วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551

เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตอน สุดสัปดาห์ สบายๆ ที่เขาใหญ่

เนื่องจากช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก เหตุเพราะงานที่ค่อนข้างรัดตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การหยุดยาวติดต่อกัน 3 วันนี้ อยากจะใช้เวลาไปกับการพักผ่อนที่ใกล้ๆที่ทำงาน ขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่คุ้นเคย กอปรกับการได้เดินทางกับคนรู้ใจด้วยแล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์อย่างนี้ก็ไม่เหงาอีกต่อไป 

เราเลือกที่จะไปทานอาหารแถวๆบริเวณมวกเหล็กแล้วขับรถไปต่อที่อุโมงค์ต้นไม้ใกล้ๆกัน จวบจนตัดเข้าเส้นในเพื่อไปออกแก่งคอยแล้วย้อนไปเขาใหญ่ตามเส้นทางลัดที่หลายคนอาจจะนึกออกถ้าบอกว่าเป็นเส้นที่มีแดรี่โฮมอยู่ต้นถนน ปลายทางของเรานั้นคือ เขาใหญ่นั่นเอง


เราเริ่มออกเดินทางสายๆของวันเสาร์ที่ 5 เมษายน 51 ที่แก่งคอย สระบุรี พอดีใกล้ช่วงเที่ยววันเลยขอฝากท้องไว้กับร้านข้าวมันไก่ที่ตลาดโต้รุ่งมวกเหล็ก แล้วต่อด้วยการอุดหนุนก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นของเพื่อนพนักงานเดิมที่ทำงานร่วมกัน ก่อนจะไปแวะถ่ายรูปกันที่อุโมงค์ต้นไม้


ต่อจากอุโมงค์ต้นไม้ เราแล่นต่อไปเรื่อยๆก็จะเจอกับสามแยกที่เลี้ยวขวาไปวังม่วง เลี้ยวซ้ายไปแก่งคอย เราเลือกเลี้ยวซ้ายเพื่อจะไปแก่งคอยแล้ววกกลับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 คือถนนมิตรภาพอีกครั้ง เพื่อกลับไปเขาใหญ่ต่อไป ระหว่างทางเจอต้นคูนหรือต้นราชพฤกษ์ผลิใบสีเหลืองอร่ามเต็มสองข้างทางริมถนนไปหมด อดใจไม่ได้ที่จะลงมาถ่ายรูปเก็บไว้


และแล้ว ตามเส้นทางลัดที่สามารถไปเขาใหญ่ได้เช่นกัน โดยจะผ่านรีสอร์ทมากมายตามขุนเขาน้อยใหญ่ เราก็มาถึงร้าน PRIMO POSTO ร้านขายกาแฟ ขนมเบเกอรี่ ไวน์และอื่นๆ ตามสไตล์การตกแต่งอาคารและสถานที่แบบยุโรปซึ่งสวยงามมากๆ ดีที่วันนี้ไม่ปิดบริการแต่อย่างใด ทำให้เราเข้าไปแวะทานกาแฟพร้อมๆกับเก็บบรรยากาศสวยๆ สบายๆมาฝากกัน


สีสันของอาคารตัดกันอย่างสวยงาม ฉงนแก่ผู้พบเห็นมาเยอะแยะแล้ว เราก็เป็นคนหนึ่ง


ด้านหลังถ้ามองทะลุไป จะเป็นไร่องุ่นซึ่งเป็นเนื้อที่ของเจ้าของคนเดียวกันนี้


เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่งเข้ากันได้ดีตามแบบสมัยเก่า


กระจกบานใหญ่เปิดโล่งสู่การชมวิวไร่องุ่นและพร้อมๆกับการสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นับวันกรุงเทพจะหาแบบนี้ไม่ได้แล้ว


...


ไปทางไหนดีเอ่ย ???


ที่นี่ยังมีหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของยุโรปแบบต่างๆ โดยเฉพาะที่นำมาสร้างและตกแต่งในรีสอร์ทบริเวณเขาใหญ่นี้


ที่นี่จัดแต่งสวนเป็นแบบ English Garden ถ้าจำไม่ผิด


มาชมหน้าต่างสีเขียวที่แวดล้อมด้วยผนังอิฐโทนขาวน้ำตาล


สั่งคาปูชิโน่ร้อนกับเครื่องดื่มปั่นอะไรสักอย่างไป สักครู่ใหญ่ๆก็มาเสริฟ


ต้องบอกว่าเจ้าของให้รายละเอียดกับทุกๆอย่างที่นำมาตกแต่งทีเดียว ดูได้จากนาฬิกาแขวนซึ่งออกแนวสมัยเก่าตัวเลขแบบโรมัน


บลูเบอรี่ชีสพายก็มาเสริฟจนได้ หลังจากดื่มคาปูฯไปเกือบหมดแล้ว


ไม่ชอบบรรยากาศชั้นล่างก็ขึ้นไปชมวิวชั้นบนได้นะครับ ... follow me


จ๊ะเอ๋ในอิริยาบทสบายๆ ก่อนที่เราจะเคลื่อนที่ต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่


ประมาณบ่ายสามเราก็มาถึงยังด่านเก็บค่าธรรมเนียมอช.เขาใหญ่ สำหรับผมนั้นเป็นครั้งที่ 5 หรือ 6 แล้วก็จำไม่ได้ในการมาเยือนอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทยเราแห่งนี้


เข้ามายังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เจอเสือสต๊าฟถึงกับตกใจ


อีกเหตุผลหนึ่งที่มาที่นี่ก็คือ การได้มาประทับตราอุทยานแห่งชาติลงในหนังสือเดินทางอุทยานที่เราทั้งสองตั้งใจไว้ว่าจะไปด้วยกันตั้งแต่อช.หมู่เกาะสุรินทร์เป็นต้นไป


มาถึงก็ต้องรีบกางเต็นท์เพราะอากาศไม่เป็นใจซะแล้ว เราเลือกกางที่ลำตะคองเนื่องจากกว้างขวางกว่าและห้องน้ำห้องท่าสะดวกมากๆเมื่อเปรียบเทียบกับผากล้วยไม้ กางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ฝนก็เทลงมาพอดี นับว่าโชคดีกับเรามากๆที่กางทันก่อนฝนจะตก แต่ก็ได้บรรยากาศสบายๆ เย็นๆแทนที่อากาศร้อนๆขึ้นมาทันที


เช้าของวันที่ 6 เมษายน 51 หลังจากอาบน้ำแปรงฟันเสร็จก็แวะน้ำตกเหวสุวัตก่อนที่จะกลับบ้าน สุดท้ายก็แค่ถ่ายรูปที่จุดชมวิวไม่ได้เดินไปยังตัวน้ำตกเพราะฝนตกลงมา คงไม่สะดวกนักที่จะเดินลงไป


เจอดอกกระเจียวอยู่ริมทาง เลยเก็บภาพมาซะ


นกอะไรไม่รู้น่ารักเชียว เกาะอยู่ที่กิ่งไม้ก่อนจะบินหนีไป


เจ้าจ๋อกำลังดูดนมแม่อย่างไม่อายสายตาเราทั้งคู่ซึ่งกำลังเก็บภาพอยู่


รวมมิตรเจ้าจ๋อในท่าทางที่กำลังทานขนมแบบคนเราอย่างเอร็ดอร่อย ขนมและมาม่าที่เห็นมันบุกตลุยบ้านพักเพื่อขโมยมาทานทั้งนั้น มิมีใครให้แต่อย่างใด


ในที่สุดก็เจอเจ้าถิ่นอีกชนิดหนึ่งนั่นคือกวางนั่นเอง นำมาให้ดูในแบบที่หันขวาและหันซ้าย


ออกจากเขาใหญ่ประมาณเที่ยง แวะทานข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำบริเวณทางขึ้นเขาใหญ่


ก่อนที่จะไปแวะพักรถที่ OUTLET VILLAGE เขาใหญ่ต่อไป


ร้านขายเสื้อผ้ามีอยู่หลายๆร้านมากๆ เดินเข้าออกจนเมื่อยเลย

ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงเทพ ขอแวะพักทานอาหารว่างก่อนเพื่อเอาแรงที่ฟูดคอร์ท แล้วเราทั้งคู่ก็ได้เวลากลับบ้านที่กรุงเทพอย่างมีความสุขสดชื่น

เป็นอีกทริปหนึ่งที่ไม่ได้แพลนอะไรมากมาย เพียงเพื่อต้องการพักผ่อน สบายๆ ตามสถานที่ที่คุ้นเคยไม่ไกลจากที่ทำงานผมมากนัก และกลับไปด้วยความสดชื่น เพื่อเป็นแบตเตอรี่ชีวิตในการเติมพลังให้เราทั้งสองต่อสู้กับโลกของการทำงานต่อไปในสัปดาห์ที่จะมาถึง

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน และแอบอ่านครับ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่สละเวลาเข้ามาโพสต์ตอบ แม้ว่าท่านต้องเสียเวลาในการพิมพ์บ้างก็ตาม มีความสุขสดชื่นในวันปีใหม่ไทยเรา ช่วงสงกรานต์นี้นะครับ เดินทางโดยสวัสดิภาพทุกท่าน แล้วเจอกันใหม่หลังสงกรานต์ ..... C U in Nepal...

Original Published on www.pantip.com at [ 11 เม.ย. 51 00:03:46 ]

เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น