วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2550

เที่ยวทะเล จ.ตรัง ตอน 1 กล้องเสีย ที่เลตรัง


การมาเยือนตรังครั้งนี้เป็นครั้งที่สองสำหรับเรา ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นตอนช่วงก่อนสงกรานต์ ปี 2548 อยู่ 1 อาทิตย์ เรามาเยือนโดยการขับรถส่วนตัวกันมา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

แพลนตอนแรกกะว่าจะออกจากกรุงเทพประมาณ 7 โมงเช้า แต่ไปๆมาๆ เสียเวลาในการไปรับกัน เลยออกช้าไปครึ่งชั่วโมง ครั้งนี้ผมแพลนว่าจะไปซื้อแพ็คเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน จากตัวเมืองตรังแล้วไปค้างที่เกาะมุก 1 คืนเป็นคืนแรก โดยวันแรกนั้นไปท่องทะเลตรัง 4 เกาะตามโปรแกรมทั่วๆไปคือ เกาะเชือก เกาะม้า เกาะมุก(ถ้ำมรกต) และเกาะกระดาน ส่วนวันที่สองไปค้างที่เกาะรอก พักเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หน่วยเกาะรอกนอก และดำน้ำบริเวณนั้น และกลับเข้าฝั่งในวันที่ 3

ผมจองทัวร์นี้และโอนเงินครึ่งหนึ่งก่อนไปหลีเป๊ะด้วยซ้ำไป ใช้ทัวร์แบบหน้าใหม่ ดังนั้นการบริการที่ไม่ใช่มืออาชีพจึงเกิดขึ้นกับกรุ๊ปพวกเราจนได้ ตามดูกันต่อไปครับ


8:55 น. ขับมาถึงสมุทรสงคราม เราก็ต้องมาเจอกับรถติดยาวอีกแล้ว คราวนี้หยุดนานพอควร เวลาที่คิดว่าควรจะไปถึงเลยล่าช้าไปหลายชั่วโมง


เกือบถึงกุยบุรีฝนก็ตกลงมาเหมือนที่คิดกันไว้ เพราะครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาตลอดทั้งทาง ได้ฤกษ์ก็ตกลงมาซะเลย เราเลยแวะพักรถพักคนครั้งแรกที่ปั๊มปตท.ตามที่ได้เคยลงไว้แล้ว แน่นอนเรามาทานอาหารกลางวันกับกาแฟสดเอสเปรสโซ่ร้อนที่นี่ก่อนเดินทางต่อ


ออกจากกุยบุรี คราวนี้ฝนกระหน่ำมาตลอดทั้งทาง ปานกลางบ้าง หนักบ้าง จนบางครั้งต้องขับเข้าไปหลบฝนที่ปั๊มน้ำมันที่อยู่ข้างทางในช่วงที่ตกหนักจริงๆ และแล้วบ่ายสี่โมงครึ่งเราก็ขับเข้าเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีจนได้ ช้าไปกว่ากำหนดที่ตั้งใจไว้ถึง 3 ชั่วโมง


ผมตั้งหน้าตั้งตาขับรถมาตลอดทั้งทางโดยเฉพาะช่วงจะเข้าตรัง พอมาถึงที่ตัวเมืองตรัง เวลาทุ่มครึ่งพอดี เป็นอันว่าผมใช้เวลาในการขับรถถึง 12 ชม.เต็มๆ แต่พอมาถึงตรังก็ดันเสียเวลาหลงในตัวเมืองอีก 10 นาที เนื่องจากทางเป็นวันเวย์ในบางเส้น ไม่สามารถขับไปหาโรงแรมธรรมรินทร์ที่ตัวเองได้จองไว้ได้แม้ว่าเห็นอยู่ในแผนที่ว่าห่างจากที่ขับอยู่ไม่กี่ร้อยเมตร แต่หาเส้นทางขับไปไม่ได้ !!!

สุดท้ายก็มาถึงที่ห้องพักจนได้ พักที่นี่ก่อน 1 คืนแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยเริ่มท่องทะเลตรังกันอีกครั้ง พอหาอะไรทานมื้อเย็นผมก็รีบหลับเลยเนื่องจากเพลียกับการขับรถมากๆ ออกจะเป็นไข้อ่อนๆด้วยซ้ำ


เช้าวันที่สอง ณ ตัวเมืองตรัง
ทัวร์นัด 7:30 น. เราตื่นมารอที่ล็อบบี้ที่โรงแรมก่อน 10 นาที ทัวร์ไปรับลูกค้าอีกกรุ๊ปหนึ่งก่อนที่จะมารับเรา แต่แล้วเราก็รอไม่ได้เลยมาทานกาแฟสดที่ล็อบบี้โรงแรมซะก่อน ก่อนที่จะตามไปสมทบอีกทีที่ร้านโกหลั่น

คันนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่ารถหัวกบ ?


มาถึงแล้ว หมูย่างตรัง ร้านโกหลั่น ร้านที่มีชื่อดังของตรังเขา ซึ่งครั้งที่แล้วเราก็มาทานที่ร้านนี้เช่นเดียวกัน ใครมาที่ตรังแล้วไม่ได้แวะทานติ่มซำกับหมูย่างเมืองตรัง สงสัยจะยังมาไม่ถึงซะหล่ะมั้ง


โปรแกรมเลื่อนจาก 8:30 น.เป็นออกจากท่าเรือควนตุ้งกูประมาณ 10:00 น. เป็นท่าเรืออันเก่าที่เคยมาขึ้นตอนไปเกาะกระดานเช่นเดียวกัน


คนนี้แหล่ะ กัปตันเรือของเรา คนที่พวกเราในกรุ๊ป 6 คนที่ต้องฝากชีวิตไว้ใน 3 วันต่อจากนี้ไปในน่านน้ำทะเลตรัง


เอ๊ะ....ในเรือมีฝนตกลงมาด้วยเหรอ เห็นกางร่มกันด้านหน้า เฉลยให้ก็ได้....พอดีเวลาแล่นเรือ คนที่นั่งด้านหน้าจะโดนนำทะเลกระเซ็นเข้ามา เลยต้องกางร่มป้องกันไว้ ช่วงไปสายๆวันแรกฝนยังไม่ตกหรอกครับ


เรือแล่นไป 20 นาทีได้ เราก็ผ่านกับรีสอร์ทระดับหรูตั้งอยู่ตรงแหลมของเกาะมุก เกาะที่เราจะมาพักกัน แต่ไม่ใช่ที่นี่แน่นอน เพราะที่นี่เขาบอกว่าแพงมาก 8000 บาทมั้ง มีชื่อว่าศิวาลัย รีสอร์ท(อันนี้ไม่แน่ใจครับ) แต่ยอมรับว่าสวยจริงๆ ตอนปี 48 ที่มาผ่านตรงจึดนี้เห็นกำลังสร้างกันอยู่เลย มาบัดนี้เปิดใช้บริการแล้ว


ใจอยากพักที่นี่ที่สุดเลยยยยยยยย โลเคชั่นดีมากๆ ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นไปในทะเล แต่ถ้าสึนามิมาก้กวาดเรียบ


มาถึงแล้วเกาะมุก ความไม่ประทับใจอันแรกคือ ถึงฝั่งไม่มีไกด์มารับเลยครับ ไหนตอนอยู่ฝั่งบอกว่าไกด์มารออยู่ที่เกาะแล้ว ปล่อยให้พวกเราเดินไปถามคนเกาะเองว่าไปที่พักไปยังไง


พวกเราเดินผ่านเกาะมุก ชาลีบีช รีสอร์ท แล้วมันรู้สึกเหมือนลูกเมียน้อยยังไงไม่รู้แฮะ ที่นี่สวยจริงๆ รู้งี้พักที่นี่ดีกว่า แต่ชอบทางเดินที่ขนาบข้างด้วยต้นมะพร้าวสูงๆจังเลย


ถึงแล้วที่พักของเราในวันนี้ เกาะมุกรับเบอร์ทรีบังกะโล จำไว้นะครับทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกผม อย่าไปใช้บริการเชียว 6 คนเข็ดกันหมด

เพิ่มเติม
ลืมบอกไปว่า พอมาถึงยังที่พัก คนที่นี่ไม่รู้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเวลานี้ คนที่พักอยู่ก็ยังไม่ออก แล้วเขายังไม่ Co กันระหว่างฝั่งกับที่นี่อีก โปรแกรมเที่ยวเด็กที่นี่ก็ไม่รู้อีกว่าจะพาไปไหน ดีที่ผมาพิมพ์ออกมาด้วย แล้วไปยื่นให้เขาดูพร้อมกับกำชับว่า ช่วยทำตามโปรแกรมด้วย !


นี่ครับที่พักของเรา ตอนจองดูในเว็บมันคล้ายๆเม้าเท่นที่หลีเป๊ะ แต่จริงๆผมไม่ซีเรียสที่พักหรอกครับ แต่พอมาถึงต้องซีเรียสครับ เพราะห้องมีกลิ่นอับมากๆ ไม่เวิร์คเลย


งงอยู่ตั้งนานว่าชื่อ รับเบอร์ทรีมันคืออะไร นี่ไงหล่ะที่มา "ต้นยาง" นั่นเอง


อ๊ะ....หงุดหงิดไปใย...เจ้าคนที่บอกว่าไกด์มาแล้ว เลยลงมารอลงเรือที่หน้าหาดอีกครั้ง ผ่านชาลีบีชอีกแล้ว มีสระว่ายน้ำให้ลงเล่นด้วย บาดตาบาดใจจริงๆเมื่อเปรียบกับที่พักของเรา


มานั่งรอกัปตันเรืออีกแล้ว มาทัวร์ครั้งนี้มีแต่รอครับท่าน ลูกทัวร์รอไกด์ครับ เพิ่งเคยเจอ มองออกไปด้านหน้าที่เห็นอยู่ก็เกาะกระดานครับ ไม่แน่ใจว่ามีอีกชื่อว่า เกาะแมวน้อยเปล่า 555


ระหว่างรอก็แอบถ่ายที่พักแบบบังกาโลของชาลีบีช แบบนี้น่าจะเป็นพัดลม ราคาถูกสุดของที่นี่ ก่อนมาสอบถามราคาคือ 700 บาท/คืน ก็ไม่แพงเนอะ


มามองฝั่งขวาของหาดบ้าง เกาะที่เห็นอยู่เป็นเกาะแหวนครับ


โอวว....ผลอะไรไม่ทราบได้ มีขึ้นอยู่ตามริมชายหาด


เฮ้อ....ถ้ามีเวลาคงมานั่งให้นวดที่นี่นะเนี่ย เสียดายเวลามีน้อย


เอาหล่ะ ได้เวลาลงเรือไปท่องเลตรังกันดีกว่า


นั่งเรือมาไมนานก็ถึงแล้ว ปากทางเข้าถ้ำมรกต จะให้นานได้อย่างไร เพราะถ้ำมรกตก็อยู่ที่เกาะมุกนี่แหล่ะ แต่อ้อมๆไปด้านหลัง


มามะ ได้เวลาลงน้ำไปด้วยกันแล้ว


อ้าว...เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง ต่อๆกันไปเดี๋ยวหลงทางในถ้ำ ทัวร์ที่สวนทางกลับมามีไกด์คอยเป่านกหวีดเป็นจังหวะดัง ปี๊ด...ปี๊...ปี๊ด ด้วย บรรยากาศสนุกจริงๆครับ


แสงสาดเข้ามาแล้ว อีกนิดเดียวก็ถึง...ถ้ำมรกต


เข้ามาก็จะเจอกับบรรยากาศนักท่องเที่ยวเยอะแยะอย่างที่เห็นในภาพเลย ต่างคนต่างสนุกสนานกัน


ข้างในถ้ำมรกตก็จะเป็นปล่องโล่งๆเปิดสู่ฟ้ากว้างด้านบน


เข้ามาหลบแดดเล็กน้อย


ได้เวลากลับมาขึ้นเรือแล้ว และจุดนี้แหล่ะ เป็นจุดที่น้ำเข้าถุงกันน้ำของกล้องผมเล็กน้อย มาเจออีกทีก็ตอนที่ขึ้นเรือแล้วมาเปิดกล้องอีกครั้งจึงพบว่าหน้าจอ LCD ดับไป แต่สามารถเปิดปิดได้ ซูมได้ แต่ฟังก์ชั่นอื่นๆเช่นปรับ ISO แฟลช ฯลฯ ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะต้องดูจากหน้าจอ LCD อย่างเดียว ตอนนี้กล้องดิจิตอลผมเลยกลายเป็นกล้องฟิล์มป๊อกแป๊กกลายๆ


มาที่จุดที่ 2 ของทัวร์คือ เกาะเชือก ส่วนใหญ่เป็นปะการังแข็งเยอะเหมือนกัน เห็นนีโม่น้อยด้านขวามือมั๊ย ?


ตรงจุดนี้ปลาก็เยอะพอควร แหวกว่ายแข่งกับเราไปมา


ปะการังแข็งอีกจุดหนึ่ง


ส่วนนี่ปะการังเขากวาง เห็นจนเบื่อเลย


คราวนี้มาชมภาคนีโม่กันเต็มๆที่เกาะเชือก การถ่ายรูปต่อไปนี้ต้องยกเครดิตให้กับดวงแล้วหล่ะ เพราะมองไม่เห็นรูปที่จะถ่ายเหมือนแต่ก่อนแล้วเพราะจอ LCD ดับ เลยเล็งตาม view finder เอา

ตอนนี้นีโม่น้อยโผล่มาทักทายเราแล้ว แต่ออกจะเขินๆอยู่บ้างเล็กน้อย


ช็อตนี้ไม่เขินแล้วนะตัวเอง ขอโชว์ตัวซะหน่อย


ภาพนี้ช่วงที่ถ่ายน้ำแรงไปหน่อย ภาพเลยออกมาเบลอ ไม่งั้นได้เห็นแบบเต็มๆตัวแล้ว


ฮั่นแน่...หนีไปหลบในพุ่มดอกไม้ทะเล


นีโม่บอก "ขอหลบศัตรูในดอกไม้ทะเล บ้านของฉัน ปลอดภัยที่ซู้ดดดด"


อ๊ะๆ...โผล่ออกมาโชว์หุ่นอีกครั้งแล้ว


เบื่อยังครับ ? แต่ผมยังไม่เบื่อนะ 555


ดูๆไปก็สงสารเจ้านีโม่นะ ว่ายไปไหนไม่ได้นอกจากอยู่รอบๆดอกไม้ทะเล


ปลาการ์ตูนส้มขาวเป็นพันธุ์ที่พบมากที่สุด


ภาพนี้มองกล้องด้วยแฮะ(เลียนแบบคุณ ninue)


ว่ายน้ำอย่างสบายใจเลยนะ


เก็บทุกอิริยาบถเลย


เอ้า....นีโม่รูปสุดท้ายของวันนี้แล้ว เบลอไปนิดนึงครับ


หอยเม่นก็มีอยู่ไม่น้อย


ปลาเสือก็เยอะใช่เล่นนะ ว่ายจนจะชนกันอยู่แล้ว


ใครมาเที่ยวที่เกาะเชือกแล้วไม่มีที่พักก็มาพักที่นี่ได้นะ แต่ไม่แน่ใจว่าต้องโทรจองหรือเปล่า หรือว่า walk in ได้ก็ไม่รู้


จากเกาะเชือก เรือแล่นออกไปยังเกาะม้า แต่ขอถ่ายจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่งที่อยู่ระหว่างเกาะ 2 เกาะนี้ โดยที่จุดนี้จะมีปะการังอ่อนสีสีนสวยงามด้วย เสียดายทัวร์นี้ไม่ได้พาเราไปเช่นเคย ถ้าอยากไปคงต้องไปกับนีโม่ทัวร์ซะแล้ว


มาถึงที่เกาะม้า ไกด์จำเป็นบอกว่ามีปะการังอ่อน ให้ว่ายไปตรงนั้น เราว่ายดำดูตลอดไม่เห็นเจอเลย เจอแต่ดอกไม้ทะเลหลายๆกอแต่ไม่มีนีโม่นะ


และก็มีเจ้านี่สีเขียว ขนาดใหญ่เชียว


และแล้วกล้องผมก็ทำหน้าที่สุดท้ายของมันที่หน้าเกาะกระดาน ถ่ายรูปนี้เสร็จก็ขยับเปิดปิดกล้องไม่ได้แล้ว มันไม่รับแล้ว คงต้องรอ "ปาติหาน" ซะหล่ะมั้งในการเก็บภาพในวันที่ยังเหลืออยู่ แต่ผมก็ยังหวังลึกๆว่ามันจะเป็นแมวเก้าชีวิตที่จะกลับมาใช้งานได้ใหม่เหมือนอย่างที่เกอดขึ้นตอนไปหลีเป๊ะในวันสุดท้ายก่อนกลับครับ แต่นั้นมันแค่กดปุ่มฟังก์ชั่นไม่ได้แค่นั้นเอง 

งั้นผมขอจบวันแรกของการเที่ยวเลตรังหรือวันที่สองของทริปไว้เพียงเท่านี้ครับ แล้วช่วยกันลุ้นว่ากล้องผมจะกลับมารับใช้เจ้านายมันอีกในวันรุ่งขึ้นหรือไม่ ราตรีสวัสดิ์ครับ (_/\_)


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น