วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ภาพบางส่วนจากงาน "แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์" ในคืนวันเปิดงาน พ.ศ. ๒๕๔๙

เอ่อ....เที่ยวไม่บ่อยนะครับ พอดีเมื่อวานผมมีธุระที่ต้องไปทำที่อ.พระพุทธบาท สระบุรี ในตอนหัวค่ำพอดี หลังจากเสร็จงานเลยถือโอกาสนั่งรถตู้ต่อไปยังลพบุรีซะเลย เพราะได้ทราบข่าวมาจากเพื่อนพนักงานที่บ้านอยู่ลพบุรี ว่าช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. 49 นี้ จะมีงาน แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ โดยจะรณรงค์ให้เด็กนักเรียนและชาวลพบุรี แต่งชุดไทยกัน แม้กระทั่งทหารที่เข้าเวณถือปืนหน้าป้อมทหารก็แต่งชุดไทย เพื่อเป็นการย้อนยุครำลึกถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์ โดยจะมีการแสดงแสง สี แสง ตระการตา ค่าเข้าชมงาน 20 บาทครับ เสียดายผมไม่ได้เตรียมชาร์จแบตฯไป พอชุดแรกหมด กะจะเปลี่ยนชุดสำรอง ปรากฎว่าเปิดไม่ได้เลย แบตฯหมดซะก่อน ขี้แง
 ดูภาพบรรยากาศสนุกๆนะครับ ไม่มีคำบรรยายมาก
ปล. : ภาพอาจจะไม่สวย เพราะไม่ได้นำขาตั้งกล้องไปครับ


ผมไปถึงที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ประมาณสามทุ่มครับ เดินเข้าประตูนี้ รอบๆกำแพงวังประดับไฟสวยงามครับ


เดินไปซื้อตั๋วผ่านเข้างาน คนละ 20 บาทเองครับ


เดินเข้ามาผ่านประตูวัง ทางซ้ายมือจะเป็นบ้านทรงไทยตกแต่งให้เป็นวิถีไทย โดยมีเรือนของเจ้าพระยาสมัยก่อนอยู่ด้านใน


ดื่มสมุนไพรหรือยาดองเหล้าก่อนมั๊ยครับ


แสงไฟที่นี่สาดส่องซะแดงไปหมดเลย


มีดนตรีไทยขับกล่อมตลอดทั้งงานครับ


เดินขึ้นไปยังเรือนเจ้าพระยากันดีกว่าครับ


ด้านขวามือจะเป็นห้องนอนครับ ประดับด้วยดอกไม้กลิ่นหอมสวยงามดี


ด้านนอกมีพัดลมสมัยเก่าพร้อมกับเด็กน้อยที่แต่งชุดไทย


ลงมาด้านล่างจะมีโอ่งน้ำ โรยด้วยดอกลีลาวดีดอกไม้ที่ชื่นชอบของผม


เดินมาทางด้านขวามือจะเป็นการแสดงไล่ยาวประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์


ทีวีช่อง 5 ก็มาถ่ายทอดด้วย


มีการแสดงรำไทย


เหอๆ การต่อสู้ของจีนก็มีด้วยนะ


พี่ทหารท่านนี้จริงจังมากเลยครับ


โขนรามเกียรติ์ก็มีให้ดู


ระหว่างการแสดงก็มีการจุดพลุ


มาแล้วครับ ขบวนอัญเชิญอะไรสักอย่าง โทษด้วยครับ ไม่ทราบจริงๆ


แต่งชุดขาว 4 คนรู้สึกจะเป็นพราหมณ์


จบด้วยภาพสุดท้าย แห่ตุง

เสียดายที่แบตฯหมดซะก่อน เลยไม่ได้ถ่ายตอนที่ขบวนเดินไปแสดงอีกจุดหนึ่ง แต่ด้านในเข้าไปมีการตกแต่งไฟด้วยโคมสวยงามมากครับ ทั้งต้นไม้ที่ประดับหลอดไฟ น้ำตก และการแสดงในจุดอื่นๆ รับรองว่าถ้าเพื่อนๆไปจะไม่ผิดหวังครับ ผมยังเล็งๆอยู่ว่า ว่างๆก็จะไปอีกครั้ง
ขอบคุณที่ติดตามชม สวัสดีครับ

Original Published on www.pantip.com on  [ 17 ก.พ. 49 13:51:09 ] as below link
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2006/02/E4113802/E4113802.html

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

พาไปติดเกาะ ที่เกาะเต่า & เกาะนางยวน ในวันฝนพรำๆ ตอน 2 อากาศไม่เป็นใจแต่เช้าของวัน แต่ก็ทดแทนมาด้วยวิวสวยๆ ณ จุดชมวิวของเกาะนางยวน


วันนี้เป็นวันที่สองของแพ็คเกจ ตามโปรแกรมที่เขาจัดให้ไว้ วันนี้ทัวร์จะพาไปดำน้ำตื้นรอบเกาะเต่าในช่วงเช้า คือเกาะฉลาม อ่าวหินวง และอ่าวม่วง ส่วนช่วงบ่ายจะจอดเรือเทียบท่าให้ขึ้นไปเกาะนางยวนเกาะส่วนตัวที่ใครจะขึ้นไปนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมการขึ้นเกาะด้วย แต่ในแพ็คเกจก็รวมค่าธรรมเนียมไว้อยู่แล้ว
วันนี้ตั้งแต่เช้าอากาศดูจะไม่เป็นใจนัก ฟ้ามืดมาทางทิศใต้ ในที่สุดฝนก็ตกจนได้ ข่าวดีหรือเปล่าไม่รู้ว่า วันนี้(12 ก.พ. 49) เป็นวันแรกที่ฝนตกนับจากปีใหม่มา ฮ่าฮ่า แจ็คพอตเลยเรา ดังนั้นวันนี้รูปที่ได้มาจึงน้อย เพราะกลัวกล้องจะโดนฝน งั้นเรามาเริ่มเลยละกันครับ


7 โมงเช้า ผมเดินลงมาจากที่พักเพื่อมาทานข้าวเช้าที่บีชคลับตามเวลาที่นัดหมายไว้ อาหารเช้าจะเป็นข้าวต้มหมู ขนมปังปิ้งทาเนยหรือแยมตามชอบใจ และน้ำส้ม ทานเพื่อเอาแรงก่อนจะใช้พลังงานมากมายในการลงดำน้ำตื้นดูปะการังกันครับ


ยามเช้า น้ำทะเลจะขึ้นมาท่วมชายหาดด้านหน้าที่พัก  เช้านี้ฟ้าไม่ใสอย่างที่ว่า จุดหมายยามบ่ายของพวกเราก็คือเกาะที่เห็นอยู่เบื้องหน้า เกาะนางยวนนั่นเอง


ส่วนซ้ายมือของบีชคลับถ้าหันหน้ามองไปที่ทะเล จะมีบังกะโล 4 หลังที่ตั้งอยู่ริมชายหาดใกล้ทะเลมากที่สุดแล้ว สอบถามจากเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ได้ความว่าต้องจองเรียนดำน้ำเป็นแพ็คเกจถึงจะได้มาพักใน 4 หลังนี้


9 โมงก็ได้เริ่มเคลื่อนย้ายตัวเองมาที่ท่าเรือเกาะเต่าโดยรถกระบะของที่นี่ จริงๆแล้วที่พักก็อยู่ห่างจากท่าเรือไม่ไกลเลย สามารถเดินไปได้พอเรียกเหงื่อ


ลงเรือเสร็จทุกคนก็เตรียมตัวใส่อุปกรณ์เสื้อชูชีพ และเลือกสน็อกเกิ้ลกัน พร้อมแล้วที่จะออกทะเลไปดำดูปะการังสวยๆและเหล่าฝูงปลาน้อยใหญ่ ในใจคิดไว้อย่างนั้น


เรือออกจากท่า วนทวนเข็มนาฬิการอบเกาะเต่าโดยไปทางใต้ของเกาะก่อน  ผ่านรีสอร์ทสวยๆแห่งหนึ่งแถบอ่าวเทียนออก ไม่แน่ใจว่า New Heaven หรือ OK 2 Bungalows


ดูกันชัดๆอีกครั้ง ผมว่าแถวนี้วิวดีและเงียบสงบดีนะครับ


เรือเราผ่านหินรูปทรงแปลกๆสวยงามอันหนึ่งตั้งอยู่บนแหลมยื่นไปในทะเล แต่ไม่แน่ใจว่ามีชื่อว่าอะไร

หลังจากนั้นคลื่นลมก็เริ่มพัดมา จนจุดแรกที่จะลงดำน้ำกันต้องยกเลิกเพราะคลื่นสูงมาก เรือจึงต้องแล่นต่อไปเพื่อไปหลบลมในจุดดำน้ำต่อไปคือ อ่าวหินวง และอ่าวม่วงตามลำดับ ดังนั้นจึงไม่มีรูปเพราะผมก็ลงไปดำน้ำ ฮ่าฮ่า ดีที่ตัดสินใจไม่ซื้อกล้องถ่ายใต้น้ำ ถ้าซื้อมาคงแย่เลย เพราะ 2 จุดที่ว่ามานั้น ปะการังไม่สวยเลย จะตายซะเป็นส่วนมาก ปลาก็ไม่มีให้ดูด้วย บวกกับท่อหายใจน้ำก็เข้าตลอด ผมเปรียบเที่ยบกับเกาะพีพี เกาะปอดะที่กระบี่ และที่เกาะกระดาน จ.ตรังแล้ว ที่นี่ผิดหวังครับ หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงที่ผมมาฝนตกก็เป็นได้ เลยไม่ได้ดูของสวยๆ


หลังจากง่วนกับการดำน้ำทั้งสองจุด โดยที่จุดแรกนั้น คลื่นแรงมากครับ ดำไปดำมาห่างจากเรือไปเรื่อย ว่ายกลับก็ใช้เวลานานมาก เกือบไปซะแล้วเรา...เฮ้อ ส่วนที่จุดที่สอง คลื่นสงบดีครับ ดำง่าย แต่ก็ไม่มีอะไรให้ดูอยู่ดี ตัดสินใจขึ้นเรือแล้วทานอาหารกล่องบนเรือดีกว่า ฝนเองก็ตกมันเข้าไป จุดหมายต่อไปคือเกาะนางยวน เสียดายจังที่ฝนตก เลยถ่ายรูปมาไม่เยอะ เรือจอดทิ้งกรุ๊ปเราไว้ 2 ชม. จะมารับอีกทีตอนบ่ายสามครึ่ง คนเยอะไม่เยอะดูเอาเองละกันครับ


ภูเขาลูกหนึ่งทางด้านซ้ายมือของสันทราย เสียดายฝนไม่น่าตกเลย ฮือๆ


ผมดำน้ำเล่นที่หน้าหาดเกาะนางยวนสักพัก(ฝนยังตกพรำๆตลอด)ก็ได้ฤกษ์เดินขึ้นไปชมวิวด้านบน น้ำทะเลที่นี่ใสแจ๋วเลย


ค่อยๆเดินไปตามทางสะพานไม้ โดยมีป้ายบอก View Point ตลอด ไม่หลงแน่ พอเจอกับนักท่องเที่ยวที่เดินสวนลงมา ท่านก็ใจดีบอกกับผมว่า "ใกล้ถึงแล้วแต่ต้องรอคิวหน่อยนะค่ะ คนเยอะเลย" แห่ะๆ เป็นไปอย่างที่เพื่อนท่านนั้นบอกไว้จริงๆด้วย คนเข้าคิวเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวเยอะเลย ขนาดฝนตกพรำๆนะเนี่ย


ผมขึ้นไปค่อนข้างทุลักทุเลมากครับ ลื่นบวกกับโขดหินคมๆ ทำให้ใครหลายคนซึ่งเดินเท้าเปล่ามา ได้รับแผลที่เท้าไปตามๆกันครับ แต่ตอนจะขึ้นไปยังหินด้านบนสุด หลายคนขึ้นไม่ได้นะครับ เพราะสูง ผมว่าน่าจะมีใครนำเชือกเส้นโตๆมาผูกไว้ให้ดึงตัวขึ้นไปนะ เหมือนอย่างที่คินาบาลูอ่ะครับ สะดวกดี

ในที่สุดก็ถึงจนได้ ขึ้นไปฝนเจ้ากรรมก็ดันเทกระหน่ำลงมาเลย ทำให้ผมถ่ายไปได้ 3 รูปเอง มุมกล้องเลือกมากไม่ได้แล้ว เดี๋ยวกล้องเปียกฝนหมด เลยได้ภาพนี้มาอย่างที่เห็นครับ แต่ก็สวยมากแม้ว่าฝนจะตกก็เหอะ

ขากลับลงมาจากจุดชมวิวพร้อมๆกับฝนที่กระหน่ำลงมาตลอดสาย เหอๆ ตกได้ตกไป อยู่ใต้ฟ้ากลัวอะไรกับฝน ผมเลยลงมาดำน้ำที่สันทรายต่อ บางคนหลบฝนข้างใน ส่วนผมไม่หลบหรอก ยังไงมันก็เปียกอยู่แล้ว เล่นน้ำท่ามกลางฝนเลย สนุกดี ฮ่าฮ่าฮ่า ลืมบอกไป เจอเพื่อนร่วมงานที่เกาะนางยวนด้วยนะ


หลังจากดำผุดดำว่ายจนหนำใจ ก็ได้เวลาอำลาเกาะนางยวน เรือออก 15.30 น. ก่อนเรือออกมีอุบัติเหตุเล็กน้อย เรือชนกันก่อนออกจากท่าเนื่องจากคนเรือไม่ยอมดึงเชือกที่ผูกติดกับเรือลำอื่นๆ ถ้าเรือไปไกลกว่าเกาะเต่าคงเสียวกว่านี้แน่

ระหว่างแล่นเรือกลับมา ฝนยังตกสม่ำเสมอตลอด เปียกไปทั้งตัว ถึงที่พักก็เลยอาบน้ำชำระร่างกายแล้ว นอนพักเอาแรงพร้อมกับหลบฝนไปในตัวด้วย ก่อนจะออกมาประมาณ 6 โมงเย็น เพื่อทานอาหารเย็น มื้อนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ตบท้ายด้วยกาแฟสดเย็นๆนอกแพ็คเกจ


เช้าวันใหม่
ในวันดีคือวันมาฆบูชา เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืน หวังใจว่ารุ่งเช้าคงหยุดตกนะ ตื่นเช้ามาออกมาทานข้าวต้มทะเล ทั้งกุ้งทั้งปลาหมึกเยอะแยะไปหมด อาหารที่นี่ไม่มีอั้นเลย มื้อนี้เลย 2 ชามครับ แห่ะๆ


เช้านี้สงสัยจะไม่รอดอีกเหมือนเคยหล่ะมั้งเนี่ย ดูหมอกลอยต่ำซะก่อน


มาเที่ยวทะเลแต่ฟ้าฝนดั๊นไม่เป็นใจ


9:30 น. พวกที่มากับเรือซีทรานก็ต้องเตรียมไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะเต่าแล้วหล่ะครับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น สภาพอากาศไม่ดีเลยครับ


ตามกำหนดการเรือออกตอนเวลา 10:00 น. แต่เอาเข้าจริง เรือมาถึงท่า 10:20 น. เนื่องจากคงติดคลื่นใหญ่อยู่กลางทะเล พอเรือมาเทียบท่าไม่ทันไร ทุกคนต่างกุลีกุจอรีบแย่งลงเรือกันใหญ่ โชคดีที่ผมเข้าไปแล้วยังพอมีที่นั่งบ้าง

นั่งอยู่สักพัก เรือซีทรานเฟอรี่ลำนี้ก็เริ่มที่จะเคลื่อนตัวออกจากเกาะเต่าแล้ว ทิ้งไว้เพียงความทรงจำดีๆตลอด 3 วัน 2 คืน  ลาก่อน...เกาะเต่า แล้วคงได้เจอกันใหม่

ตลอดทั้งเส้นทางที่เรือแล่นออกจากท่าเรือเกาะเต่า คลื่นที่มากระทบสูงมาก เกิน 2 เมตรแน่นอน โดยเฉพาะกลางทางที่อยู่กลางทะเล ผมเองต้องหยิบ GPS มาดูว่าถึงไหนแล้ว เพราะคลื่นสูงเหลือเกิน นั่งเรือยังกับนั่งล่องแก่ง โยกตัวไปมา ช่วงนี้แหล่ะ หลายคนหยิบถุงมาทำอะไรบางอย่าง นั่นก็คือ พ่นน้ำหมาก นั่นเอง แห่ะๆ อ้วกแตกอ้วกแตนไปตามๆกัน ส่วนผมแค่มึนๆ ถ้าไกลอีกหน่อยอาจใช้บริการถุงก็ได้


เรือมาถึงฝั่งที่ชุมพร 12:40 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.พอดี ฝนเองก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่เสมอ คือตกตลอดนั่นเอง ผมแวะพักรถพักคนระหว่างทางที่ปั๊มปตท. อ.กุยบุรี ดื่มคาปูชิโน่เย็นๆ 1 แก้ว


ผมชอบร้านกาแฟร้านนี้ซึ่งมีชื่อว่า Kaffee มาก การตกแต่งสวยงามน่านั่ง จริงๆแล้วเป็นร้านเดียวกันกับปั๊มปตท.ฝั่งตรงกันข้ามที่ได้แวะพักรถตอนขามา มิน่า ตกแต่งร้านสวยสุดๆ


ใครที่เป็นคอกาแฟอย่างผมเห็นรูปแล้วคงชอบเหมือนกัน โดยเฉพาะคุณคนจีนตัวน้อย

ขอจบทริปสบายๆ กับทะเลครั้งแรกของปี 49 ไว้แค่นี้ครับ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าต่อไป ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามมาโดยตลอดครับ หวังว่าคงชอบไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ _/|\_

=================
กิโลเมตรสิ้นสุด : 209,860
รวมระยะทาง 1,040.5 กม.

Original Published on www.pantip.com at [ 16 ก.พ. 49 11:29:31 ]

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

พาไปติดเกาะ ที่เกาะเต่า & เกาะนางยวน ในวันฝนพรำๆ ตอน 1 ขับรถจากกรุงเทพไปท่าเรือปากน้ำชุมพร ก่อนจะนั่งเรือเฟอร์รี่ไปเที่ยวเกาะเต่า


ทริปนี้จะว่าไปแล้วเป็น unplanned trip ทริปซึ่งไม่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้เนิ่นนาน เหตุเพราะเพิ่งกลับจาก Big Trip ทางเหนือได้ไม่นานนั่นเอง เลยยังไม่อยากเดินทางไกล แต่เพิ่งมารู้ก่อนจะไปได้ไม่นานว่า มีวันหยุดต่อเนื่อง 3 วันด้วยกันในเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงอยู่กับบ้าน นอนตื่นสายๆ ดูทีวี ไปเดินห้างตอนบ่าย เพราะไม่อยากออกเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดต่อเนื่องกัน เกรงคนจะเยอะ เที่ยวไม่สนุก แต่ครั้งนี้คงต้องยอมหล่ะครับ เพราะหาโอกาสหยุดยาวไม่ได้แล้ว วันลาก็หมดไปจากบิ๊กทริปครั้งล่าสุดถึง 5 วัน หยุดยาวครั้งนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว ฮิฮิ

แล้วจะไปไหนดีหล่ะครับ ?? คำตอบนี้ตอบไม่ยากเพราะไปเหนือมาแล้ว จะไปอีกครั้งก็คงไม่ไหวแล้ว ผมจึงเล็งทะเลหรือไม่ก็เกาะ ตัวเลือกแคบมาแล้ว เหลืออยู่ 2 ที่คือ เกาะเต่า หรือเกาะกูด ความที่เกาะเต่าผมเคยอยากไปนานมากแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที มาคราวนี้เลยตัดสินใจไปเกาะเต่า

ผมเริ่มหาข้อมูลทางเน็ต ไม่ว่าจะเป็นจากเสิร์ชเอ็นจิ้นชื่อดังอย่าง กูเกิ้ล บันทึกนักเดินทางของ BP TKT โดยเฉพาะบันทึกนักเดินทางนั้น ผมได้ข้อมูลจากคุณบ้านนอกทันสมัย(destin) ที่ได้เขียนบันทึกไว้ ทำให้มีข้อมูลมากขึ้น อีกทั้งได้เข้าไปเก็บข้อมูลจากที่เพื่อนๆใน BP นี้ได้ถามไถ่กัน และอีกคนก็คือคุณยูโดที่ได้สอบถามข้อมูลทางหลังไมค์ก่อนไป และอาจมีตกหล่นบ้างที่ไม่ได้เอ่ยนามในที่นี้

ผมตัดสินใจเลือกซื้อแพ็คเกจเหมือนคนอื่นๆเขาเพราะลองเปรียบเทียบกับแยกซื้อเองจะแพงกว่าพอควร แต่ผมเลือกที่จะขับรถไปเองไม่ได้ไปขึ้นที่ตรอกข้าวสาร เนื่องจากคำนวณเวลาดูแล้วผมคงกลับมาจากที่ทำงานในตจว.คงไม่ทัน เลยเอารถไปเอง ดังนั้น แพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน ที่เกาะเต่าจะราคา 2,900 บาท / คน เรามาเริ่มเที่ยวทะเล ทะเล้ ทะเล ครั้งแรกในปีนี้ที่เกาะเต่ากันเลยครับ...

กิโลเมตรเริ่มต้น : 208,820

จากการติดต่อกับคุณเฮเลน เอเย่นท์ชื่อดังในการจองแพ็คเกจทัวร์ของเกาะเต่า ได้ความว่าช่วงเทศกาลหยุดยาวให้รีบออกจากกรุงเทพฯตอน 2 ทุ่ม เพราะต้องเผื่อเวลาในการที่รถจะติดทางสายใต้ด้วย ผมเลยออกจากบ้านที่กรุงเทพประมาณ 20:45 น. ขึ้นทางด่วนบางนา มาถึงสะพานแขวนพระราม 9 ประมาณ 3 ทุ่ม 20 นาที สภาพการจราจรคล่องตัว


การขับรถตอนกลางคืนนั้น ผมเองยึดมั่นมาตลอดว่าจะไม่ขับไปต่างจังหวัดตอนกลางคืนเด็ดขาด เพราะทัศนะวิสัยของคนเราจะไม่ดีเหมือนตอนกลางวัน แต่มาครั้งนี้ต้องยอมเพราะด้วยเวลาขึ้นเรือจากท่าเรือชุมพรไปเกาะเต่ามันบังคับ แต่ยอมรับว่าเข็ดจริงๆแฮะ ทั้งไฟจากหลอดฮาโลเจน ,ไฟส่องทาง 4 ดวง ,ไฟแต่งเอย ฯลฯ ผมหล่ะยอมพวกพี่เลยครับ  แสงเข้าตาแล้วหงุดหงิดมาก
เอาหล่ะ....เที่ยงคืนพอดีผมก็ขับมาถึงอ.กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ แวะปั๊มปตท.เข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟกันง่วงก่อนครับ แต่ต้องมาสะดุดกับการตกแต่งห้องน้ำของที่นี่เลย ตกแต่งแนวบาหลีครับ แยกทางเข้าชายและหญิงออกเป็นสองฝั่ง ยอมรับว่าสะอาดน่าใช้มาก


ขับไปเรื่อยๆพร้อมกับเพื่อนร่วมทางที่มีน้ำใจบ้างไม่มีน้ำใจบ้างสลับกันไป ไม่น่าเชื่อ ผมมาถึงตัวเมืองชุมพรตอนตีสามครึ่ง !! เหมือนกับโดนหลอกให้ออกเร็วเลยแฮะ เวลาที่เหลือทำอะไรดีอ่ะ หาอะไรกินและแวะตลาดสดดูของสดๆดีมั๊ย ?


ผมแวะทานขนมปังปิ้งและกาแฟโบราณริมข้างทาง เพื่อรอรับเช้าวันใหม่


ถึงจะดูดึกแต่ตลาดสดของที่นี่จะคึกคัก มีแม่ค้าทยอยนำผักผลไม้ เนื้อสัตว์มาวางจำหน่ายรอลูกค้าต่อไป
ผมไม่ได้เดินตลาดสดแบบนี้เป็นสิบปีได้มั้งครับ มองดูแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆตอนเด็กๆที่มากับแม่และพี่จัง ร้านนี้ห้อยปลาเค็มไว้อย่างน่ากินเลย


หลังจากเดินฆ่าเวลาที่ตลาดสด อ.เมืองชุมพร ผมออกเดินทางต่อไปยังท่าเรือปากน้ำชุมพร ก่อนไปก็ถามทางชาวบ้านที่ตลาด ผมเดินทางไปอีกประมาณสิบกว่ากม. ท่าเรือท่ายางของบ.ส่งเสริมจะเลี้ยวซ้ายไป ส่วนท่าทุ่งมะขามน้อยของบ.ลมพระยานั้นเลยไปอีกไกล ท่าเรือปากน้ำฯอยู่ระหว่างท่าทั้งสอง  คุณเฮเลนจองเรือซีทรานเฟอรี่ให้ผม เป็นเรือเร็วเขียนไว้ว่าใช้เวลาเดินทางจากท่าปากน้ำชุมพรไปเกาะเต่า 1 ชม. 30 นาที ผมมาถึงยังไม่มีใครเปิดคอนเฟิร์มตั๋วเลย ที่นี่ผมเจอพี่สดใส ครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในนครปฐมมาเป็นคนแรก


ผมนั่งหลับในรถที่จอดไว้ เพื่อเอาแรงเพราะขับรถมาตลอด 6 ชม. ลืมบอกไปว่าตามกำหนดการ เรือออกเวลา 7:00 น.
เวลา 6:30 น. ผมเดินเข้าไปนั่งในเรือ ที่นั่งใหม่สะอาด มีป้ายภาษาจีนทำให้นึกถึงเรือ Turbo Jet ที่วิ่งข้ามฟากจากมาเก๊าไปฮ่องกงเลยแฮะ


เรือออกจากท่าปากน้ำฯจริงๆ ก็เกือบ 7 โมงครึ่ง วันนี้นักท่องเที่ยวเต็มเรือ(วันอื่นๆก็น่าจะเต็มนะ) พอเรือออกจากท่า ผมไม่ลืมที่จะนำ GPS จับเส้นทาง, ความเร็วเรือ และระยะทางว่าไกลสักแค่ไหน ต่อจากนั้น .... หลับครับ...คงเหนื่อยมาจากการขับรถ ตื่นมาครั้งที่สองก็เจอกับภูเขาอยู่ด้านซ้ายมือ สงสัยจะเป็นเกาะเต่าแน่แท้ วันนี้คลื่นไม่แรงครับ ไม่รู้สึกว่านั่งเรือระยะทางไกลแต่อย่างใด สังเกตคร่าวๆแล้วผมยังไม่เจอคนเมาเรือจนอ๊วกเลยเที่ยวนี้


เรือเทียบท่าที่เกาะเต่าประมาณ 9:20 น. แต่ผมใช้เวลาเดินออกจากท่าเรือ(โป๊ะ)นานทีเดียว เพราะทางเดินแคบมาก ผมว่าน่าจะขยายให้กว้างกว่านี้นะครับ
จากเครื่อง GPS เรือใช้ความเร็วประมาณ 44 กม./ชม. ระยะทางรวมทั้งสิ้น 77.3 กม. เวลาเดินทางจริงๆก็ 2 ชม. เดินออกมา แดดจัดดีจัง


พอเหยียบพื้นดินเกาะเต่า จะมีไกด์ทัวร์ชูป้ายรีสอร์ทของตัวเองให้นักท่องเที่ยวหาได้ง่ายขึ้น ผมถามพวกเขาว่าบ้านเต่าบังกะโลอยู่แถวไหน เขาบอกว่าเดินไปได้ไม่ไกล ออกทางซ้ายมือที่หาดแม่หาด เดินขึ้นเนินเขาอีกนิดเดียวก็ถึง มาสวนกับเจ้าของบังกะโลที่หน้าบังกะโลเขา พี่เขาจะขับรถกระบะมารับที่ท่าเรืออยู่พอดี ทำให้ผมต้องนั่งคอยพี่เขาอยู่ที่เก้าอี้หน้าบังกะโล สุดท้ายผมได้ห้องพักเลขที่ 3 ครับ กำลังเหมาะพอดี บ้านพักของที่นี่จะทำลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดครับ บ้านที่ผมพักเป็นชั้นที่สองนับจากด้านล่างที่อยู่ติดหาดครับ


เข้ามาก็จะเจอกับที่นอนอันนุ่มๆ ส่วนด้านซ้ายมือของประตูก็จะเป็นห้องน้ำในตัว ถ้าไม่สังเกตอาจเข้าใจผิดว่าไม่มีห้องน้ำอย่างที่ผมเข้าใจผิดตอนแรกก็เป็นได้นะครับ


นี่ครับ ด้านหน้าป้ายฝั่งที่ติดกับชายหาดของหาดแม่หาด


หลังจากเก็บสัมภาระไว้ในบ้านพักแล้ว ได้เวลาเดินลงมาถ่ายรูปที่ชายหาดแล้วหล่ะ


แสงแรงอย่างที่ต้องการ ไปช่วยกันทำให้โต๊ะข้างหน้านั้นไม่ว่างกันดีกว่า


ว้าววว....น้ำทะเลสีเขียวใสสสสสส ชอบจังเลยยยย


เหอๆ....ต้นมะพร้าวใต้ทะเล


สนามตะกร้อก็มีให้เล่นน้า แต่ระวังมะพร้าวหล่นใส่หัวละกันหล่ะ //ฮ่าฮ่า


แดดอะไรจะดีขนาดนี้นะ


เอาหล่ะ...อีกรูปก่อนไปทานอาหารกลางวัน เรือหางยาวจอดอยู่เรียงราย


เที่ยงตรง เริ่มทานอาหารแบบบุฟเฟ่ที่บีชคลับ อาหารมื้อแรกของแพ็คเกจ และก็ไม่ผิดหวัง รสชาติอาหารอาหย่อยมากกครับ ขอบอก มื้อแรกยังเกรงใจไม่เติมจานที่สอง แห่ะๆ มื้อต่อไปไม่รู้
แพ็คเกจรอบนี้มี 50 คนด้วยกันที่ต้องมาทานข้าวที่บีชคลับแห่งนี้ แม้ว่าบางคนจะพักที่บ้านเต่าบังกะโลแบบผม หรือพักที่วิวคลีฟอีก 4 คน ที่เหลือพักที่บีชคลับ


ต้องขอชมว่าเจ้าหน้าที่รับรองที่เป็นผู้ชาย 3 คนของที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นกันเองดีมากครับ ยังไม่รวมพวกแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยๆอยู่ข้างในด้วย และอีกคนคือผู้หญิงที่ทำหน้าที่ต้อนรับที่ Reception


ทานข้าวเสร็จก็ออกมาเดินย่อยอาหาร หามุมถ่ายรูปไปเรื่อย ตัวเอกของวันนี้คงหนีไม่พ้นเรือประมงที่จอดอยู่หน้าหาดแม่หาด 3-4 ลำแถวๆนี้


อาร์ตตะลอนทัวร์ อิอิ


ช่วงวันแรก โปรแกรมยังไม่มีอะไร เน้นให้ลูกทัวร์พักผ่อนสบายๆตามอัธยาศัย บางกลุ่มก็เช่าเรือคายัคมาพายเล่นกัน ส่วนผมเดินไปเดินมากับถ่ายรูปอย่างเดียว


มาที่เกาะเต่า ไม่ได้ถ่ายเต่ามันก็กระไรอยู่ ผมเลยถ่ายมาฝากเพื่อนๆละกัน แต่เป็นรูปปั้นนะครับ 555
ที่ได้ชื่อเกาะเต่าก็เพราะว่าสมัยก่อนมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่กันเยอะมาก จึงเรียกว่าเกาะเต่า ไม่ได้มีความหมายว่ารูปร่างเกาะนั้นคล้ายเต่าแต่อย่างใด ดูแล้วคล้ายเมล็ดถั่วแดงมากว่านะครับ


ปะการังเหงาๆอยู่เดียวดาย


ไม่มีอะไรทำ เดินไปหาดทรายรีที่อยู่ใกล้ๆดีกว่าครับ ระหว่างทางก็เจอรีสอร์ทมากมาย ในภาพเป็นบ้านพักของวิวคลิฟ ยื่นไปใกล้ๆทะเล น่าพักมากครับ แต่ราคาก็น่าจะสูงตามไปด้วย


โขดหินบริเวณรีสอร์ทแห่งนี้ ลงเล่นน้ำได้เหมือนกันแต่ต้องระวังหน่อย


เสร็จแล้วเดินต่อไปที่แหลมจปร. ไหว้เสด็จพ่อ ร.5 กันครับ


ในที่สุดก็มาถึงยังหาดทรายรี ...อ๊ะ อ๊ะ.....คนละที่กับหาดทรายรีที่ชุมพรนะครับ ชื่อเหมือนกัน แต่คนละที่คนละจังหวัด หาดนี้เขาว่าเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่หลงแสงสียามค่ำคืน ซึ่งก็จริงเพราะจะเห็นฝรั่งนอนอาบแดดอยู่เต็มไปหมดเลย

แดดร้อนมาก เลยต้องเดินย้อนกลับมายังที่พัก เข้าบ้านพักเพื่อนอนเอาแรงก่อนจะตื่นมารอรถตอนบ่ายสี่โมงเพื่อไปชมวิวที่จุดจอนห์นสุวรรณ



ทางเดินค่อนข้างชันและลำบากสำหรับใครหลายคน คนแก่ๆก็เลยไม่ได้ขึ้นไปดู เพราะมีเม็ดกรวดลื่นๆคอยดักไว้ อีกทั้งต้องปีนป่ายขึ้นบนหินเพื่อไปดูด้านบนอีก หมดสิทธิ์สำหรับคนมีอายุ


แต่ขึ้นไปด้านบนก็คุ้มครับ ณ จุดชมวิวจอห์นสุวรรณนี้(ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะเต่า)เมื่อมองไปทางทิศเหนือจะเห็นโค้งอ่าวอยู่สองอ่าวซ้ายและขวาคล้ายๆเกาะพีพี โดยซ้ายมือเป็นอ่าวโฉลกบ้านเก่าและอ่าวตาโต๊ะ และขวามือเป็นอ่าวเทียนออก ด้านขวาที่เห็นเป็นเกาะเล็กๆน่าจะเป็นเกาะฉลาม


ลองซูมไปทางด้านขวามือ มองเห็นที่พักบังกะโล เดาไม่ผิดน่าจะเป็น OK 2 Bungalow


กลับมายังที่พัก ก่อนที่จะรับประทานอาหารเย็น ก็ใช้เวลาว่างปล่อยไปกับการนั่งจิบบรรยากาศที่ริมทะเลแห่งนี้ มองไปมองมา นึกอิจฉาเจ้าสุนัขตัวนี้เหมือนกันที่มีความสุขเล่นน้ำทะเลอยู่ทุกวัน ไม่ต้องคิดอะไรมากมายกับงานการที่ต้องรับผิดชอบแบบเราๆ


ภาพนี้ชอบเพราะท้องฟ้ามีแสงประหลาดมาก ไม่เคยเห็น


มองดีๆ มี 2 คู่กำลังพายเรือคายัคผ่านหน้าเลนส์


ขอนั่งละเลียดเก็บเกี่ยวบรรยากาศแถวนี้ก่อนนะครับ


โอ...เจ้าหมาสองตัวนั่งเล่นทรายอีกแล้ว มันจะรู้มั๊ยเนี่ยว่ามันกำลังติดเกาะอยู่ ขึ้นฝั่งไม่ได้


คล้ายๆกับแหลมโขดหินยื่นออกไปในทะเล


แสงสุดท้ายของวันนี้ที่เกาะเต่าแล้วหล่ะครับ มองดูแล้วเหงาจัง


ที่บีชคลับเริ่มเปิดไฟแล้วหล่ะครับ


โห....ไม่มีคำบรรยาย


ด้านหน้าหาดแม่หาด ที่ทานอาหารเย็นของพวกเรา


ทานอาหารเย็นเสร็จ ไม่น่าเชื่อว่ามีโชว์จากน้องผู้ชายที่มาแสดงการเหวี่ยงเชือกโดยปลายทั้งสองจุดติดกับไฟ


คราวนี้มีอีกคนมาแจม เลยมี 2 อุปกรณ์ทั้งเชือกและไม้กระบอง รู้สึกไม้กระบองจะเล่นยากกว่าเพราะเห็นจากการที่หมุนแล้วตกบ่อย แต่ผมก็เป็นกำลังใจให้ตลอดโดยปรบมือเมื่อการแสดงจบ

 แล้วไว้เจอกันในวันรุ่งขึ้น วันที่ฝนพรำๆตลอดทั้งวัน สวัสดีครับ

Original Published on www.pantip.com at [ 14 ก.พ. 49 21:29:38 ]