพราะไม่ต้องออกแรงมากเพื่อโต้กับคลื่นทะเล พายไปถ่ายรูปไป อากาศก็เย็นเพราะแสงแดดโดนเขาบังหมด สต๊าฟของทัวร์พายอยู่ห่างๆ ข้างหน้าเรา พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ออกจากลากูนก็จะเป็นช่วงป่าชายเลนที่เป็นไม้โกงกางแล้วครับ มีจระเข้เปล่าหว่า? 555


นั่นไง...ได้เห็นเจ้าจ๋อแล้ว เรารีบบิดกล้วยออกจากพวงแล้วโยนทีละใบไปให้ลิงแสมบนฝั่ง กลัวว่ามันจะมาแย่งจากเรือเป็นฝูง เดี๋ยวจะโดนแย่งกระเป๋าไปได้ เจ้าจ๋อพอได้กล้วยที่เราโยนไปให้ที่ฝั่งก็หยิบไปกินตามต้นไม้สบายใจเฉิบ


ส่วนเจ้าตัวนี้แย่งกล้วยไม่ได้ อดเลย


ตัวนี้หยิบมาได้ 2 ใบเลยแฮะ...โชคดีมากๆ คงอิ่มไปเลย


ตัวนี้นั่งกินกล้วยบนต้นไม้อย่างมีความสุข


แล้วเราก็ผ่านจุดที่ลิงแสมอยู่เยอะๆไปแล้ว ช่วงนี้ก็แคบเหมือนกันต้องพายดีๆ ไม่งั้นชนได้


มาถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำจระเข้ เอาแล้วไง....มีหรือเปล่าน้า ไม่มีหรอกครับ เรียกให้กลัวไปงั้น แต่สต๊าฟบอกกับเราว่าเคยมีนะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ทุกลำถ้าไม่กลัวก็ต้องวนไปด้านใน


เราก็วนเข้าไปด้วย ไม่กลัวหรอก คริคริ พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ออกมาจากถ้ำจระเข้ น้ำช่วงนี้ก็จะเป็นฟองๆ อีกแล้ว หรือจะเป็นฟองจากพวกปูลมที่อาศัยข้างใต้ดินนะ มันชอบเป่าลมทำฟองออกมาจากปาก พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คนนี้ถึงกับหันเรือคายักย้อนมาถ่ายลิงจ๋อใกล้ๆเลย


มีอะไรเปล่าครับ?? ถ่ายผมทำไม ผมหล่อเปล่าครับ?


เจออีกตัวอยู่ริมตลิ่ง ไม่ได้ปีนบนต้นไม้ แต่เสียใจด้วย กล้วยหมดแล้ว


ได้เวลาจวนจะออกไปทะเลใหญ่แล้ว


เราต้องเลี้ยวซ้ายตามเรือสีฟ้าไปครับ พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


ตรงนี้เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถโผล่ออกมาได้จากป่าชายเลน


เรานึกสนุกพายย้อนเพื่อถ่ายเจ้าเขาทรงประหลาดยอดนี้ แล้วก็พายกลับทางเดิม


จะบอกว่าช่วงใกล้จะครบหลูบที่ท่าเรือที่เราลงคายัค การพายนั้นเป็นการพายแบบทวนน้ คลื่นจากลมทะเลที่ซัดมาตลอดทำให้เราต้องออกแรงพายมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า ใจไม่ดีเพราะกลัวจะหมดแรงไปซะก่อนครับ กลัวจะลอยเท้งเต้งกลางทะเลนี้ แถมมีเรือแล่นไปมาด้วย ยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ แต่ก็กัดฟันฝืนพายทวนน้ำไป พายเรือคายัค อ่าวท่าเลน


สุดท้ายก็มาถึงฝั่งแล้ว นับรวมก็ 2 ชั่วโมงเต็มๆ! โห...นานพอดูเลยครับ แต่ก็สนุกนะผมว่า แต่กลับไปคืนนี้คงนอนหลับเป็นตายเลย เพราะใช้แรงไปหมด


เรามาถึงโรงแรมที่พักตอนเย็น ปรึกษากันว่าจะไปทานอาหารที่ไหนดีมื้อเย็นนี้ เลยได้ไอเดียไปเช่ามอเตอร์ไซค์มาขี่ดีกว่า จะได้ไปไหนสะดวก เพราะรวมพรุ่งนี้ไปด้วย สุดท้ายให้โรงแรมติดต่อร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ได้ร้านหนึ่งมา ราคาวันละ 250 บาท(แพงนะเนี่ย) แล้วยึดบัตรประชาชนตัวจริงไปตามธรรมเนียม!

เย็นนี้เราจะขี่ไปทานอาหารร้านปูดำ ร้านอาหารที่เขาแนะนำกันครับ ซึ่งอยู่ตัวเมืองกระบี่ ทำให้เราต้องขี่ไปที่ตัวเมืองกระบี่จากอ่าวนางกัน ระยะทางประมาณ 20 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


มาถึงตอนแรกหาร้านไม่เจอเพราะขี่เลยไป แต่ก็วนกลับมาอีกครั้ง สั่งเลยครับ จานแรกปลาหมึกย่าง


ตามด้วยกุ้งแช่น้ำปลา


และผัดผักกูดส่กุ้งแห้ง, หอยตลับผัดน้ำพริกเผา และไก่ทอด มื้อนี้หมดไป 650 บาท ซึ่งไม่แพงเลยครับ อาหารก็อร่อยอย่างที่ใครๆแนะนำกัน


ทานเสร็จก็ข้ามฝั่งมาถ่ายเขาขนาบน้ำ สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจ.กระบี่ แต่เสียดาย ไม่มีแสงแล้ว คงได้เพียงภาพมืดๆแบบนี้


ไม่พลาดกับรูปปั้นปูดำยักษ์ ขนาดใหญ่มากๆ เป็นสัญลักษณ์ของร้านปูดำ


อีกมุมหนึ่งของปูดำยักษ์


ตัวใหญ่คงเป็นแม่ปู และนี่คงเป็นลูกปู


ใกล้ๆกันจะมีรูปปั้นนกออก หรือ นกอินทรีทะเลท้องขาว หากินบริเวณริมทะเลกระบี่แห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 ด้วย


มาตัวเมืองกระบี่ทั้งที ก็ต้องมาเดินถนนคนเดินของกระบี่ด้วย


แวะทานไอติมกะทิสด 30 บาท ใส่มาในกะลามะพร้าว เสียดายภาพเบลอครับ


และก็จบด้วยการแสดงบนเวทีของสาวประเภท 2 ครับ แล้วเราก็บึ่งมอเตอร์ไซค์กลับโรงแรมที่อ่าวนาง พรุ่งนี้มาติดตามชมกันในวันสุดท้าย เรามีโปรแกรมจะขี่ไปให้ถึงสระมรกต 60 กว่ากม.จากอ่าวนางกันเลยทีเดียว....สวัสดี

[ตอน 1] [ตอน 2] [ตอน 3]

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น