วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2549

มนต์เสน่ห์เมืองร้อยเกาะ...จ.กระบี่ ตอน 2 วันพายเรือคายัค ณ เกาะห้อง


วันนี้แพลนว่าจะไปเที่ยวเกาะห้องและหมู่เกาะใกล้ๆรวม 3-4 เกาะ เช่น เกาะเหลาลาดิง, เกาะผักเบี้ย ฯลฯ โดยคุณเลจายเป็นคนติดต่อทัวร์ให้ ซึ่งถ้าจะมาทัวร์เกาะห้องหรือ ทัวร์ 4 เกาะ ส่วนใหญ่ก็จะมีอยู่ 2-3 เจ้า คือบาราคูดัส และซีคายัค ที่ไม่เลือกบาราคูดัสนั้น เนื่องจากต้องนั่งเรือนานจากอ่าวนางไปเกาะห้องเลย ใช้เวลาเป็นชม.ขึ้นไป ส่วนซีคายัคนั้น จะมีรถมารับจากที่พักแล้วขับไปส่งที่อ่าวท่าเลน ต่อจากนั้น นั่งเรือจากอ่าวท่าเลนไปยังเกาะห้อง เนื่องจากอ่าวท่าเลนนั้นเป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้เกาะห้องมากที่สุด ร่นระยะเวลาในการเดินทางด้วยเรือไปมากเลย ซึ่งก็เป็นเหตุเป็นผลที่ใช้ได้ทีเดียว อีกอย่างก็คือ ไม่แน่ใจว่าที่บาราคูดัสนั้นมีเรือคายัคไปด้วยหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีต้องเสียเงินไปเช่าเองที่เกาะห้อง
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมเลือกทัวร์เกาะห้องมาไว้วันแรกคือ ทัวร์นี้จะใช้เวลานาน กลับมาอ่าวนางก็ 5 โมงเย็นแล้ว ถ้านำไปไว้วันที่สองคือวันกลับ อาจทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวหรืออาจตกเครื่องที่จะออกในเวลา 18:50 น.ก็เป็นได้


วันนี้ตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรถที่หน้าเกสท์เฮ้าส์จากทัวร์ซีคายัคที่คุณเลจายได้ติดต่อให้ผม เขานัดมารับเวลา 8:30 น. ทำให้ยังมีเวลาเหลือที่จะไปหาอะไรเบาๆมาใส่รองท้องก่อน เดินไปพร้อมกับกวาดสายตา เห็นร้านๆหนึ่งขายน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ ผมเลือกนั่งทานร้านนี้เลย


หลังจากทานปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้เสร็จ กลับไปยังจุดรอรถ แต่เอ๊ะ..... 8:30 น.แล้ว รถที่นัดไว้ยังไม่มาเลยแฮะ โทรถามคุณเลจายดีกว่า ได้ความว่ากำลังตระเวนรับนักท่องเที่ยวแถวอ่าวนางอยู่ โอเค....มาแล้วหล่ะ คล้ายๆรถอีแต๋นเลยแฮะ....ถ่ายรูปหน่อย เด็กรถยิ้มเลย


รถไปรอรับนักท่องเที่ยวอีกจุดที่หาดนพรัตน์ธารา รับนักท่องเที่ยวจากศรีสุขสันต์รีสอร์ท ระหว่างรอ ผมเลยลงไปชักรูปทะเลสักภาพ


รถใช้เวลาแล่นจากอ่าวนางมาอ่าวท่าเลนเกือบ 1 ชม.เลยนะเนี่ย สงสัยถ้าไปบาราคูดัสคงเมื่อยแย่แน่เลย


ที่นี่แหล่ะ เป็นคลังใหญ่ของเรือคายัคหลากหลายสีเลย ดูไปๆยังคิดว่าเป็นลูกกวาด หรือแท็กซี่มิเตอร์ซะอีกแหน่ะ


อีก 5 นาที 10 โมงเช้า เรือก็แล่นออกจากอ่าวท่าเลน
เรือใช้เวลาประมาณครึ่งชม.ก็มาถึงยังเกาะห้อง ไกด์ที่ชื่อเล็กบอกกับผมว่าวันนี้น้ำนิ่ง เหมาะแก่การพายคายัคมาก


ก่อนจะเข้ามาจอด ณ ชายหาดของเกาะห้อง น้ำทะเลสีเขียวมรกตสวยอย่างที่ผมต้องการมาเจอจริงๆ


นี่แหล่ะ เรือที่พาพวกเรามายังเกาะห้อง เกาะสวรรค์ จ.กระบี่ ตามรูปจะเห็นว่าบรรทุกเรือคายัคมาด้วยกัน 4 ลำ เอ่อ...ไม่มีลำเหลือสำหรับผมครับ....ไม่เป็นไร ผมบอกคุณเล็กไกด์อัธยาสัยดีให้ช่วยเช่าจากเจ้าหน้าที่อุทยานให้ด้วย


อีกลำหนึ่งก็นำเรือคายัคสีเหลืองสดมาด้วยเช่นกัน


หมู่เกาะห้องนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี


ชายหาดฝั่งนี้จะเป็นชายหาดให้ไว้สำหรับจอดเรือกัน ส่วนใหญ่จะไม่นิยมเล่นน้ำที่ชายหาดนี้


มีเรือคายัคสีแดงเหลืองมาจอดริมหาดเตรียมจะพายไปแล้ว


ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเกาะห้อง นิยมมาเล่นน้ำฝั่งนี้ครับ แต่บอกไว้เลยว่า หินใต้น้ำคมมากๆ ผมโดยบาดไปหลายแผลเลย


ผมเองเห็นเขาแยกเป็น 2 ช่อง ยังคิดว่านี่คือ ลากูนของเกาะห้องเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่


ไกด์ให้ผมรอบริเวณนี้ก่อน เดี๋ยวค่อยรวมตัวกันพายเรือคายัคอีกที


ที่เห็นเรือคายัคอยู่ไกลๆ นั้น ก็ของพวกเราซึ่งไกด์เล็กเตรียมไว้ก่อนจะเริ่มสอนการพายเรือคายัคแบบถูกวิธี


แอบถ่ายฝรั่งอาบแดดกันบ้างนะ


เวลาผ่านไป เรือก็เริ่มเข้ามาจอดหลายลำ
ผมได้มีโอกาสคุยกับคนเรือที่พาเรามา เขาเล่าว่าเรือลำเก่าของเขาโดนสึนามิขาด 2 ท่อน !!! ลำนี้เพิ่งสร้างมาใหม่ พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่เอี่ยม และเป็นการรับงานครั้งแรกอีกด้วย สอบถามพี่คนเรือว่าผ่อนหมดยัง เป็นที่น่าเสียดายว่า พี่คนเรือยังเพิ่งเริ่มผ่อนราคาก็แพงเป็นหลักแสนบาท ผมเอาใจช่วยนะพี่ ขอให้มีลูกค้ามากๆนะครับ สู้ๆ


ก่อนออกทะเล ไกด์เล็กได้สอนวิธีการพายคายัคที่ถูกต้อง คร่าวๆคือ ให้นำใบพายฝั่งที่มีตัวหนังสือเขียนไว้หันมาทางเรา และฝั่งไม้พายที่มีปุ่มนูนๆ ให้เราใช้มือข้างที่ถนัดจับฝั่งนั้น ในที่นี้คือใช้มือขวาจับ
 การพายก็พยายามพายให้พร้อมกันทั้งหน้าและหลัง ส่วนใหญ่พยายามให้ผู้ชายนั่งตำแหน่งด้านท้ายเรือ เพราะตำแหน่งนี้จะเป็นคนควบคุมการเคลื่อนที่ของเรือ
ต้องการเลี้ยวซ้ายพายด้านขวา เลี้ยวขวาพายด้านซ้าย เป็นอันเข้าใจ...ลุยได้......


เริ่มพายไปตามไกด์เล็กกันเลย ช่วงแรกตะกุกตะกักหน่อยครับ
แต่พอพายไปสักพักเริ่มจับทางได้ และความมันและสนุกก็ตามมา จุดแรกที่จะต้องผ่านไปคือ ลอดถ้ำกัน แนะนำให้ค่อยๆพายนะครับ และอย่าเข้าไปแบบติดๆกัน เพราะจะโดนคลื่นจากเรืออีกลำซัดไปบังคับทิศทางไม่ได้ แต่สุดท้ายก็สนุกมากกก


เฮ้อ...สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ผมกลายเป็นลำรองสุดท้าย อิอิ


นี่แหล่ะครับ จุดไคลแม็กซ์ ต้องพายผ่านช่องเขาสองข้างเพื่อไปยังห้องข้างใน หรือเรียกกันว่า Lagoon เกาะห้อง  ความกว้างระหว่างเขาประมาณ 10 เมตร เล็งๆไว้ พร้อม....ลุยยย


ตาม 2 ลำข้างหน้าไปโลด


ฮาๆๆ เข้ามาถึงทะเลใน หรือ ลากูน เกาะห้องแล้วครับ ภายในกว้างประมาณ 150 เมตร ไม้ที่ขึ้นส่วนใหญ่เป็นไม้โกงกางครับ พอเข้ามาถึงก็สามารถลงจากเรือคายัคและเดินเล่นในนี้ได้


ลำนี้แหล่ะครับ เรือคายัคที่ผมพายมาจากชายหาดเกาะห้อง


ส่วนนี่เป็นเรือคายัคสีเหลืองสดของ 2 สาวชาวต่างชาติ


ณ ช่วงเวลาที่น้ำลด เรือที่สามารถเข้ามาได้ก็จะมีแต่เรือคายัค และ เรือหางยาวเท่านั้น เรือลำใหญ่กว่านี้หมดสิทธิ


น้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ เรือหางยาวต้องรีบแล่นออก ไม่งั้นมีหวังต้องเข็นแน่เลย


สัตว์น้ำที่อาศัยภายในนี้ เท่าที่เห็นจะมีปูน้อย และปลาดาว สำหรับปลาดาวแล้ว เยอะแยะเต็มพื้นน้ำไปหมดเลย เผลออาจเหยียบได้


รูปนี้น่าจะเป็นประกบร่าง สร้างรัก อ๊ะเปล่า


ด้านหลังของลากูนเป็นเขาหินปูนมีต้นโกงกางขึ้นซะส่วนใหญ่ รอบๆจะเป็นดินเลน


หลังจากเก็บบรรยากาศภายในลากูนของเกาะห้องแล้ว พวกเรา 5 ลำก็เริ่มทยอยออกไป รอนานกว่านี้อาจต้องเข็นเรือไปไกลๆกว่าจะเจอระดับน้ำที่พายได้  ขากลับผมลองลอดถ้ำอีกครั้ง แต่ลำอื่นพายไปอีกทางหนึ่ง

กลับมาถึงที่ชายหาด หลังจากจอดเรือถึงรู้ว่าหมดแรงเหมือนกันแฮะ เลยขอทานอาหารซะก่อน ได้โค้กเย็นๆก็ชื่นใจหายเหนื่อยไปบ้างเหมือนกัน


ผลไม้เป็นแตงโมและสับปะรดที่แสนจะเย็นฉ่ำ


หลังจากอาหารกลางวัน ไกด์เล็กพาพวกเราไปดำน้ำ ณ จุดๆหนึ่ง ใกล้ๆเกาะห้อง จุดนี้มีปะการังสวยงามมาก ผมเลยใช้กล้องใต้น้ำถ่ายไปไม่ยั้ง หมดไปทั้งหมดทีเดียว 27 รูป แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า บางคนซึ่งก็หลายคนไม่รู้จักอะไรเลย ดำน้ำตื้นก็ไม่ค่อยจะเป็น ผมดูแล้วน่าจะเป็นครั้งแรก เผลอไปเหยียบปะการังเขากวางสีสวยๆจนหักเลย ผมเองได้แต่มองอย่างเศร้าใจ ขี้แง รูปใต้น้ำคงต้องรอล้างฟิล์มก่อนนะครับถึงจะดูได้

หลังจากดำน้ำเสร็จก็พาไปยังเกาะเหลาลาดิง ที่นี่จะมีชุมชนชาวพื้นเมืองเก็บรังนกด้วย


ณ บริเวณจอดเรือของเกาะเหลาลาดิง


ด้านนี้ก็ใช่
ที่นี่มีให้โล้ชิงช้าด้วยนะครับ เสียวๆ


ต่อจากนั้นไกด์พาพวกเราไปแวะก่อนกลับที่เกาะไร่ หรือเกาะผักเบี้ย ผมเองไม่แน่ใจ


ณ จุดนี้ ถ้าเรารอจนถึงประมาณ 5 โมงเย็น เราจะเห็นสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสองนี้ เป็นอีกอันหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายๆทะเลแหวก


รูปนี้ชอบมากเพราะเมฆมันเรียงตัวแปลกตาดี


เรือพาพวกเรากลับเข้าฝั่งที่อ่าวท่าเลน 4 โมงเย็นพอดี พอขึ้นรถที่จะพาไปอ่าวนางปุ๊บ ฝนก็เทลงมาพอดี ฝนตกหนักมากๆ ตกอยู่ประมาณ 1 ชม.ถึงจะหยุด เป็นเวลาที่ถึงที่พักที่อ่าวนางพอดี
พออาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินออกมาหาอะไรทาน ประกอบกับเตรียมเพื่อจะจองทัวร์ 4 เกาะไปทะเลแหวก เกาะปอดะ อ่าวพระนาง ที่ร้านบาราคูดัส ซึ่งเป็นร้านเล็กๆคูหาเดียว หาได้ไม่ยาก



ถ้ายังไม่รู้จะสังเกตอะไรดี ก็ให้ดูหอเตือนภัยสึนามิละกันครับ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันของถนนเลียบอ่าวนาง
ผมเองก็เพิ่งเห็นเสาแปลกๆอันนี้ ก็ครั้งนี้แหล่ะครับ


อีกบรรยากาศหนึ่งของถนนเลียบอ่าวนาง ยามเมื่อหลังฝนตกหนัก


ผมนั่งรถสองแถวบริการที่วิ่งจากอ่าวนางไปหาดนพรัตน์ธาราด้วยราคาคนละ 10 บาท มาที่นี่เพื่อจะหาอาหารอร่อยๆทาน
บรรยากาศใกล้ลับแสงอาทิตย์ของหาดนพรัตน์ธาราก็ดูเหงาๆไปอีกแบบ


ใครมาเที่ยวกระบี่แล้ว ไม่ได้ชิมอาหารพื้นเมืองอย่างเช่นหอยชักตีนแล้วหล่ะก็ ผมว่าอาจมาไม่ถึงก็เป็นได้นะครับ
 ผมเลือกร้านครัวธาราริมหาดนพรัตน์ธารา ซึ่งเป็นร้านที่ผมเคยมาทานเมื่อครั้งก่อน เนื่องจากรสชาติอาหารถูกปากทุดจานเลย ใครจะเลียนแบบก็เชิญได้เลยนะครับ


ผมสั่งอาหารมาหลายอย่าง แต่เสริฟแล้ว 3 อย่าง เลยไม่รอให้มาหมด จึงถ่ายมาให้ดูกันก่อน เพื่อเรียกน้ำย่อยผู้ชมทั้งหลาย
ผมขอรับประกันเลยว่า อาหารอร่อยทุกอย่างครับ และไม่ช้าด้วย ที่ป้ายร้านมีชื่อ "หลังสึนามิ" นั่นหมายความว่า ตอนสึนามิ ร้านนี้ก็โดนไปด้วยครับ


หลังจากหมุบหมับกับอาหารทั้งหมดจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ผมจ้างรถมอเตอร์ไซด์ที่ต่อเติมที่นั่งข้างๆให้มาส่งบริเวณอ่าวนาง ที่หน้าร้านไอศครีมร้านเดิมกับเมื่อวาน
นั่งทานไอติมล้างปากกัน ก่อนจะเดินกลับที่พักในเวลาต่อมา

===============
ขอจบเรื่องราวการเที่ยวเกาะห้องพร้อมเกาะใกล้เคียง ในวันที่สองเท่านี้ครับ รอชมในวันที่สาม ณ ทะเลแหวก เกาะปอดะ และอ่าวพระนาง ได้ในตอนต่อไปครับ

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ดูรูป อ่านเรื่องราว และลงชื่อทักทายกันครับ _/|\_

Original Published on www.pantip.com at  [ 30 มี.ค. 49 18:53:45 ]


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น