แล้วจะไปไหนดีหล่ะครับ ?? คำตอบนี้ตอบไม่ยากเพราะไปเหนือมาแล้ว จะไปอีกครั้งก็คงไม่ไหวแล้ว ผมจึงเล็งทะเลหรือไม่ก็เกาะ ตัวเลือกแคบมาแล้ว เหลืออยู่ 2 ที่คือ เกาะเต่า หรือเกาะกูด ความที่เกาะเต่าผมเคยอยากไปนานมากแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที มาคราวนี้เลยตัดสินใจไปเกาะเต่า
ผมเริ่มหาข้อมูลทางเน็ต ไม่ว่าจะเป็นจากเสิร์ชเอ็นจิ้นชื่อดังอย่าง กูเกิ้ล บันทึกนักเดินทางของ BP TKT โดยเฉพาะบันทึกนักเดินทางนั้น ผมได้ข้อมูลจากคุณบ้านนอกทันสมัย(destin) ที่ได้เขียนบันทึกไว้ ทำให้มีข้อมูลมากขึ้น อีกทั้งได้เข้าไปเก็บข้อมูลจากที่เพื่อนๆใน BP นี้ได้ถามไถ่กัน และอีกคนก็คือคุณยูโดที่ได้สอบถามข้อมูลทางหลังไมค์ก่อนไป และอาจมีตกหล่นบ้างที่ไม่ได้เอ่ยนามในที่นี้
ผมตัดสินใจเลือกซื้อแพ็คเกจเหมือนคนอื่นๆเขาเพราะลองเปรียบเทียบกับแยกซื้อเองจะแพงกว่าพอควร แต่ผมเลือกที่จะขับรถไปเองไม่ได้ไปขึ้นที่ตรอกข้าวสาร เนื่องจากคำนวณเวลาดูแล้วผมคงกลับมาจากที่ทำงานในตจว.คงไม่ทัน เลยเอารถไปเอง ดังนั้น แพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน ที่เกาะเต่าจะราคา 2,900 บาท / คน เรามาเริ่มเที่ยวทะเล ทะเล้ ทะเล ครั้งแรกในปีนี้ที่เกาะเต่ากันเลยครับ...
กิโลเมตรเริ่มต้น : 208,820
การขับรถตอนกลางคืนนั้น ผมเองยึดมั่นมาตลอดว่าจะไม่ขับไปต่างจังหวัดตอนกลางคืนเด็ดขาด เพราะทัศนะวิสัยของคนเราจะไม่ดีเหมือนตอนกลางวัน แต่มาครั้งนี้ต้องยอมเพราะด้วยเวลาขึ้นเรือจากท่าเรือชุมพรไปเกาะเต่ามันบังคับ แต่ยอมรับว่าเข็ดจริงๆแฮะ ทั้งไฟจากหลอดฮาโลเจน ,ไฟส่องทาง 4 ดวง ,ไฟแต่งเอย ฯลฯ ผมหล่ะยอมพวกพี่เลยครับ แสงเข้าตาแล้วหงุดหงิดมาก
เอาหล่ะ....เที่ยงคืนพอดีผมก็ขับมาถึงอ.กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ แวะปั๊มปตท.เข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟกันง่วงก่อนครับ แต่ต้องมาสะดุดกับการตกแต่งห้องน้ำของที่นี่เลย ตกแต่งแนวบาหลีครับ แยกทางเข้าชายและหญิงออกเป็นสองฝั่ง ยอมรับว่าสะอาดน่าใช้มาก
ขับไปเรื่อยๆพร้อมกับเพื่อนร่วมทางที่มีน้ำใจบ้างไม่มีน้ำใจบ้างสลับกันไป ไม่น่าเชื่อ ผมมาถึงตัวเมืองชุมพรตอนตีสามครึ่ง !! เหมือนกับโดนหลอกให้ออกเร็วเลยแฮะ เวลาที่เหลือทำอะไรดีอ่ะ หาอะไรกินและแวะตลาดสดดูของสดๆดีมั๊ย ?
ผมแวะทานขนมปังปิ้งและกาแฟโบราณริมข้างทาง เพื่อรอรับเช้าวันใหม่
ถึงจะดูดึกแต่ตลาดสดของที่นี่จะคึกคัก มีแม่ค้าทยอยนำผักผลไม้ เนื้อสัตว์มาวางจำหน่ายรอลูกค้าต่อไป
ผมไม่ได้เดินตลาดสดแบบนี้เป็นสิบปีได้มั้งครับ มองดูแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆตอนเด็กๆที่มากับแม่และพี่จัง ร้านนี้ห้อยปลาเค็มไว้อย่างน่ากินเลย
หลังจากเดินฆ่าเวลาที่ตลาดสด อ.เมืองชุมพร ผมออกเดินทางต่อไปยังท่าเรือปากน้ำชุมพร ก่อนไปก็ถามทางชาวบ้านที่ตลาด ผมเดินทางไปอีกประมาณสิบกว่ากม. ท่าเรือท่ายางของบ.ส่งเสริมจะเลี้ยวซ้ายไป ส่วนท่าทุ่งมะขามน้อยของบ.ลมพระยานั้นเลยไปอีกไกล ท่าเรือปากน้ำฯอยู่ระหว่างท่าทั้งสอง คุณเฮเลนจองเรือซีทรานเฟอรี่ให้ผม เป็นเรือเร็วเขียนไว้ว่าใช้เวลาเดินทางจากท่าปากน้ำชุมพรไปเกาะเต่า 1 ชม. 30 นาที ผมมาถึงยังไม่มีใครเปิดคอนเฟิร์มตั๋วเลย ที่นี่ผมเจอพี่สดใส ครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในนครปฐมมาเป็นคนแรก
ผมนั่งหลับในรถที่จอดไว้ เพื่อเอาแรงเพราะขับรถมาตลอด 6 ชม. ลืมบอกไปว่าตามกำหนดการ เรือออกเวลา 7:00 น.
เวลา 6:30 น. ผมเดินเข้าไปนั่งในเรือ ที่นั่งใหม่สะอาด มีป้ายภาษาจีนทำให้นึกถึงเรือ Turbo Jet ที่วิ่งข้ามฟากจากมาเก๊าไปฮ่องกงเลยแฮะ
เรือออกจากท่าปากน้ำฯจริงๆ ก็เกือบ 7 โมงครึ่ง วันนี้นักท่องเที่ยวเต็มเรือ(วันอื่นๆก็น่าจะเต็มนะ) พอเรือออกจากท่า ผมไม่ลืมที่จะนำ GPS จับเส้นทาง, ความเร็วเรือ และระยะทางว่าไกลสักแค่ไหน ต่อจากนั้น .... หลับครับ...คงเหนื่อยมาจากการขับรถ ตื่นมาครั้งที่สองก็เจอกับภูเขาอยู่ด้านซ้ายมือ สงสัยจะเป็นเกาะเต่าแน่แท้ วันนี้คลื่นไม่แรงครับ ไม่รู้สึกว่านั่งเรือระยะทางไกลแต่อย่างใด สังเกตคร่าวๆแล้วผมยังไม่เจอคนเมาเรือจนอ๊วกเลยเที่ยวนี้
เรือเทียบท่าที่เกาะเต่าประมาณ 9:20 น. แต่ผมใช้เวลาเดินออกจากท่าเรือ(โป๊ะ)นานทีเดียว เพราะทางเดินแคบมาก ผมว่าน่าจะขยายให้กว้างกว่านี้นะครับ
จากเครื่อง GPS เรือใช้ความเร็วประมาณ 44 กม./ชม. ระยะทางรวมทั้งสิ้น 77.3 กม. เวลาเดินทางจริงๆก็ 2 ชม. เดินออกมา แดดจัดดีจัง
พอเหยียบพื้นดินเกาะเต่า จะมีไกด์ทัวร์ชูป้ายรีสอร์ทของตัวเองให้นักท่องเที่ยวหาได้ง่ายขึ้น ผมถามพวกเขาว่าบ้านเต่าบังกะโลอยู่แถวไหน เขาบอกว่าเดินไปได้ไม่ไกล ออกทางซ้ายมือที่หาดแม่หาด เดินขึ้นเนินเขาอีกนิดเดียวก็ถึง มาสวนกับเจ้าของบังกะโลที่หน้าบังกะโลเขา พี่เขาจะขับรถกระบะมารับที่ท่าเรืออยู่พอดี ทำให้ผมต้องนั่งคอยพี่เขาอยู่ที่เก้าอี้หน้าบังกะโล สุดท้ายผมได้ห้องพักเลขที่ 3 ครับ กำลังเหมาะพอดี บ้านพักของที่นี่จะทำลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดครับ บ้านที่ผมพักเป็นชั้นที่สองนับจากด้านล่างที่อยู่ติดหาดครับ
เข้ามาก็จะเจอกับที่นอนอันนุ่มๆ ส่วนด้านซ้ายมือของประตูก็จะเป็นห้องน้ำในตัว ถ้าไม่สังเกตอาจเข้าใจผิดว่าไม่มีห้องน้ำอย่างที่ผมเข้าใจผิดตอนแรกก็เป็นได้นะครับ
นี่ครับ ด้านหน้าป้ายฝั่งที่ติดกับชายหาดของหาดแม่หาด
หลังจากเก็บสัมภาระไว้ในบ้านพักแล้ว ได้เวลาเดินลงมาถ่ายรูปที่ชายหาดแล้วหล่ะ
แสงแรงอย่างที่ต้องการ ไปช่วยกันทำให้โต๊ะข้างหน้านั้นไม่ว่างกันดีกว่า
ว้าววว....น้ำทะเลสีเขียวใสสสสสส ชอบจังเลยยยย
เหอๆ....ต้นมะพร้าวใต้ทะเล
สนามตะกร้อก็มีให้เล่นน้า แต่ระวังมะพร้าวหล่นใส่หัวละกันหล่ะ //ฮ่าฮ่า
แดดอะไรจะดีขนาดนี้นะ
เอาหล่ะ...อีกรูปก่อนไปทานอาหารกลางวัน เรือหางยาวจอดอยู่เรียงราย
เที่ยงตรง เริ่มทานอาหารแบบบุฟเฟ่ที่บีชคลับ อาหารมื้อแรกของแพ็คเกจ และก็ไม่ผิดหวัง รสชาติอาหารอาหย่อยมากกครับ ขอบอก มื้อแรกยังเกรงใจไม่เติมจานที่สอง แห่ะๆ มื้อต่อไปไม่รู้
แพ็คเกจรอบนี้มี 50 คนด้วยกันที่ต้องมาทานข้าวที่บีชคลับแห่งนี้ แม้ว่าบางคนจะพักที่บ้านเต่าบังกะโลแบบผม หรือพักที่วิวคลีฟอีก 4 คน ที่เหลือพักที่บีชคลับ
ต้องขอชมว่าเจ้าหน้าที่รับรองที่เป็นผู้ชาย 3 คนของที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นกันเองดีมากครับ ยังไม่รวมพวกแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยๆอยู่ข้างในด้วย และอีกคนคือผู้หญิงที่ทำหน้าที่ต้อนรับที่ Reception
ทานข้าวเสร็จก็ออกมาเดินย่อยอาหาร หามุมถ่ายรูปไปเรื่อย ตัวเอกของวันนี้คงหนีไม่พ้นเรือประมงที่จอดอยู่หน้าหาดแม่หาด 3-4 ลำแถวๆนี้
อาร์ตตะลอนทัวร์ อิอิ
ช่วงวันแรก โปรแกรมยังไม่มีอะไร เน้นให้ลูกทัวร์พักผ่อนสบายๆตามอัธยาศัย บางกลุ่มก็เช่าเรือคายัคมาพายเล่นกัน ส่วนผมเดินไปเดินมากับถ่ายรูปอย่างเดียว
มาที่เกาะเต่า ไม่ได้ถ่ายเต่ามันก็กระไรอยู่ ผมเลยถ่ายมาฝากเพื่อนๆละกัน แต่เป็นรูปปั้นนะครับ 555
ที่ได้ชื่อเกาะเต่าก็เพราะว่าสมัยก่อนมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่กันเยอะมาก จึงเรียกว่าเกาะเต่า ไม่ได้มีความหมายว่ารูปร่างเกาะนั้นคล้ายเต่าแต่อย่างใด ดูแล้วคล้ายเมล็ดถั่วแดงมากว่านะครับ
ปะการังเหงาๆอยู่เดียวดาย
ไม่มีอะไรทำ เดินไปหาดทรายรีที่อยู่ใกล้ๆดีกว่าครับ ระหว่างทางก็เจอรีสอร์ทมากมาย ในภาพเป็นบ้านพักของวิวคลิฟ ยื่นไปใกล้ๆทะเล น่าพักมากครับ แต่ราคาก็น่าจะสูงตามไปด้วย
โขดหินบริเวณรีสอร์ทแห่งนี้ ลงเล่นน้ำได้เหมือนกันแต่ต้องระวังหน่อย
เสร็จแล้วเดินต่อไปที่แหลมจปร. ไหว้เสด็จพ่อ ร.5 กันครับ
ในที่สุดก็มาถึงยังหาดทรายรี ...อ๊ะ อ๊ะ.....คนละที่กับหาดทรายรีที่ชุมพรนะครับ ชื่อเหมือนกัน แต่คนละที่คนละจังหวัด หาดนี้เขาว่าเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่หลงแสงสียามค่ำคืน ซึ่งก็จริงเพราะจะเห็นฝรั่งนอนอาบแดดอยู่เต็มไปหมดเลย
ทางเดินค่อนข้างชันและลำบากสำหรับใครหลายคน คนแก่ๆก็เลยไม่ได้ขึ้นไปดู เพราะมีเม็ดกรวดลื่นๆคอยดักไว้ อีกทั้งต้องปีนป่ายขึ้นบนหินเพื่อไปดูด้านบนอีก หมดสิทธิ์สำหรับคนมีอายุ
แต่ขึ้นไปด้านบนก็คุ้มครับ ณ จุดชมวิวจอห์นสุวรรณนี้(ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะเต่า)เมื่อมองไปทางทิศเหนือจะเห็นโค้งอ่าวอยู่สองอ่าวซ้ายและขวาคล้ายๆเกาะพีพี โดยซ้ายมือเป็นอ่าวโฉลกบ้านเก่าและอ่าวตาโต๊ะ และขวามือเป็นอ่าวเทียนออก ด้านขวาที่เห็นเป็นเกาะเล็กๆน่าจะเป็นเกาะฉลาม
ลองซูมไปทางด้านขวามือ มองเห็นที่พักบังกะโล เดาไม่ผิดน่าจะเป็น OK 2 Bungalow
กลับมายังที่พัก ก่อนที่จะรับประทานอาหารเย็น ก็ใช้เวลาว่างปล่อยไปกับการนั่งจิบบรรยากาศที่ริมทะเลแห่งนี้ มองไปมองมา นึกอิจฉาเจ้าสุนัขตัวนี้เหมือนกันที่มีความสุขเล่นน้ำทะเลอยู่ทุกวัน ไม่ต้องคิดอะไรมากมายกับงานการที่ต้องรับผิดชอบแบบเราๆ
ภาพนี้ชอบเพราะท้องฟ้ามีแสงประหลาดมาก ไม่เคยเห็น
มองดีๆ มี 2 คู่กำลังพายเรือคายัคผ่านหน้าเลนส์
ขอนั่งละเลียดเก็บเกี่ยวบรรยากาศแถวนี้ก่อนนะครับ
โอ...เจ้าหมาสองตัวนั่งเล่นทรายอีกแล้ว มันจะรู้มั๊ยเนี่ยว่ามันกำลังติดเกาะอยู่ ขึ้นฝั่งไม่ได้
คล้ายๆกับแหลมโขดหินยื่นออกไปในทะเล
แสงสุดท้ายของวันนี้ที่เกาะเต่าแล้วหล่ะครับ มองดูแล้วเหงาจัง
ที่บีชคลับเริ่มเปิดไฟแล้วหล่ะครับ
โห....ไม่มีคำบรรยาย
ด้านหน้าหาดแม่หาด ที่ทานอาหารเย็นของพวกเรา
ทานอาหารเย็นเสร็จ ไม่น่าเชื่อว่ามีโชว์จากน้องผู้ชายที่มาแสดงการเหวี่ยงเชือกโดยปลายทั้งสองจุดติดกับไฟ
คราวนี้มีอีกคนมาแจม เลยมี 2 อุปกรณ์ทั้งเชือกและไม้กระบอง รู้สึกไม้กระบองจะเล่นยากกว่าเพราะเห็นจากการที่หมุนแล้วตกบ่อย แต่ผมก็เป็นกำลังใจให้ตลอดโดยปรบมือเมื่อการแสดงจบ
แล้วไว้เจอกันในวันรุ่งขึ้น วันที่ฝนพรำๆตลอดทั้งวัน สวัสดีครับ
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น