คิดไปคิดมาว่าจะโพสต์รูปที่ไปเกาหลีดีไม่ดี จนตัดสินใจไม่โพสต์ไปตั้งนานแล้ว เพราะไม่มีข้อมูลเลย ที่ผ่านมาโพสต์ได้เพียงสนามบินอินชอนตอนขากลับเท่านั้น แต่นึกไปนึกมาอีกที เสียดายรูปจะเน่าซะก่อน เลยเอากลับมาโพสต์ดีกว่า แต่เป็นการโพสต์รูปอย่างเดียวคงไม่มีข้อมูลอะไรมากเพราะไม่ได้ไปเอง มีคนพาไปครับ
ช่วงปลายปี 47 ต่อปี 48 นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดก็ว่าได้ เนื่องจากช่วงนั้นผมได้เดินทางทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศบ่อยมาก ส่วนใหญ่ไปเอง จะมีก็ทริปเกาหลีนี้แหล่ะที่แจ็ตพ็อตมาที่ผม ทำโปรเจ็คอยู่ดีๆ เจ้านายเรียกไปบอกว่าให้เตรียมตัวไปดูเครื่องจักรที่บริษัทจะซื้อใหม่ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันมีใช้งานอยู่ประเทศเกาหลีใต้ อยู่ในเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซลออกไป รับทราบข่าวไม่ถึงหนึ่งเดือน โอว....มายก๊อด...อยากไปเป็นที่สุด ดินแดนกิมจิเนี่ย
เนื่องจากมีคนพาเราไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเตรียมข้อมูลอะไรเพราะไม่ได้ไปเอง รูปที่จะโพสต์ดังต่อไปนี้จึงไม่มีคำบรรยายมากนัก แค่จำว่าได้ไปมาก็ดีมากแล้ว ถ้าวมีเวลา ผมจึงตั้งใจไว้ว่าจะกลับไปซ่อมแน่นอน ฝากไว้ก่อนเถอะ...
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว เตรียมบินลัดฟ้าตามไปด้วยกันเลย
พอเครื่องเทคออฟก็ได้เวลาพลอยหลับแล้ว เพราะไม่มีอะไรให้ดู เที่ยงคืนกว่าๆ เอาแรงไว้ไปเดินท่องตอนเช้าที่เกาหลีดีกว่า
พอเริ่มเข้าเขตน่านฟ้าประเทศเกาหลีใต้ ทางแอร์ก็เริ่มออกปฏิบัติการแล้ว คือเสริฟอาหารมื้อแรกนั่นเอง เวลาในไทยก็ประมาณตี 3 ครึ่งหนึ่ง หรือเวลาในเกาหลีตี 5 ครึ่ง จำไม่ได้แล้วแหล่ะว่าอาหารมื้อนั้นเป็นอะไร แต่ดูแล้วมีซอสมะเขือเทศให้จิ้มด้วยนะ
5:45 น. พระอาทิตย์ก็ขึ้นมาทักทายเรา ณ ขอบฟ้าประเทศเกาหลีใต้ สังเกตมั๊ย มีเกล็ดน้ำแข็งมาเกาะกระจกข้างนอกด้วย สงสัยอากาศภายนอกคงหนาวน่าดู
ว้าว....ทะเลเมฆ ที่ระดับความสูงกี่หมื่นฟิตกันนะ
6 โมงครึ่ง เครื่องลดระดับลงมากแล้ว แลเห็นน่านน้ำเกาหลีอยู่เบื้องล่าง เรือหลายลำจอดอยู่เรียงราย ทำไมผมเห็นแล้วช่างให้บรรยากาศเครื่องบินไปทิ้งระเบิดก็ไม่รู้
ลงเครื่องแล้วก็ต้องผ่านตม.เกาหลี ตม.ประเทศที่ได้ชื่อว่าผ่านยากที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ผมไม่สนใจเท่าไหร่หรอก คิดว่าตอบคำถามคล่องก็คงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งก็จริง แต่ประโยคแรกที่ตม.ผู้ชายถามผมหลังจากได้ดูพาสปอร์ตคือ "Can you speak English ?" ผมตอบ "No" อ๊ะ....ไม่ใช่ ก็ตอบๆไปตามที่เรามาทำอะไรจริงๆ มีคนหนึ่งในกรุ๊ปผมเกือบไม่ผ่านเหมือนกัน ต้องให้พี่อีกคนมาช่วยไว้ สุดท้ายก็ออกมาได้
ผมเองก็อยากถ่ายตอนเข้าแถวรอตม.เหมือนกัน แต่กลัวมีปัญหา เลยมาถ่ายรูปตอนออกผ่านตม.แล้วดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ
นี่ไง....ถึงเกาหลีใต้แล้วววว
เราออกเดินมาข้างนอกสนามบินตรงป้ายรถเมล์เพื่อรอรถจากไกด์ผู้หญิงคนไทยที่จะมารับเราไป รอนานจนคิดว่าจะเบี้ยวซะอีก สุดท้ายก็มาจนได้
ออกจากสนามบินอินชอนเพื่อเข้าตัวเมือง ซึ่งระหว่างทางเป็นดินโคลน น้ำกำลังลด ดูแล้วไม่ทัศนียภาพไม่สวยงามเลย
ดูใกล้ๆ วิวระหว่างทางจากสนามบินอินชอนไปกรุงโซล
8 โมงเช้าหน่อยๆ ก็เข้ามาถึงตัวเมืองแล้ว สะพานอะไรเอ่ย ใครรู้ช่วยบอกที
ที่เกาหลีรถไหนๆเขาก็ใช้ระบบนำทางด้วย GPS กันทั้งนั้น อ้อลืมบอกไป รถเก๋งหรือรถอะไรก็แล้วแต่ที่แล่นในประเทศเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ชาวเกาหลีเขาผลิตเองเช่น HUNDAI DAEWOO ฯลฯ น้อยที่จะเห็นรถยุโรป ส่วนรถญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึง ประเทศเขาชาตินิยมจริงๆ
มาถึงแล้วที่แรก บริเวณบลูเฮาส์ บ้านพักประธานาธิบดี แต่ในรูปเป็นกลองอะไรไม่ทราบ
สัญญลักษณ์นกฟินิกซ์บนน้ำพุเคียงข้างบ้านประธานาธิบดี
นี่ไง บ้านประธานาธิบดีแบบซูมเต็มๆ
จราจรคนนี้เท่ดีมีแท่นให้ยืนด้วย แถมยังมีไฟจราจรอยู่บนหัวอีก
มาถึงแล้ว พระราชวังเคียงบกกุง(Gyeongbokkung Palace) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีประกอบด้วยหมู่อาคารต่างๆ มากมาย
มาดูพาโนรามากันบ้าง พระราชวังใจกลางเมือง ยาวสุดสายตา
วิวด้านหน้า แต่ก่อนเข้าไปซื้อบัตรก่อนนะ
มาแล้ว ขบวนทัพสมัยก่อนของเกาหลี
นักรบแดนโสมในชุดสีแดง เท่ซะไม่มี
สุขุม นุ่มลึก
เดินเข้าไปข้างในพระราชวังกันครับ
บนเพดานของพระราชวัง มีงานจิตรกรรมสีสันสวยงาม
เขาเรียกว่าอะไรเนี่ย กระถางธูปหรือเปล่า ? ลวดลายสวยงามจัง
หินสลักรูปกระต่าย(หรือเปล่า ?) ปีเกิดผมพอดี
อีกมุมหนึ่งของพระราชวังด้านใน ดูเหมือนกับไม่มีคน
ต้นไม้ร่มรื่นดีครับ
คนเยอะพอควรโดยเฉพาะเด็กๆ ที่นี่ผมชอบอย่างตรงที่เขาส่งเสริมเด็กตั้งแต่เล็กๆให้มาทัศนศึกษาสถานที่ต่างๆของประเทศเขา เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกความรักชาติ
รูปแกะสลักหินข้างทางเดิน ความหมายคืออะไรใครรู้ช่วยบอกที
ต้นอะไรดอกสีขาวคล้ายๆซากุระเลย หรือจะใช่ครับ
รูปแกะสลักเหล่านี้มีเขี้ยวด้วย น่ากลัวจัง
คราวนี้ไม้แกะสลักบ้าง ด้านขวาอย่างกับท่านเปาบุ้นจิ้นแหน่ะ
11 โมงครึ่งก็ได้เวลาทานอาหารมื้อแรกของเกาหลีแล้ว มีซุปไก่ร้อนมากๆ ปากจะสุกเอา เส้นบะหมี่และกิมจิ กินกิมจิครั้งแรก แปลกๆจัง แต่ก็อร่อยนะ
ไกด์เขาปล่อยให้ผมลงเดินที่นี่อ่ะ ที่ไหนก็ไม่รู้ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะเลย โน้ตบุคก็มี
ต่อจากนั้นจึงย้อนกลับมาพักที่โรงแรมย่านอิเทวอน ผ่านพิพิธภัณฑ์สงครามของเกาหลี แท่งยาวๆคล้ายเหล็กขูกชาร์ฟที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเราเลย
ย่านฐานทัพสหรัฐฯ ที่ยงซาน มีเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเดินถือกระบองไม้ไปมา เห็นแล้วให้นึกถึงเวลาดูข่าวที่นักศึกษาเกาหลีใต้ประท้วงรัฐบาลอยู่เนืองๆ
อีก 10 นาที 5 โมงเย็น เราก็มาถึงที่พักที่ย่านอิเทวอนซึ่งก็คือโรงแรมอิเทวอนนั่นเอง
วิวห้องพักเมื่อมองออกไป
ภายในห้องพัก ใช้ได้เลย
อีกมุมหนึ่ง เมื่อมองจากประตูทางเข้า
พออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ก็นัดกันมาเดินเที่ยวด้านล่างและพร้อมๆกับทานอาหารมื้อเย็นแถบย่านนี้
Hi So จริงๆ อ้าว...ไม่ใช่ Hi Seoul เป็นงาน Grand Sale ลดแหลดแจกแถมสินค้าย่านอิเทวอน
ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้ว มีอะไรบ้างก็จำไม่ได้ แต่รู้ว่ามีกิมจิด้วยทุกมื้อ 555
เล็งๆไว้ว่าจะเข้าซะหน่อย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เข้าไปซะที Adult Shop นั่นเอง 555
บรรยากาศริมทางเดินย่านอิเทวอนใกล้ทุ่มหนึ่งแล้ว
สองทุ่มก็ต้องขอกลับเข้าที่พักก่อนแล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไกลไปดูงาน ได้ติดตามกันต่อนะครับ โพสต์เองก็คิดถึงเกาหลีเหมือนกัน อยากกลับไปอีกๆๆๆ ราตรีสวัสดิ์ครับ _/\_
Original Published on www.pantip.com at [ 12 ก.พ. 50 22:18:47 ] as below link
เห็นว่าบทความนี้น่าสนใจ รบกวนกดแชร์ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น