สะพายเป้ หิ้วกล้อง ท่องบาหลี ตอน 2 ไปดูระบำบารอง - เที่ยวคินตามณี - ทะเลสาบบาตูร์ - วัดอูลุนดานูบาตูร์ - ทามปัคสิริง

[ตอน 1] [ตอน 2] [ตอน 3] [ ตอน 4]

วันนี้กะกันว่าต้องตื่นมาให้ทัน 9 โมงเช้า ไม่เช้าและไม่สายมากนักเพื่อจะได้จัดแจงติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับแล้วให้พาเราไปตามที่ต่างๆที่เราตั้งโปรแกรมในแต่ละวันไว้แล้ว ผมบอกความประสงค์กับทางโรงแรม เขาก็บอกราคาต่อวันกับเราคือ 200,000 Rp หรือประมาณ 1,000 บาทซึ่งอยู่ในเรตที่รับได้ไม่ต้องไปเสียเงินค่าทัวร์คนละ 500-750 บาทแถมยังกำหนดโปรแกรมไม่ได้อีก เสียดายที่ไกด์ของเรารู้ข้อมูลไม่มากพอประกอบกับภาษาอังกฤษที่ใช้ก็ฟังยากมาก เราจึงไม่ค่อยได้ข้อมูลสำคัญๆเท่าที่ควร

โปรแกรมที่วางไว้วันนี้คือ

ไปดูรำบารอง(Barong Dance) - คินตามณี(Kintamani) - ทะเลสาบบาตูร์(Lake Batur) - วัดอูลุน ดานู บาตูร์(Puru Ulun Danu Batur) - ทามปัคสิริง (Tampaksiring) และกลับมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทานาล็อต (Tanah Lot) ??

อากาศตอนเช้าแจ่มใสดี โรงแรมที่นี่มักจะมีสระว่ายน้ำอยู่ทุกโรงแรม แต่คงไม่ได้ดึงดูดผมเท่าไหร่เนื่องจากในแต่ละวันต้องเดินทางไปสถานที่ต่างๆทุกวัน ไม่มีเวลามาสัมผัสกับการว่ายน้ำที่สระของโรงแรม

อัตราค่าโรงแรมจะรวม ABF ไว้แล้วทุกโรงแรมที่จอง มื้อนี้จึงสั่งไข่ดาว ขนมปัง น้ำส้ม และกาแฟ รองท้องก่อนไปผจญสถานที่ข้างนอกทั้งวัน

นี่คือสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวบาหลีที่เกือบทุกบ้านจะต้องมีไว้เพื่อบูชาจะเปรียบก็คงคล้ายกับศาลพระภูมิในบ้านเรา

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางด้วยรถ Toyota สไตล์จี๊บ แต่ตอนนี้ขอเติมน้ำมันก่อนนะครับ ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ที่นี่ 2,400 Rp/Ltr. หรือประมาณ 12 บาท/ลิตร ถูกกว่าเราครึ่งหนึ่ง

เราไปถึงอูบุดเมืองที่น่าอยู่ของบาหลีเขาเพื่อไปดู รำ/ระบำ บารอง รำพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของชาวบาหลี จะเรียกได้ว่าถ้ามาบาหลีแล้วไม่ได้ดูรำบารองก็อาจมาไม่ถึงบาหลีก็เป็นได้(ผมคิดเองนะเนี่ย) เรามาถึงที่นี่ก็เริ่มแสดงไปแล้วองก์ที่หนึ่ง แถมยังนั่งไกลอีกต่างหาก ดูไม่รู้เรื่องเลยครับ กระดาษที่แจกก็ดันเป็นภาษาจีนอีก ไปกันใหญ่เลย ในรูปเป็นตัวแม่มดรังดาตัวแทนของความชั่วร้าย อ้อ...ราคาค่าดู 50,000 Rp/คน ครับ

ต่อจากนั้นนั่งรถมาเรื่อยๆเพื่อไปยังคินตะมณี ระหว่างทางจะมีนาขั้นบันไดให้จอดรถถ่ายรูปกัน จริงๆในไทยก็มีออกเยอะแยะ

สักประมาณเที่ยงก็มาถึงที่คินตามณี(Kintamani) เป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี เราเลยเข้าไปทานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งสามารถทานไปชมวิวภูเขาไฟบาตูร์ไปในเวลาเดียวกัน อาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ราคาพอควรเหมือนกัน

ภูเขาไฟบาตูร์เต็มๆอีกมุมหนึ่ง

ใกล้ๆกันก็จะเป็นทะเลสาบบาตูร์(Lake Batur)

ขากลับ เรากลับอีกเส้นทางหนึ่งโดยจะผ่านหมู่บ้านๆหนึ่ง ซึ่งวันนี้เขาจัดงานอยู่ นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ชาวบ้านต่างไปสวดและทำบุญที่วัด หุ่นชาวฮินดูด้านข้างถนนก่อนผ่านหมู่บ้านดูเก๋ดี จึงอดใจไม่ได้ที่จะบอกให้คนขับรถจอดเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้

นั่งในรถอยู่ ผมนึกขึ้นได้ว่าต้องไปวัด Ulun Danu Batur จึงบอกให้คนขับเบนเส้นทางเพื่อไปดูวัดดังกล่าว ที่นี่มีวัดใกล้กันอยู่ 2 วัด ก่อนเข้าวัดต้องสวมโสร่งเพื่อแสดงความเคารพสถานที่ด้วย ที่นี่เป็นครั้งแรกที่โดนชาวอินโดฯหลอกขายโสร่ง ขนาดหาข้อมูลก่อนมาอย่างดีก็ยังพลาดได้...เฮ้อ

เข้าไปข้างในจะมีชาวบ้านกำลังทำพิธีกรรมกันอยู่ ผมและเพื่อนทั้งสองก็ไปนั่งรับน้ำศักดิสิทธิและให้เจิมข้าวที่หน้าผากเสมือนชาวบาหลีทั่วๆไป

เดินมาที่วัด Ulun Danu Batur ที่นี่จะมีพิธีการค่อนข้างสำคัญ มีการแต่งตัวแบบเป็นทางการเพื่อมาทำพิธี โดยจะมีคณะดนตรีเพื่อมาแสดงในพิธีกรรมนี้

บรรยากาศอีกรูปหนึ่ง

ผมเองชอบรูปแกะสลักที่นุ่งโสร่งหรือผ้าขาวม้าด้านหน้าประตูทางเข้าวัดมาก ไปที่ไหนเป็นต้องถ่ายรูปมา

ที่นี่เราจะเห็นสาวชาวบาหลีแบกข้าวของเทินอยู่บนศีรษะอยู่เนืองๆ

ต่อจากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง Tampaksiring ซึ่งเป็นน้ำพุศักสิทธิที่ชาวบาหลีนับถือ ระหว่างทางก็ได้พบวงดนตรีวงหนึ่งเล่นกลางลำน้ำเลย สืบความได้ว่า เขากำลังถ่ายมิวสิควิดีโอ เป็นวงดนตรีที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน

Tampaksiring น้ำพุศักดิ์สิทธิ วันนี้มีคนเข้ามาอาบน้ำกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากเป็นวันพิธีกรรม

ภายในบริเวณ Tampaksiring มีรูปแกะสลักหน้าขาว

หน้าเหลืองอยู่นี่ครับ

เข้ามาด้านในจะเห็นบ่อที่มีน้ำผุดมาจากด้านล่างพื้นดิน ในรูปจะเห็นอยู่ 2 วงใหญ่ๆที่เป็นสีดำ ด้านซ้ายและด้านขวา

ต่อจากนั้นประมาณบ่ายสามครึ่งก็ได้เวลากลับมาดูงานหัตถกรรมที่หมู่บ้านมาส(Mas Village) ซึ่งที่นี่ทั้งหมู่บ้านจะโชว์และขายงานแกะสลักไม้ของตัวเองอยู่ตลอดถนน งานแต่ละงานยอมรับเลยครับว่าฝีมือล้วนๆจริงๆ เราเองก็ได้แต่ดูครับ เพราะราคาแพงมาก แต่ก็สมกับค่าฝีมือของเขาแล้วหล่ะ

เนื่องด้วยวันนี้เรามาพักที่อูบุด(หลังจากเปลี่ยนใจที่จองโรงแรมในคูตา 3 คืน) จึงไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Tanah Lot ไม่ทัน หรืออาจจะเปลืองน้ำมันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยเอาเป็นว่าโปรแกรมจบเพียงแค่นี้สำหรับวันที่สองในบาหลี ต่อจากนั้นจึงตระเวนหารีสอร์ทที่ผมจองไว้ทางอินเตอร์เน็ต สักพักก็มาถึง Graha Resort Ubud

สภาพภายในห้องมีมุ้งด้วย ลืมบอกไปว่าราคาอยู่ที่ 31 USD ซึ่งนับว่าถูกที่สุดที่ผมจองในย่านอูบุดแล้วหล่ะครับ

จบท้ายด้วยห้องน้ำภายในรีสอร์ทครับ แล้วมาติดตามกันใหม่ในวันรุ่งขึ้นครับ

Original Published on www.pantip.com at  [ 26 ก.ค. 48 22:12:30 ]

[ตอน 1] [ตอน 2] [ตอน 3] [ ตอน 4]

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ