ตอนนี้จะพาไปแว้นต่อ โดยจะไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้า ที่อยู่ไม่ไกลจากหาดคลองเจ้า หลังจากชมน้ำตกเสร็จก็กลับมาหาเครื่องดื่มเย็นๆทาน ที่แมงโกรฟบังกะโล นั่งชิลล์ๆชมวิวลำคลองพร้อมกับดูคนพายคายัค สักพักก็กลับไปอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง มาทานอาหารค่ำที่นี่ที่เดิม
เลยจากแมงโกรฟฯไม่นานนัก ก็มาถึงส่วนที่ทำทางอยู่ครับ ดีครับ ป้ายชัดเจน กำลังบดอัดถนนเทปูน ผมชอบองค์การบริหารส่วนตำบลที่นี่นะครับ ความเจริญเข้ามาจริงๆ ถนนปูน/คอนกรีตสะดวกมากๆ น่ายินดีแทนคนที่นี่ครับ
หลังจากที่ทำทางมาก็ต้องเลี้ยวซ้ายไป ถนนคอนกรีตหมดไปตอนจะขึ้นเนินครับ เปลี่ยนเป็นดินผสมหินเกล็ดแทน ขี่ลำบากมากๆครับ เกือบจะเปลี่ยนใจแล้วถ้าทางไกลกว่านี้ แล้วก็มาถึงทางเข้าจนได้ จอดรถแล้วเดินเท้าต่อไป ประมาณ 300 เมตรมั้ง
มาๆ ตามมาด้วยกันค่ะ
ลืมบอกไปว่า ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชมนะครับ ซึ่งก็เหมือนกับทุกๆที่ แต่จะมีตู้รับบริจาคเพื่อนำเงินไปบูรณะปรับปรุงให้ธรรมชาติอยู่ดีต่อไป ตามกำลังทรัพย์ครับ ช่วยๆกัน
เดินถึงน้ำตกแล้ว ช่วงนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ เดินก็ระวังนิดนึงนะครับ เดี๋ยวจะลื่นเอา
น้ำตกที่ไหลมารวมกัน
ถ้าจะไปชมตัวน้ำตกจริงๆต้องเดินจับเชือกตรงจุดนี้ไป สำหรับผมขอบาย กระดูกกระเดี้ยวไม่ค่อยดี 555 เลยฝากเอ๋ไปเก็บภาพน้ำตกมาให้ชมด้วย อิอิ
ระหว่างรอก็จะเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นๆเล่นต่อซ้อนตัวกันไถลอย่างกับสไลเดอร์ โดยมีกล้องคิยถ่ายเก็บภาพไว้ ก็สนุกดีนะครับ ถ้ามากันกลุ่มใหญ่ๆ แต่ระวังตูดด้วย จะโดนหินบาดโดยไม่รู้ตัวเพราะเราไม่รู้ได้เลยว่าข้างใต้น้ำมีหินลักษณะไหนบ้างครับ แหลมหรือคม อันตรายมากๆ
นั่นแน่!...เอ๋ไปถึงแล้ว ส่งสัญญาณชู 2 นิ้วว่าโอเค ปลอดภัยดี
ก็ได้ภาพจากมือถือ LG มาแบบนี้หล่ะครับ พอดูได้เนอะ
ขากลับแอบถ่ายผม เฮ้ย...อ้วนมากๆ น้ำหนักขึ้นมาจมเลยเรา :(
หลังจากออกจากน้ำตกคลองเจ้า เราหยุดถ่ายที่พักริมทางเข้าก่อน ถ้าใครจะมาเที่ยวเกาะกูดแล้วที่พักเต็ม ตรงนี้ก็เป็นจุดที่สามารถเข้าพักได้นะครับ พวกที่ไม่ติดทะเลจะราคาถูกและไม่ค่อยเต็ม
แล้วเราก็แวะที่แมงโกรฟบังกะโลฯ อย่างที่ตั้งใจไว้ ตอนแรกเขาบอกพักเบรค จะเปิดอีกครั้งตอน 18.00 น. เราบอกว่าไม่ได้มาทานข้าว จะสั่งเครื่องดื่มเท่านั้น สุดท้ายก็โอเค
นั่นไง...มีแขกบ้านพักของที่นี่มาพายคายัคกัน ซึ่งบริการฟรีของที่นี่สำหรับแขกที่พักที่นี่นะครับ สนุกสนานกันไป
ในที่สุดเครื่องดื่มก็มาเสริฟจ้าาา ของผมแตงโมปั่น(70 บาท) ส่วนเอ๋น้ำมะดาวโซดา(60 บาท) ชื่นใจจริงๆ
ณ เวลานี้ เรือคายัคหายไปไหนหมดแล้ว
อ้าว....อีก 20 นาทีก็มีคนลงไปพายกันอีก ทริปนี้เราไม่ได้พายคายัคครับ เพราะอยากใช้เวลาแบบชิลล์ๆ ไม่อยากใช้แรงมากนัก 555 ปล.ทริปที่ไปพายคายัคล่าสุดก็ที่อ่าวท่าเลน จ.กระบี่ เมื่อเดือนมีนาคม 57
กลับมาที่พักครับ ได้กุญแจบ้านพักหลังใหม่ อยู่ด้านหน้ากว่าเดิม ใกล้ทะเลกว่าเดิม แต่จริงๆอยากได้บ้านพักหลังที่ไม่มีปัญหานะครับ
เตียงนุ่มๆ
อีกมุม มองเห็นด้านหน้าที่เป็นวิวทะเล
เหมือนเดิม มีโทรทัศน์และดูบ่ได้ เพราะหน้าโลว์ไม่ได้จ่ายค่าสมาชิก ฮือๆ
ถ้าไม่นับเรื่องอื่นๆ ที่พักที่ฮอริซอนรีสอร์ทก็วิวสวยดีนะครับ ใต้ธรรมชาติด้วย
อาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาเดินเล่นที่ด้านหน้ารีสอร์ท บาร์ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าช่วงหน้าไฮท์จะเปิดบริการมั้ย แต่ที่แน่ๆตอนนี้ไม่เปิดนะครับ ร้างไปเลย
พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้วครับ ต้องรีบไปแล้ว
มองไปทางซ้ายมือ เพื่อนๆจำได้มั้ยเอ่ย? ว่าสะพานไม้นี้ที่ไหน ก็ที่อาณาเลรีสอร์ทไงครับ ณ ตอนนี้คนออกมาเดินเล่นที่สะพานไม้เยอะเลย
ส่วนนี่เป็นฝั่งขวามือ สะพานไม้เช่นกัน ไม่แน่ใจว่าของรีสอร์ทอะไร ง่ามโข หรือดุสิตา ก็ไม่ทราบได้ แต่ดุสิตา ณ ตอนนี้ปิดครับ ส่วนด้านหลังเป็นต้นมะพร้าวสูงชะลูดซึ่งมีอยู่เยอะมากๆเลย
ออกจากฮอริซอนรีสอร์ทแล้วนะครับ มุ่งหน้าแมงโกรฟบังกะโลฯ
มาถึงแล้ว แสงยังมีอยู่ สั่งข้าวแล้วมาถ่ายรูปกันก่อน นางแบบมุมโค้งน้ำครับ
กับร่มสีเหลืองบ้าง
เอาหล่ะ...อาหารยังไม่มา แต่เบียร์มาก่อนแล้ว จัดไปครับ แรงมากด้วย ไม่กี่อึกก็รู้ว่ามึนแล้ว
อะไรเอ่ย? ให้ทาย....ติ๊กต่อก...โคมไฟที่ทำด้วยไม้สานนั่นเอง ถ่ายช้อนขึ้นไปบนเพดาน
กับข้าวมาเสริฟปล้วครับ ปลาหมึกย่าง ผัดบร็อคโคลี่กับกุ้ง
และเมนูท้ายสุด เพิ่งสั่งมา ปลาปากบางทอดน้ำปลาครับ ปลากะพงที่นี่ไม่มี เลยลองดูซะหน่อย ขอตินะครับ อร่อยดีแต่เค็มไปพอประมาณเลย
เบ็ดเสร็จมื้อนี้ 745 บาท ลดเหลือ 740 บาท ก็ถือว่าโอเคครับ ไม่ได้แพงอะไรมาก อิ่มไปตามๆกัน ก็ยอมรับว่าอาหารที่นี่อร่อยจริงๆครับแวะมาได้นะครับ
เป็นอันว่าสิ้นสุดวันที่ 2 ในเกาะกูดแล้ว แล้วมาติดตามกันต่อ พรุ่งนี้เราก็กลับกันแล้วครับ
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น