วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มิงกาลาบา สักการะ 4 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตอน 4 ได้เวลาลงจากเขาไจทิโย และเก็บตกวัดก่อนกลับเมืองไทย


มาถึงตอนที่ 4 ตอนสุดท้ายแล้วครับ ตอนนี้จะพาลงเขาไจทิโย แล้วแวะวัด Kyaikpawlaw วัดที่มีพระไฝเลื่อนไปสักการะท่านและมุ่งกลับย่างกุ้งโดยตรง เพราะมีไฟล์ทบินกลับช่วงเย็น ถ้าไปถึงย่างกุ้งเร็วก็จะตามไปเก็บวัดและสถานที่สำคัญต่างๆที่พลาดไปตอนมาถึงวันแรกให้ครบหมด ส่วนจะเก็บได้หมดมั้ยต้องรอติดตามชมกัน และสุดท้ายจริงๆคือ Mr. Ye ต้องไปส่งเราที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับไทยโดยสวัสดิภาพครับ


ตื่นเช้ามา 7 โมงเช้า แฟนตั้งใจจะตื่นมาใส่บาตรตอนตี 5 แต่สุดท้ายก็ตื่นไม่ไหวจนได้ เลยนอนต่อ มาตื่นอีกทีตอนเกือบๆ 7 โมง อาบน้ำทำธุระก็พบกับวิวพระธาตุอินทร์แขวนยามเช้าสดใส อยู่ไม่ไกลออกไป สามารถเห็นได้จากที่พักนี้เลย


แวะทานอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนเลยครับ รวมอยู่ในค่าห้องแล้ว เช้านี้มีกรุ๊ปคนไทยหลายกรุ๊ปทีเดียว


อาหารมีทั้งผัดหมี่ ไข่ดาว และข้าวต้มกับ เครื่องดื่ม น้ำพั๊น และกาแฟ


ทานเสร็จก็เดินไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวนก่อนกลับครับ ผู้เฒ่าผู้แก่ไม่ไหวก็ขึ้นเสลี่ยงกันมาเลย


แวะพักที่ลานตีระฆังนี้ก่อนนะครับ


และก็ไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวนก่อนกลับครับ


เดินแวะไปร้านค้าด้านล่างเนื่องจากจะแลกเงินแจ๊ดซะหน่อย เหลือไม่พอจ่ายค่ารถลงไป แต่สุดท้ายร้านก็ไม่มีให้แลก แถมยังต้องเสียเงินแจ๊ดค่าน้ำอัดลมอีก


ในที่สุดก็ได้ไปแลกที่โรงแรมที่พัก แลกมา 10 USD ได้ 8,000 แจ๊ด  แล้วเราก็เช็คเอ้าท์ เดินไปขึ้นรถหกล้อตามเดิม


ตรวจเช็คจำนวนคนกันก่อนจะออกจะท่า


ขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ก็ยังไม่ได้ออกหรอกครับ อีกสักพักหนึ่ง เห็นป้าย premier coffee แล้วก็ขำ เพราะไม่เห็นมีกาแฟเลย มีแต่ขายหมาก


และแล้วก็ได้เวลาสนุกกันอีกแล้ว ข้างหน้าเป็นโค้งซ้ายครับ จับกันให้แน่น


ระหว่างทางก็จะเห็นเจดีย์ทองครอบลงบนหินแบบนี้อยู่เป็นระยะเลยครับ


ชาวบ้านนำเสื้อผ้ามาซักที่แอ่งน้ำใกล้ๆ


พระเณรกำลังเดินบิณฑบาตรขึ้นสวนมา คงจะเหนื่อยน่าดู


แต่รถแล่นไปได้เกือบๆ 1 ใน 3 ก็ต้องจอดรออะไรบางอย่าง นั่นคือรอรถที่กำลังแล่นสวนขึ้นมาครับ พอดีช่วงทางจุดนี้กำลังทำทางพอดี แล่นได้เลนเดียว จอดรอนานมาก นานจนมีคนมาขายของ

ในรูปเป็นชาวอินเดีย(คล้ายๆโรฮิงยา) มาขายโซมาสะกับอะไรทอดก็ไม่รู้ ร้องแปลกๆดี ขนาดคนพม่าเองยังล้อกันเลย


เตรียมเงินค่ารถ 5,000 แจ๊ด 2 คน เขาเก็บตรงนี้เลย


หยุด...นี่คือการปล้น เปล่าหรอกครับ มาขายปืนเอ็มสิบหกหลอกๆ เสียงดังคล้ายๆกัน เหมือนทีเดียว


อีกโค้งหนึ่ง ชั้นมากๆครับ เป็นโค้งสุดท้ายก่อนจะเป็นทางตรงแล้ว


พอมาถึงที่คิมปุนแค้มป์ ก็เจอกับ Mr. Ye ที่มารับพอดี ไม่ต้องเสียเวลาเดินหาเลยครับ แล้วเราก็ไปต่อที่วัดในเมือไจทิโย นั่นคือวัด Kyaikpawlaw ที่มีพระไฝเลื่อนอยู่ครับ

พระไฝเลื่อน ซึ่งมีอายุมากกว่า 2,000 ปี โดยมีเรื่องเล่าที่น่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก คือได้มี รายการ National Geographic Society มาทำการถ่ายทำที่วัดไจ๋ป๋อรอหลายครั้งแต่กลับพบบริเวณตำแหน่งไฝที่หน้าผากจะไม่ตรงกันเลยสักครั้ง จะเลือนได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทที่เรียกวัดนี้เป็นอีกชื่อหนึ่งว่า วัดพระไฝเลื่อนนั้นเอง

ลองมองดูที่มุมซ้ายมือของเรา ขมับขวาของพระนะครับ จะเห็นจุดดำๆ นั่นคือไฝนั่นเอง


ศิลปะภายในวัดครับ


เป็นพระพุทธรูปนอนปางแปลกๆครับ ไม่เคยเห็นมาก่อน เอาแขนเท้าพื้นด้วย


น่าจะเป็นที่วัดเดียวกัน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน เดินเข้าไปตามทางนี้เลย


พระพุทธรูปมหามุนีคล้ายกับในเมืองมัณฑเลย์


บริเวณลานของวัด มีรูปปั้นปูนแสดงการออกเทศนาของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์


พระพุทธเจ้ามีนาคมาปรก


อีกรูปหนึ่งก่อนจะเดินทางต่อ


จากเมืองไจทิโยมาถึงย่างกุ้งใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งโดยไม่พัก Mr.Ye ถามเราว่าอยากทานอาหารอะไร ก็บอกไปว่าอาหารจีน เลยพามาที่นี่เลย หรูมากๆครับ ตกใจเลย


สั่งข้าวผัดทะเลมาทาน รสชาติก็โอเคนะครับ


เกี๊ยวซ่า น่าทานมั้ยครับ?


เลือกนั่งกันเป็นห้องๆเลยครับ


นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ส่งโปสการ์ด นี่เลยครับ Mr.Ye พามาที่ทำการไปรษณีของย่างกุ้ง จัดส่ง 12 ใบให้เรียบร้อย แสตมป์กลับไทยใบละ 18 บาทครับ (โปสการ์ดมาไม่ถึงเลยครับ)


แล้วก็พามาวัดพระหินขาว หรือ Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image ซึ่งวันแรกที่มาพม่าเราเก็บไม่ครับ


ทางเดินบันไดขึ้นไป ไกลพอดู


พระหินขาวโดนครอบด้วยกระจกใสอีกทีหนึ่ง ซึ่งการถ่ายรูปให้สวยทำได้ยากมาก

พระหินขาวนี้สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย


และพาไปวัดสุดท้ายก่อนจะพาไปส่งที่สนามบิน


มีพระพุทธรูปลำตัวสีเขียวทีเดียวครับ


จวบจนบ่าย 3 โมง Mr. Ye ก็พาเรามาส่งที่สนามบินอย่างปลอดภัย เราประทับใจ Mr. Ye มากๆครับ เลยให้ทิปไปเป็นดอลล่าร์และเงินแจ๊ดพม่า ถ้าใครจะไปพม่าผมแนะนำคนนี้เลยครับ

ในรูปเป็นประติกากรรมนูนต่ำบนผนังของสนามบินย่างกุ้ง


ยืนรอเข้าแถวเช็คอินเป็นครึ่งชั่วโมงเลยครับ แม้พนักงานจะมารออยู่ที่เาน์เตอร์แล้วก็ตาม แต่ไม่ยอมเปิดสักที


ผ่านตม.เข้ามาแล้วครับ พื้นมันวาวจริงๆเลย


นั่งรอที่เกต 2 เครื่องบินแอร์เอเชียมาจอดรอเราแล้ว


และแล้วก็ถึงเวลาต้องลาจากพม่า ประเทศที่เราทั้งสองประทับใจ ผู้คนยิ้มแย้ม เป็นมิตร ให้ความช่วยเหลือ บ้านเมืองก็สะอาด และเราก็หวังว่าจะได้มีโอกาสมาเยือนอีกครั้ง ครั้งต่อไปขอบินไปมัณฑะเลย์ ไปร่วมพิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี


ท้ายสุด สุดท้ายฝากลาด้วยภาพนี้ Camera fee หรือค่าธรรมเนียมกล้อง ทั้งหมด 6 ใบ ติดไว้ที่สายสะพายกล้อง

เอเย่นท์ที่เราติดต่อรถเช่า
john suchart <aroundmyanmar@googlemail.com> หรือคุณไข่ Khune Khine

ส่วนถ้าเป็นของ Mr. Ye โดยตรง yuri.transportation@gmail.com <--- เมล์นี้ไม่ค่อยตอบครับ แนะนำด้านบนดีกว่า
สรุปค่าใช้จ่ายเรื่องรถ
1.เช่ารถวันที่ 1 ชมวัดในย่างกุ้ง = 40,000 แจ๊ด
2.เช่ารถม้าวันที่ 2 ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น + ชมเจดีย์ที่พุกาม = 27,000 แจ๊ด
3.เช่ารถวันที่ 3 ไปรับที่สถานีขนส่งย่างกุ้ง + ไปหงสา + ไปส่งทางขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน = 110,000 แจ๊ด
4.เช่ารถวันที่ 4 มารับที่ทางลงพระธาตุอินทร์แขวน + ชมวัดในไจทิโย + กลับย่างกุ้ง + ส่งสนามบิน = 100,000 แจ๊ด

ติดตาม ภาค 2 ไปเก็บอีก 1 มหาบูชาสถานจบครบในเดือนมิถุนายน 2557
http://athlons.blogspot.com/2014/06/Mandalay-01.html


เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น