23 วันในอินเดีย สุขหรือทุกข์ ? ตอน 1 ได้เวลาเดินทางไปมุมไบ (Mumbai) ครั้งแรกที่ไปอินเดียเลยนะเนี่ย

[ตอน 1] [ตอน 2] [ตอน 3]

ผมได้มีโอกาส(หรือเปล่า?) ไปประเทศอินเดียในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเรื่องงานครับ ต้องไปอบรมเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง ไปกินนอนถึง 3 สัปดาห์กว่าๆด้วยกัน จริงๆ แล้วควรได้ไปอิตาลี่ตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้วด้วยซ้ำ แต่ด้วยโชคไม่เข้าข้าง เลยต้องหกระเหเร่ร่อน มาถึงคิวไปอินเดียเอาต้นปีนี้ ซึ่งจริงๆก็หนีการไปอินโดนีเซียเมื่อปลายปีมาเหมือนกัน ฮ่าๆๆ  แม้โชคชะตาไม่อำนวยแต่ก็ขอทำให้ดีที่สุดด้วยกันคร้าบบบ Go Go!

เวลาทุ่มกว่าๆ ผมก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ถ่ายกับยักษ์ตนนี้ซะหน่อย ยืนสูงชะลูดเลยยย

เช็คอินเสร็จก็ไปหาอะไรทานก่อน เอ๋มาส่งที่สนามบินครับ เลือกมิสเตอร์โดนัทร้านที่อยู่ชั้นใต้ดิน หน้าสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ ยังเหลือเวลาอีกหลายชม.

เอาหล่ะ...ได้เวลาบอร์ดดิ้งแล้ว การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า ชอบเบาะนั่งสีสันสวยงามครับ ไฟล์นี้โล่ง ไม่เต็ม เราต้องบินไปลงมุมไบหรือบอมเบย์ในสมัยก่อน ทริปนี้ไม่พลาดเอายาดมมาด้วย 555 วิงเวียนตั้งแต่ขึ้นเครื่องกันเลยทีเดียวจ้า อ้อ....ทริปนี้ไป 3 คนด้วยกันครับ ผมและน้องอีก 2 คนที่ทำงาน
ไฟล์นี้ออกประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง จากดึกไปถึงมุมไบยิ่งดึกเข้าไปใหญ่ ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม.ด้วยกัน

ประมาณเวลา 01.30 น.ก็มาถึงสนามบินมุมไบกันแล้ว เวลาที่อินเดียช้ากว่าไทย 1 ชม. 30 นาทีครับ ง่วงนอนมากๆครับ ได้กลิ่นแขกกันเต็มจมูกเลย ยาดมช่วยได้มากสุดๆ น้องอีก 2 คนก็เอามาด้วย 555 ไม่พลาดเช่นกัน ว่าแต่สนามบินเขาก็สวยนะครับ แปลกตาดี

มาแล้วหล่ะครับ รถจากโรงแรมที่จองไว้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมุมไบนี้เลย เลือกมาแล้วครับ อิอิ สำหรับทริปเรื่องงานนี้ ผมจองเองให้น้องๆทั้งหมดด้วย

รถแล่นเข้าถนนหลักแล้ว กล้องไม่ดี ภาพเลยออกมาห่วย เพราะไม่ได้เอากล้อง DSLR ไปด้วย

พอมาถึงทางเข้าโรงแรม ก็ต้องเอากระเป๋าสัมภาระยกลงมาเข้าเครื่องสแกนกระเป๋ากันอีกครั้ง โห....security อะไรจะขนาดนั้นนะ แต่ก็เห็นด้วยครับ

เข้ามาถึงโรงแรมแล้ว นั่นคือโรงแรม Sahara Star Hotel อยู่ในระดับ 3 ดาวขึ้น สวยงามจริงๆครับ คืนละประมาณ 5 พันบาทขึ้น จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้แล้ว แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้จ่ายอยู่แล้ว บริษัทจ่ายให้ 555

มาถึงห้องพักกันแล้ว เปิดประตูมาก็เป็นแบบนี้ สวยงามมากๆ ไม่คิดว่าโรงแรมที่อินเดียจะดูหรูแบบนี้นะเนี่ย เซอร์ไพร์สมากๆ ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำครับ

มาดูเตียงกันบ้าง ดูหรูเชียว ชอบๆ พื้นไม้ลามิเนตก็สวยงาม มีโต๊ะทำงานด้านหลังด้วย

มองไปฝั่งห้องน้ำ อ้าววว กระจกใสซะ ดีนะที่พักห้องละคน ไม่งั้นแย่แน่ๆ

หมอน..โอ้ววว คุณสมบัติเพียบ เป็นหมอนไมโครไฟเบอร์ ป้องกันแบคทีเรียด้วย

โต๊ะทำงานจร้า มองเห็นวิวด้านนอกสวยงามง่ะ

ดูวิวสิครับ สวยมากๆ เป็นโรงแรมแบบทรงกระบอก โค้งเข้าหากัน ด้านหลังนี้มีร้านอาหาร ร้านขายของ ลานกิจกรรม และอื่นๆอีกเพียบเลยครับ

ไม่พลาดที่จะเอาโน้ตบุคส่วนตัวมาด้วย ไม่ได้เอาโน้ตบุคที่ทำงานมา

ห้องน้ำครับ เพิ่งเคยเจอ โถชักโครกมันยึกกับผนังด้านข้างไม่ได้ยึดกับพื้นครับ แล้วมันจะรับน้ำหนักได้มั้ยเนี่ย??

อันนี้ถ่ายจากห้องน้ำไปหาเตียงนอนนะครับ ใสกิ๊ก

พอถึงเวลาช่วงสายๆของวัน ก็ออกจากโรงแรมมาเดินสำรวจด้านนอกกันบ้าง รถเยอะเยอะจอแจมากๆ

ตุ๊กๆ รถต้นแบบ หรือไทยต้นแบบนะ งง?

กลับเข้าโรงแรมดีกว่า ป้ายชื่อโรงแรมครับ Sahara Star Hotel

ทานอาหารเช้า เอ๊ะ...ไม่ใช่สิ อาหารสายแล้ว อิอิ เป็นแบบบุฟเฟต์ คิดตามหัวครับ จำราคาไม่ได้แล้วเช่นกัน 555

มาอินเดีย แต่กินอาหารแบบอเมริกันซะงั้น 555 แบบอินเดียไม่ไหวครับ

ทานเสร็จก็ออกมาเดินย่อยอาหารภายในล็อบบี้โรงแรมกันหน่อย โดยช่วงบ่ายจะมีไฟล์ทบินไปเมืองดิว (Diu) ตอนแรกอ่านว่า ดี-ยู กัน แต่พอได้ยินชาวอินเดียวพูดแล้วก็เลยครับว่าอ่านผิด

นั่งรอก่อนได้ ไม่รีบ

วิวที่มองลงไปจากด้านบนห้องพักครับ ร้านต่างๆจัดที่นั่งได้หรูเชียว น่าไปนั่งมากๆ

ลิฟท์ใสจ้าาา

ตรงนี้เป็นโต๊ะวางโทรศัทพ์และมีการตกแต่งด้วย

เอาหล่ะครับ ประมาณ 11.00 น. ตามเวลาในอินเดีย เราก็ต้องเดินทางต่อไปสนามบินมุมไบอีกครั้งแล้ว ไม่ไกลครับ ใกล้ๆกันเลย เพื่อจะบินภายในประเทศด้วยสายการบิน Jet Airways ไปเมืองดิวละครับ ไว้มาต่อกันในตอนนห้าที่สนามบินมุมไบกันนะครับ บายๆ
ปล.ดูคนยกกระเป๋าคนนี้สิครับ ชุดก็แปลกอย่างกับอาละดิน หุ่นก็ใช่ ตัวใหญ่มาก ชอบๆ

[ตอน 1] [ตอน 2] [ตอน 3]

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ